https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/issue/feed
Maejo Business Review
2025-06-20T16:24:48+07:00
Assistant Professor Dr.Kulchaya Waenkaeo
kulchaya@mju.ac.th
Open Journal Systems
<p>วารสาร Maejo Business Review เผยแพร่บทความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยบทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ในหลายมิติ โดยต้องนำเสนอให้เห็นถึงการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ทางวิชาการที่มีประโยชน์และน่าสนใจ รวมถึงการนำเสนอผลการวิจัยที่เป็นปัจจุบัน และเป็นประโยชน์ต่อแวดวงวิชาการ และวิชาชีพ <strong>โดยวารสารได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review) ที่มีความเชี่ยวชาญตรงสาขาที่เกี่ยวข้องโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้เขียนต่อผู้พิจารณา (double blind peer review) และ<em>มีผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 3 ท่าน</em> ทำหน้าที่ในการประเมินคุณภาพผลงานวิชาการ เพื่อความเป็นมาตรฐานของวารสาร และเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ</strong> โดยบทความที่ผ่านการพิจารณาประเมินคุณภาพผลงานวิชาการ จะได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Maejo Business Review</p>
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/277983
อิทธิพลของประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ โครงสร้างเงินทุน และคุณภาพกำไร ที่ส่งผลต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2025-01-27T08:34:40+07:00
ณัฐฐินันท์ ไชยวงษ์
yinnattinan1994@gmail.com
จิราภา ชาลาธราวัฒน์
jirapa.ch@rmuti.ac.th
สุมินทร เบ้าธรรม
sumintorn@hotmail.com
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ โครงสร้างเงินทุน และคุณภาพกำไรที่ส่งผลต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลระหว่างปี พ.ศ. 2564-2566 รวบรวมจากระบบฐานข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SETSMART) มีจำนวนทั้งสิ้น 522 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน ด้วยการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple linear Regression)</p> <p>ผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์มีอิทธิพลในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นว่า การที่บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่มากขึ้นจากสินทรัพย์ที่มีอยู่จะส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนคุณภาพกำไรมีอิทธิพลในทิศทางตรงข้ามอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นว่า ดัชนีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การเติบโตอย่างยั่งยืนลดลง ทั้งนี้ คุณภาพกำไรในปีที่ศึกษามีข้อจำกัดเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพหรือความมั่นคงจึงสะท้อนถึงความสามารถในการเติบโตหรือการคาดคะเนถึงกำไรในอนาคตในทิศทางตรงข้ามกัน และโครงสร้างเงินทุนไม่มีอิทธิพลต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างเงินทุนไม่มีผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน</p>
2025-06-20T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Maejo Business Review
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/278186
ผลกระทบของการดำเนินงานด้านการบัญชีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อความยั่งยืนขององค์กร: หลักฐานเชิงประจักษ์ จากกลุ่มบริษัท ISO 14000 ในประเทศไทย
2025-03-03T08:52:34+07:00
อัครวิชช์ รอบคอบ
phaiboon.r@mbs.msu.ac.th
นภัทร จันทรจตุรภัทร
napat.j@acc.msu.ac.th
เกสินี หมื่นไธสง
kesinee.m@acc.msu.ac.th
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์และผลกระทบของการดำเนินงานด้านการบัญชีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อความยั่งยืนขององค์กร บริษัทที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14000 ในประเทศไทย ใช้แบบสอบถามทางไปรษณีย์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้บริหารฝ่ายบัญชีของบริษัทที่ได้รับการรับรอง ISO 14000 จำนวน 214 ราย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การปฏิบัติด้านการบัญชีเพื่อสิ่งแวดล้อม การนำเสนอการมีส่วนร่วมกับชุมชน และการเปิดเผยข้อมูลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มีความสัมพันธ์และอิทธิพลต่อการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่โดดเด่น แสดงถึงความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสตามหลักจริยธรรมและกฎหมาย ขณะเดียวกัน การนำเสนอการมีส่วนร่วมกับชุมชน ส่งผลเชิงบวกต่อความยั่งยืน และตัวแปรกลางในระดับนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทขององค์กรในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น และการสื่อสารคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ การรายงานผลกระทบต่อสาธารณะมีอิทธิพลต่อการมุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสังคม และภาพลักษณ์องค์กรที่โดดเด่น เป็นตัวแปรกลางที่ส่งผลต่อความยั่งยืนขององค์กรอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ให้เห็นว่าการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนขององค์กร อย่างไรก็ตาม</p> <p>ผลการวิจัยยังพบว่า การปฏิบัติด้านการบัญชีเพื่อสิ่งแวดล้อม การบัญชีด้านสิทธิมนุษยชน ตระหนักถึงการกำกับดูแลที่ดี และการมุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่มีอิทธิพลทางตรงต่อความยั่งยืนขององค์กร ซึ่งอาจสะท้อนถึงข้อจำกัดด้านความพร้อมขององค์กรไทยในการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เชิงกลยุทธ์ รวมถึงลักษณะเฉพาะของบริบทที่ผลักดันให้องค์กร ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลและการมีส่วนร่วมเชิงปฏิบัติ มากกว่ามาตรการเชิงนโยบายหรือจริยธรรมเพียงอย่างเดียว</p>
2025-06-20T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Maejo Business Review
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/278723
การพัฒนาธุรกิจชุมชนสำหรับผลิตภัณฑ์หัวเชื้อผสมดินอินทรีย์ชีวภาพจากมูลไส้เดือน กรณีศึกษา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านไร่ดง ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
2025-03-11T09:49:18+07:00
พีรยา สมศักดิ์
peerayacm@yahoo.com
อรไท เขียวชอุ่ม
orathai.kh24@gmail.com
ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภิต
drpaipan@gmail.com
<p>การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพและความพร้อมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านไร่ดง ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ในการผลิตและจำหน่ายหัวเชื้อผสมดินอินทรีย์ชีวภาพจากมูลไส้เดือน นอกจากนี้ การศึกษายังมุ่งพัฒนารูปแบบธุรกิจ โดยใช้กรอบแนวคิด และหลักการของ เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียวเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและความยั่งยืนของธุรกิจชุมชน งานวิจัยนี้ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน ประกอบด้วย สมาชิกวิสาหกิจชุมชน 24 คน ผู้นำกลุ่ม 2 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ 4 คน กระบวนการวิจัยเริ่มจากการประเมินศักยภาพและอุปสรรคของกลุ่ม จากนั้นจึงดำเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่าย และการบริหารการเงิน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มวิสาหกิจมีทรัพยากรสำคัญ ได้แก่ มูลไส้เดือน แรงงานในท้องถิ่น และภูมิปัญญาชุมชน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อจำกัดในการบริหารธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ทางการตลาด การพัฒนาแนวทางเชิงรุก เช่น การสร้างตราสินค้า การขยายช่องทางจัดจำหน่าย และการรับรองมาตรฐานอินทรีย์ ควบคู่ไปกับ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถคำนวณ จุดคุ้มทุนอยู่ที่ 421 ถุง โดยมีรายได้เฉลี่ย 8,000 บาทต่อเดือน หรือ 96,000 บาทต่อปี การศึกษานี้แสดงความสำเร็จของธุรกิจชุมชนที่ผลิตหัวเชื้อผสมดินอินทรีย์ชีวภาพที่สามารถเป็นต้นแบบให้กับธุรกิจชุมชนอื่น โดยผลการวิจัยสอดคล้องกับกรอบแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ที่เน้นถึงความยั่งยืนทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม</p>
2025-06-20T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Maejo Business Review
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/279212
ความสัมพันธ์ของกำไรต่อหุ้นและกระแสเงินสดดำเนินงานที่มีผลกระทบต่อเงินปันผลและราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2025-03-26T14:34:56+07:00
กฤตพงศ์ วัชระนุกุล
krittapong.wat@ku.th
ธิบดี สกุลวิชญธาดา
krittapong.wat@ku.th
ทศพร นิ่มเดช
todsaphorn.n@gmail.com
เอกศิริ มุสิกนาม
mosee3330@gmail.com
ณัฐวุฒิ พวงมาลี
Natthawut.phu@ku.th
ชัยนรินทร์ เขียวอรุณ
chainarin.k@ku.th
<p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของกำไรต่อหุ้นที่ส่งผลกระทบต่อเงินปันผลและราคาหุ้น ความสัมพันธ์ของกระแสเงินสดดำเนินงานส่งผลกระทบต่อเงินปันผลและราคาหุ้น และความสัมพันธ์ของเงินปันผลที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ในปี พ.ศ. 2566 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 503 กิจการ ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และใช้สถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเพื่อทำการทดสอบสมมติฐาน<br />ผลการศึกษาพบว่า กำไรต่อหุ้นมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเงินปันผลและราคาหุ้น นอกจากนี้ เงินปันผลยังมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับราคาหุ้น ในส่วนของกระแสเงินสดดำเนินงานไม่มีความสัมพันธ์กับเงินปันผลและราคาหุ้นแต่อย่างใด การศึกษานี้ช่วยให้นักลงทุนประเมินศักยภาพในการทำกำไรของกิจการและคาดการณ์แนวโน้มราคาหุ้นได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น อีกทั้งใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายปันผลสม่ำเสมอ นอกจากนี้ช่วยให้ผู้บริหารวางกลยุทธ์เพิ่มกำไร กำหนดนโยบายปันผลที่เหมาะสมและสื่อสารกับนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นและมูลค่ากิจการในระยะยาว</p>
