วารสารสุทธิปริทัศน์
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal
<p><strong>วารสารสุทธิปริทัศน์</strong></p> <p><strong>ISSN : 2730-2717 (online) ISSN : 2730-2709 (print)</strong></p> <p><strong>กำหนดออก :</strong> ปีละ 4 ฉบับ <br />ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม <br />ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน <br />ฉบับที่ 3 สิงหาคม-กันยายน <br />และฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม รวมทั้งฉบับพิเศษ (ถ้ามี)</p> <p><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์ </strong>วารสารมีนโยบายรับตีพิมพ์บทความ ในด้านสังคมศาสตร์ อันได้แก่</p> <p><strong>สาขาวิชา </strong><strong>:</strong><strong><br /></strong>1. บริหารธุรกิจ การจัดการและการบัญชี<br />2. เศรษฐศาสตร์ เศรษฐมิติและการเงิน</p> <p><strong>สาขาวิชาย่อย :<br /></strong>1. ธุรกิจทั่วไป การจัดการและการบัญชี<br />2. การจัดการด้านกลยุทธ์และการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ที่เกี่ยวข้องกับทางธุรกิจ)<br />3. พฤติกรรมองค์กรและการจัดการทรัพยากรมนุษย์<br />4. เศรษฐศาสตร์ทั่วไป เศรษฐมิติ และการเงินและการบัญชี</p>
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
th-TH
วารสารสุทธิปริทัศน์
2730-2709
<p>เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารสุทธิปริทัศน์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ</p> <p>บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสุทธิปริทัศน์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสุทธิปริทัศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารสุทธิปริทัศน์ก่อนเท่านั้น</p>
-
กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดออนไลน์บนช่องทางอีคอมเมิร์ซของดูโฮม
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/267718
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการวางแผนกลยุทธ์ ศึกษารูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์ และศึกษาการวิเคราะห์ และประเมินผลการสื่อสารการตลาดออนไลน์บนช่องทางอีคอมเมิร์ซของดูโฮม เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยได้กำหนดแนวทางการเก็บข้อมูลโดยสัมภาษณ์เชิงลึก โดยศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องของการทำวิจัย ผลการศึกษาพบว่า ดูโฮมที่ประสบผลสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ของสินค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนการสื่อสาร 1. ใช้กลยุทธ์การสื่อสารออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าตามพฤติกรรมของผู้บริโภค 2. ใช้สื่อ Facebook ในการสื่อสารไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อให้เกิดการขายบนช่องทางมาร์เก็ตเพลส เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำในตัวสินค้า 3. ใช้ TikTok ในการสร้างกระแสเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านคลิปวิดีโอสั้น ๆ และผ่านช่องทาง TikTok Live 4. ใช้งบประมาณการซื้อโฆษณาตามแต่ช่วงแคมเปญในช่องทางมาร์เก็ตเพลสเหมาะสม เนื่องจากจะมีโปรโมชั่นลดราคาสินค้ามากมายจำนวนมากจากทั้งทางแบรนด์ โดยผันแปรตามยอดขายสินค้าของดูโฮมที่เกิดขึ้น 5. มีการวิเคราะห์และประเมินผลการสื่อสารการตลาดออนไลน์บนช่องทางอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเก็บข้อมูลจากรายงานสรุปผลของทีมการตลาดที่สรุปยอดขายสินค้า แบบรายวัน รายเดือน และรายปี เปรียบเทียบกันไป เพื่อทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากที่สุด</p>
กันตภณ หงษ์กลิ่น
องอาจ สิงห์ลำพอง
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
1
15
-
การพัฒนาการออกแบบประสบการณ์บริการสำหรับธุรกิจสุขภาพ กรณีศึกษา บริการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเทศไทย
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/267122
<p><strong> </strong>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. ประสบการณ์ของผู้ใช้บริการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 2. การรับรู้คุณภาพการให้บริการของผู้ใช้บริการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ 3. ความจงรักภักดีในธุรกิจสุขภาพจากบริการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้บริการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 400 คน วิเคราะห์ความแตกต่างของปัจจัยด้วยสถิติการวิเคราะห์พหุตัวแปร ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนมากเป็นเพศหญิง <br />ร้อยละ 60.50 อายุ 31-40 ปี ร้อยละ 31.25 ส่วนมากมีอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 44.50 รายได้เฉลี่ย 20,001–25,000 บาท ต่อเดือน ร้อยละ 24.25 เข้าใช้บริการตรวจสุขภาพ 1 ครั้ง/ต่อปี ร้อยละ 78.00 ประสบการณ์บริการของผู้ใช้บริการภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (<img title="\bar{x}" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\bar{x}" />= 