https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/issue/feed Maejo Business Review 2024-05-29T00:00:00+07:00 Assistant Professor Dr.Kulchaya Waenkaeo kulchaya@mju.ac.th Open Journal Systems <p>วารสาร Maejo Business Review เผยแพร่บทความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยบทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ในหลายมิติ โดยต้องนำเสนอให้เห็นถึงการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ทางวิชาการที่มีประโยชน์และน่าสนใจ รวมถึงการนำเสนอผลการวิจัยที่เป็นปัจจุบัน และเป็นประโยชน์ต่อแวดวงวิชาการ และวิชาชีพ <strong>โดยวารสารได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review) ที่มีความเชี่ยวชาญตรงสาขาที่เกี่ยวข้องโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้เขียนต่อผู้พิจารณา (double blind peer review) และ<em>มีผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 3 ท่าน</em> ทำหน้าที่ในการประเมินคุณภาพผลงานวิชาการ เพื่อความเป็นมาตรฐานของวารสาร และเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ</strong> โดยบทความที่ผ่านการพิจารณาประเมินคุณภาพผลงานวิชาการ จะได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Maejo Business Review</p> https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/268791 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการค้าส่งของผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 2023-12-07T10:50:39+07:00 โศภิน รัตนสุภา ssopinster@gmail.com ถาวรินทร์ คงมณี ssopinster@gmail.com อารีนี จารู ssopinster@gmail.com <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการค้าส่งของผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านการบริการลูกค้า ด้านการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้านราคา และด้านลักษณะองค์กรผู้ให้บริการกับการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการค้าส่งของผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นการวิจัยเชิงสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูลจากลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของผู้ให้บริการค้าส่ง จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอ้างอิงการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ พบว่า การบริการลูกค้า<br />ราคา และลักษณะองค์กรผู้ให้บริการ ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการค้าส่งของผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นั่นหมายถึง ผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งจะต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ขององค์กรที่จะช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านการบริการลูกค้า ด้านราคา และด้านลักษณะองค์กรผู้ให้บริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า อันจะนำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันของธุรกิจ</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 Maejo Business Review https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/268936 การศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อความพึงพอใจต่อการซื้ออาหารทะเลแห้ง ของผู้บริโภคในประเทศไทย 2023-12-12T10:45:24+07:00 อรอนงค์ อำภา ornanong.a@tsu.ac.th ชมพูนุช โสมาลีย์ Ornanong.a@tsu.ac.th ชุตินุช สุจริต Ornanong.a@tsu.ac.th นัฎฐา คเชนทร์ภักดี Ornanong.a@tsu.ac.th <p>งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อความพึงพอใจต่อการซื้ออาหารทะเลแห้งของผู้บริโภคในประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ การเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านแบบสอบถามออนไลน์ ใช้การสุ่มตัวอย่างตามความสะดวกจากผู้บริโภคชาวไทยที่เคยซื้ออาหารทะเลแห้ง ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 366 ราย การวิเคราะห์ส่วนประสมทางการตลาด โดยเลือกใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้บริโภคที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า ส่วนประสมทางการตลาด ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารทะเลแห้งที่จัดจำหน่ายในงานแสดงสินค้าโอทอป ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารทะเลแห้งของร้านค้าปลีกมีการจำหน่ายทางออนไลน์และมีหน้าร้าน ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารทะเลแห้งของผู้ขายแบบออนไลน์อย่างเดียวและไม่มีหน้าร้าน และด้านการส่งเสริมการตลาดมีผลต่อความพึงพอใจต่อการซื้ออาหารทะเลแห้งของผู้บริโภคในประเทศไทย ในขณะเดียวกันด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารทะเลแห้งที่ร้านค้าปลีกไม่มีผลต่อความพึงพอใจต่อการซื้ออาหารทะเลแห้งของผู้บริโภคในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 Maejo Business Review https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/269155 ประสิทธิภาพทางเทคนิคและช่องว่างทางเทคโนโลยีการผลิตอ้อยของเกษตรกร พื้นที่เพาะปลูกจังหวัดพิษณุโลก 2024-02-21T10:32:22+07:00 ณัฐกฤตา สนองบุญ nuengnatkrita@gmail.com กฤษดา กาวีวงศ์ nuengnatkrita@gmail.com <p>การประมาณประสิทธิภาพทางเทคนิคจากฟังก์ชั่นขอบเขตการผลิตเชิงสุ่ม โดยใช้แบบจำลองขอบเขตการผลิตอภิมาน เพื่อสามารถพิจารณาความไร้ประสิทธิภาพการผลิตที่เกิดจากวิธีปฏิบัติทางการเกษตรช่องว่างทางเทคโนโลยี ศึกษาจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยที่มีการทำการเกษตรแบบพันธะสัญญากับโรงงานน้ำตาลพิษณุโลก ในปีการเพาะปลูก 2564/65 จำนวน 3 พื้นที่ ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก พรหมพิราม และบางระกำ รวมจำนวนเกษตรกรผู้เพาะปลูกอ้อย 365 ราย พบว่า ตัวแปรที่มีผลกระทบทางบวกต่อจำนวนผลผลิตรวม ได้แก่ สัดส่วนการใช้พื้นที่การเพาะปลูกอ้อย จำนวนแรงงาน ต้นทุนการใช้ปุ๋ย อายุของต้นอ้อย การส่งเสริมการเกษตร การอพยพโยกย้ายถิ่นประชากรระหว่างพื้นที่ และการเข้าถึงสินเชื่อ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความไร้ประสิทธิภาพ ได้แก่ การเข้าถึงที่ดิน ฟาร์มขนาดใหญ่สามารถเข้าถึงทรัพยากรการผลิตมากกว่า สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้มากกว่าฟาร์มขนาดเล็ก ต้นทุนการใช้ปุ๋ยเป็นผลให้ความไร้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่การอพยพย้าย และต้นทุนเคมีทางเกษตรทำให้ความไร้ประสิทธิภาพลดลง สำหรับพื้นที่เพาะปลูกอำเภอเมืองพิษณุโลก</p> <p>ช่องว่างทางเทคโนโลยีที่เป็นผลให้เกิดความไร้ประสิทธิภาพการผลิต ช่องว่างทางเทคโนโลยีเฉลี่ย (MTR) ของเกษตรกร มีค่าเป็น 48%, 79% และ 70% ตามลำดับ เป็นสาเหตุให้สภาพแวดล้อมทางการผลิตที่ไม่เอื้อต่อการผลิต ทำให้ความสามารถการผลิตของเกษตรกรลดลง หากมีการการผลิตโดยมีการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เกษตรกรจะสามารถเพิ่มผลผลิตได้ 52%, 21% และ 30% ตามลำดับ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมทางการผลิต การปรับปรุงพัฒนาถนน การเข้าถึงตลาดปัจจัยการผลิตและตลาดผลผลิต เป็นผลกระทบทางบวกต่อการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการผลิต</p> <p>หากการออกแบบโครงการที่เพิ่มความสามารถในการจัดการการผลิตและยกระดับทักษะทางการเกษตรของเกษตรกรเหมาะสมจะช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มจำนวนผลผลิต ให้เข้าใกล้ขอบเขตการผลิตของพื้นที่เพาะปลูกนั้น การเพิ่มความสามารถของเกษตรกรในการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นและเทคโนโลยีการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลให้เกิดผลสองทางได้แก่ การเพิ่มผลผลิตไปพร้อมกับการลดต้นทุนการผลิต และจะเป็นผลให้มีความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศของภาคธุรกิจ</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 Maejo Business Review https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/270762 ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริงหลังยุควิถีชีวิตใหม่ กรณีศึกษา สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี 2024-03-01T09:45:07+07:00 อริสรา เสนาศรี 63920187@go.buu.ac.th เนตรดาว ชัยเขต 63920187@go.buu.ac.th กฤษนัยน์ เจริญจิตร 63920187@go.buu.ac.th <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติในการยอมรับเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริง (2) วิเคราะห์โมเดลองค์ประกอบเชิงยืนยันของปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติในการยอมรับเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริง และ (3) ตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริง กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคคลทั่วไปที่เคยผ่านการรับชมหรือรับบริการเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริงของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จำนวน 408 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และการวิเคราะห์สมการโมเดลเชิงโครงสร้าง ผลการวิจัย พบว่า (1) ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริง ได้แก่ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, การรับรู้ถึงการได้รับประโยชน์, การรับรู้ถึงการใช้งานง่าย, ทัศนคติที่มีต่อการยอมรับเทคโนโลยี และการยอมรับเทคโนโลยี (2) โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของการยอมรับเทคโนโลยีแบบจำลองเสมือนจริงมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่า <em>p-value </em>เท่ากับ .000, ค่า Relative Chi-Square เท่ากับ 1.813, ค่า GFI เท่ากับ .923, ค่า CFI เท่ากับ .976, ค่า NFI เท่ากับ .948, ค่า RMSEA เท่ากับ .05, และค่า RMR เท่ากับ .023</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 Maejo Business Review https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/271380 ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้บริหารสูงสุดทางการเงิน กับผลการดำเนินงานของกิจการ : หลักฐานเชิงประจักษ์จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ 2024-03-22T14:07:23+07:00 อรุณี ยศบุตร a.yodbutr@gmail.com <p>งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้บริหารสูงสุดทางการเงินกับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยทำการศึกษาข้อมูลจากรายงานประจำปี รายงานแบบ 56-1 และงบการเงินของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในปี พ.ศ. 2563-2564 จำนวนทั้งสิ้น 257 กลุ่มตัวอย่าง และใช้การวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการจบการศึกษาทางด้านการบัญชีหรือการเงินของผู้บริหารสูงสุดทางการเงิน และการเป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้บริหารสูงสุดทางการเงินมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการดำเนินงานของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และพบว่าประเภทอุตสาหกรรมของบริษัทซึ่งเป็นตัวแปรควบคุมยังมีความสัมพันธ์กับการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนของบริษัทอีกด้วย จากผลการศึกษาดังกล่าวสามารถอธิบายได้ว่าคุณลักษณะของผู้บริหารสูงสุดทางการเงินในประเด็นสาขาที่จบการศึกษาและการเป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 Maejo Business Review