2025-06-20T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Maejo Business Review
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/279599
ความพร้อมและความหวังที่มีต่อการเรียนการสอน หลังสถานการณ์ COVID-19 ของนักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2025-04-08T13:40:04+07:00
ทิพวรรณ ปิ่นทองพันธ์
tippawan.p@psu.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความพร้อมการจัดการเรียนการสอน หลังสถานการณ์ COVID-19 ของนักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2) เพื่อศึกษาระดับความคาดหวังการจัดการเรียนการสอน หลังสถานการณ์ COVID-19 ของนักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระดับความคาดหวัง การจัดการเรียนการสอนหลังสถานการณ์ COVID-19 จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล โดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากกลุ่มนักศึกษาที่กำลังศึกษาคณะวิทยาการจัดการ ระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2566 จำนวน 372 ราย ด้วยการสุ่มอย่างง่าย สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน<br />ผลการศึกษา พบว่า ระดับความพร้อมการเรียนการสอน หลังสถานการณ์ COVID-19 ของนักศึกษาคณะวิทยาการจัดการฯ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า นักศึกษาให้ความพร้อมของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเป็นความพร้อมของหลักสูตรการเรียนการสอน และความพร้อมของผู้สอน นอกจากนี้ การศึกษาความคาดหวังต่อการจัดการเรียนการสอนหลัง COVID-19 พบว่าระดับความคาดหวังที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอน และความคาดหวังที่มีต่อคุณลักษณะของผู้สอน อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการเปรียบเทียบระดับความคาดหวังการจัดการเรียนการสอนหลังสถานการณ์ COVID-19 จำแนกตามปัจจัยบุคคล พบว่า นักศึกษาคณะวิทยาการจัดการที่มีชั้นปี และอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนเป็นหลัก แตกต่างกันมีระดับความคาดหวังที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 </p>
2025-06-20T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Maejo Business Review
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/279535
การถอดบทเรียนกระบวนการเรียนรู้การยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการด้านสมุนไพรสู่ชุมชน
2025-04-08T11:19:03+07:00
ณภัทร ทิพย์ศรี
naphat6473@gmail.com
วิเชษฐ ทิพย์ประเสริฐ
wichet_thip@rmutl.ac.th
จามจุรี ฟ้าคำตัน
jamjuree_aoy@rmutl.ac.th
<p>งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาการถอดบทเรียนกระบวนการเรียนรู้งานวิจัยการยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการด้านสมุนไพรสู่ชุมชน การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการด้านสมุนไพร จำนวน 30 ราย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาผลการศึกษา พบว่า ผู้ประกอบการสมุนไพรมีประสบการณ์ในการปลูกสมุนไพรและจำหน่ายทั้งแบบสดและแปรรูป เช่น ลูกประคบ ยาหม่อง ยาสมุนไพรไล่ยุง เป็นต้น มีเครือข่ายสมุนไพรในชุมชนและปราชญ์สมุนไพร ขณะเดียวกันยังประสบปัญหา ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ เครื่องจักรในการแปรรูปสมุนไพรล้าสมัย ไม่มีความรู้ตลาดออนไลน์ สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จัก ผลิตภัณฑ์ยังไม่ได้การรับรองมาตรฐาน และไม่มีฐานข้อมูลสมุนไพรและปราชญ์สมุนไพร สำหรับแนวทางการพัฒนากระบวนการเรียนรู้การยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการด้านสมุนไพร ประกอบด้วย การให้องค์ความรู้ และกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการปลูกสมุนไพร การพัฒนาการแปรรูปสมุนไพรให้มีคุณภาพ มาตรฐาน การขอรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร การพัฒนาแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ให้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น การเชื่อมโยงทางการตลาดทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการสมุนไพร สร้างช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค จัดหาพี่เลี้ยงที่เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำในการแปรรูปสมุนไพร สร้างเข้าใจในการบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจ รวมทั้งออกแบบและสร้างฐานข้อมูลสมุนไพร และปราชญ์สมุนไพรในชุมชน</p>
2025-06-20T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Maejo Business Review