4.36) การรับรู้คุณภาพการให้บริการของผู้ใช้บริการภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (<img title="\bar{x}" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\bar{x}" />= 4.40) ความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (<img title="\bar{x}" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\bar{x}" />= 4.38) ภาพรวมประสบการณ์ของผู้ใช้บริการ การรับรู้คุณภาพการให้บริการของผู้ใช้บริการ ที่แตกต่างกันส่งผลต่อความจงรักภักดีในธุรกิจสุขภาพจากบริการตรวจสุขภาพที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<strong>-</strong>value < 0.001) ดังนั้นควรมีส่งเสริมประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้บริการ และพัฒนายกระดับคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาไว้ซึ่งความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการ</p>
ตรีสุคนธ์ บุตรพลอย
ฉัตรฤดี จองสุรียภาส
ธฤตวัน เจริญพร
ชนินทร์ อยู่เพชร
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
16
32
-
การวิเคราะห์ข้อมูลผู้รับเหมาที่ทิ้งงานก่อสร้างภาครัฐของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/267070
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและศึกษาแนวโน้มของผู้ทิ้งงานก่อสร้างภาครัฐของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยจําแนกตามวีธีการจัดซื้อจัดจ้าง รูปแบบองค์กรธุรกิจมูลค่าโครงการ ประเภทงาน และที่ตั้งโครงการ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ทิ้งงานก่อสร้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 182 ราย ตามหนังสือแจ้งเวียนรายชื่อผู้ทิ้งงานของกรมบัญชีกลาง จํานวน 138 ฉบับ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561-2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบบันทึกข้อมูลผู้ทิ้งงานก่อสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ และสถิติเชิงอนุมานคือ สมการถดถอยเชิงเส้นอย่างง่าย การทดสอบไคสแควร์ ผลการศึกษาพบว่า วีธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทิ้งงานมากที่สุด คือ วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป และมีแนวโน้มการทิ้งงานเพิ่มมากขึ้น รูปแบบองค์กรธุรกิจที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทิ้งงานมากที่สุดคือ รูปแบบองค์กรธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในขณะที่บุคคลธรรมดามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นที่สุดและพบว่ารูปแบบองค์กรธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 5 ล้านบาท มีจำนวนผู้ที่ทิ้งงานน้อยที่สุด มูลค่าโครงการที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทิ้งงานมากที่สุด คือ โครงการที่มูลค่าโครงการไม่เกิน 1 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ประเภทงานที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทิ้งงานมากที่สุด คือ งานก่อสร้างอาคารใหม่ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ประเภทงานที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทิ้งงานมากที่สุด คือ งานก่อสร้างอาคารใหม่ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ที่ตั้งโครงการที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทิ้งงานมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่า วิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่แตกต่างกันกระจายการทิ้งงานก่อสร้างเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกัน ส่วนรูปแบบองค์กรธุรกิจ มูลค่าโครงการ ประเภทงาน และที่ตั้งโครงการ ที่แตกต่างกันกระจายเป็นสัดส่วนที่ไม่แตกต่างกัน</p>
วลีรัตน์ ฤทธิ์กลาง
สุรวี ศุนาลัย
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
33
50
-
การศึกษาความสามารถในการออมของแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/266889
<p>บทความงานวิจัยเรื่องการศึกษาความสามารถในการออมของแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการออมของแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยข้อมูลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2562 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ แรงงานที่ประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จำนวน 5,605 คน ช่วงอายุ 15-90 ปี มาวิเคราะห์ทางสถิติ โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และใช้แบบจำลองสมการการถดถอยโลจิสติกส์แบบทวิภาค (Binary Logistic Regression) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่อความสามารถในการออมของแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผลการศึกษาพบว่า แรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีสัดส่วนของครัวเรือนที่สามารถออมได้มากที่สุดคือ แรงงานในธุรกิจโรงแรมและที่พัก รองลงมาเป็นแรงงานที่อยู่ในธุรกิจนำเที่ยว ปัจจัยที่ส่งผลทางบวก ต่อความสามารถในการออมของแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของแรงงาน แรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่มีสถานะการทำงาน เป็นลูกจ้าง พนักงานและข้าราชการ ทำธุรกิจส่วนตัวและธุรกิจในครัวเรือน ส่วนปัจจัยที่ส่งผลทางลบต่อความสามารถในการออมของแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ หนี้สิน จำนวนสมาชิกในครัวเรือน เพศของแรงงาน สถานภาพการสมรสของแรงงาน และแรงงานที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป</p>
วิมลรัตน์ ศรีรัตนกูล
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-01-29
2024-01-29
37 4
51
72
-
การสื่อสารการตลาดแนวคิดชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืนของชุมชนเทศบาล ตำบลบางม่วง
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/263773
<p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาหารูปแบบและแนวทางในการสื่อสารการตลาดแนวคิดชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืนของชุมชนเทศบาลตำบลบางม่วง ปัจจัยในการเลือกสื่อและแนวโน้มการสื่อสารการตลาดในอนาคต ซึ่งเทศบาลตำบลบางม่วงมีการผสมผสานรูปแบบการดำเนินชีวิตในรูปแบบกึ่งชุมชนเมือง จึงมีเปิดโอกาสให้ชุมชนออกมาร่วมกันแสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการลดผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สามารถเติบโตควบคู่กับการพัฒนาของชุมชนเมือง ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือรวบรวมข้อมูลโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายจากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ชาวบ้านในชุมชนในเทศบาลตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จำนวน 400 คน ใช้ความถี่ค่าเฉลี่ย ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป และวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จาก 37 กลุ่มตัวอย่าง โดยการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการเขียนเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปผล โดยอาศัยความสอดคล้องและความเป็นเหตุเป็นผล<br />ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการดำเนินชีวิตของประชาชนที่หันมาสื่อสารผ่านออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Social Media เช่น Facebook Tiktok Line รวมถึง Youtube ส่งผลให้การสื่อสารการตลาดแบบออฟไลน์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อประชาชนหันไปทำการสื่อสารการตลาดบนออนไลน์มากยิ่งขึ้น นักการตลาดและนักวางแผนสื่อก็ต้องปรับตัวเรื่องการใช้สื่อมากขึ้น ในขณะที่ยังคงมองว่าการสื่อสารการตลาดในรูปแบบออฟไลน์ก็ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการรับรู้และการเข้าถึงสินค้าและบริการได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะต้องควบคู่กับการสื่อสารการตลาดแบบออนไลน์ก็ตาม จึงได้มีการวางแผนการสื่อสารการตลาดแนวคิดชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งหาแหล่งรายได้ของชุมชน เช่น ตลาด เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งถือว่า เป็นสถานที่ศูนย์รวมใจแห่งชุมชน ในการสร้างรายได้และการรับรู้ถึงชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดี และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการสื่อสารการตลาดแนวคิดชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืนของชุมชนเทศบาลตำบลบางม่วงมีความสำคัญต่อการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต ต่อมาจึงวางแผนการสื่อสารตลาดโดยคำนึงถึงกระบวนการวางแผนสื่อ ในขั้นตอนแรกเป็นการเข้ารับโจทย์การสื่อการตลาด หลังจากนั้นจึงวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาด ต่อมาจึงประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์ วางวัตถุประสงค์ และกลยุทธ์การใช้สื่อ รวมถึงกิจกรรมทางการตลาด การกำหนดงบประมาณเพื่อเป็นกรอบในการวางแผนให้กระบวนการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กระบวนการวางแผนสื่อและการสื่อสารการตลาด เป็นการกำหนดวัตถุประสงค์และรูปแบบการสื่อสารการตลาด วางแผนสื่อ พร้อมทั้งนำเสนอแผนเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ก่อนออกแบบผลิตและดำเนินการซื้อสื่อ เผยแพร่สื่อ และติดตามประเมินประสิทธิผลสื่อต่อไป ซึ่งปัจจัยในการเลือกใช้สื่อได้มีการพิจารณาจากด้านตลาดเป้าหมาย ด้านสินค้าหรือบริการ ด้านการยอมรับสื่อ</p>
คุณากร วิวัฒนากรวงศ์
รชฏ ขำบุญ
นวพงศ์ ตัณฑดิลก
สุรชัย สวนทับทิม
ชัชชุดา จิระนันทิพร
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
73
84
-
บรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัล ของบุคลากรสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ส่วนกลาง)
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/267071
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัล และศึกษาบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัลของบุคลากรสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ส่วนกลาง) ใช้แบบสอบถามออนไลน์ในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 311 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t-Test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า 1. บุคลากรที่มีเพศ ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และประเภทบุคลากรที่แตกต่างกัน มีประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัลแตกต่างกัน และ 2. บรรยากาศองค์การสามารถอธิบายการผันแปรของประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัลของบุคลากรสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ส่วนกลาง) ได้ร้อยละ 38.10 ตัวแปรอิสระที่มีอำนาจในการทำนาย ได้แก่ การให้การสนับสนุน (X<sub>2</sub>) ความผูกพัน (X<sub>3</sub>) ความรับผิดชอบ (X<sub>5</sub>) และมาตรฐาน (X<sub>6</sub>) สมการวิเคราะห์ถดถอย คือ <img title="\hat{y}" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\hat{y}" />= 1.586 + 0.109(X<sub>2</sub>) + 0.116(X<sub>3</sub>) + 0.150(X<sub>5</sub>) + 0.189(X<sub>6</sub>)</p>
กิรชัญญา ของโพธิ์
สุรวี ศุนาลัย
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
85
96
-
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/266240
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาการตัดสินใจเข้ามาใช้บริการในร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ นนทบุรี 2. เพื่อศึกษาคุณภาพการบริการของร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ นนทบุรี และ 3. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ นนทบุรี กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชากรที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในเขตพื้นที่บางใหญ่และเป็นผู้ใช้บริการร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ นนทบุรี จำนวน 400 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ T-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัยด้านคุณภาพการบริการ และการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก 2. ผู้ใช้บริการร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ที่มีอายุ รายได้ และสถานภาพต่างกันมีการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และปัจจัยคุณภาพการบริการ ด้านการตอบสนองต่อลูกค้า ด้านการให้ความความมั่นใจแก่ลูกค้า ด้านความเป็นรูปธรรมของการบริการ และด้านความน่าเชื่อถือ มีผลต่อการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าต่อร้านสะดวกซื้อในเขตบางใหญ่</p>
พลวัต อนุกูล
บุญเลิศ วงศ์เจริญแสงสิริ
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
97
111
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวทางการจัดการการจ้างแรงงานต่างด้าวของสถานประกอบกิจการในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/267660
<p>This research aims to determine guidelines for managing migrant worker employment and to investigate fators affecting guidelines for managing migrant worker employment of enterprises in the area of Udon Thani province. Quantitative research was employed. The research population consisted of 866 enterprises in the Udon Thani province employing migrant workers. Questionnaires were used to collect the data from 274 entrepreneurs and the data was analyzed using descriptive and inferential statistics, including F-test, and multiple regression analysis at a 0.05 significance level. The research findings demonstrated that the highest level of guidelines for managing migrant workers’ employment of enterprises was leading, followed by organizing, planning, and controlling. It also showed that the enterprises with different size and length of business operation had statistically different in level of guidelines for managing migrant workers’ employment. Besides this, it revealed that the enterprises’ opinions on social welfare cost saving influenced the guidelines for managing migrant workers’ employment in the area of Udon Thani province. These three variables were able to clarify the guidelines for managing migrant workers’ employment at 7.6% (R<sup>2</sup> = 0.076). The final result showed that the obstacle traits of enterprises’ migrant workers' employment in the workplace environment and coordination with government agencies influenced the guidelines for managing migrant workers’ employment. These three variables can explain the guidelines for managing migrant workers’ employment in the area of Udon Thani province at 15.9% (R<sup>2</sup> = 0.159).</p>
ไพทูลย์ คงสงค์
จรัญญา ปานเจริญ
สุกัญญา สิงห์ตุ้ย
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
112
126
-
NEVER BET THE FARM: How Entrepreneurs Take Risks, Make Decision – and How You Can. Too
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/269712
ธฤตวัน เจริญพร
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2023-12-22
2023-12-22
37 4
127
128