องค์กรแห่งความสุขในการพัฒนาการท่องเที่ยว ของชุมชนบ้านบางกะจะ จังหวัดจันทบุรี
คำสำคัญ:
องค์กรแห่งความสุข, การพัฒนาการท่องเที่ยว, ชุมชนบางกะจะบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความสุขของชาวบ้านชุมชนบ้านบางกะจะในการพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชน และเพื่อเสนอแนวทางองค์กรแห่งความสุขในการพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านบางกะจะ โดยการวิจัยแบบผสานวิธีในรูปแบบพร้อมกัน (convergent parallel design) ด้วยระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research) จากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 15 คน และวิจัยเชิงปริมาณ (quantitative research) จากชาวบ้านชุมชนบ้านบางกะจะ จำนวน 370 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามที่ปรับปรุงจากเครื่องมือวัดความสุขด้วยตนเอง (HAPPINOMETER) แสดงถึงระดับความสุขและปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละมิติ โดยกำหนดตัวชี้วัด 9 มิติ 35 องค์ประกอบ ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและข้อมูลเชิงคุณภาพการสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง ผลวิจัยในภาพรวมพบว่า ชุมชนมีความพร้อมด้านความร่วมมือและการต้อนรับการท่องเที่ยวในชุมชน ตลอดจนพร้อมเปิดรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับการวัดดัชนีความสุขของสมาชิกในชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวโดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมาก จึงมีแนวทางการพัฒนา 2 รูปแบบ คือ 1) การส่งเสริมมิติองค์กรแห่งความสุขเพื่อการเพิ่มโอกาสการท่องเที่ยวชุมชนบ้านบางกะจะให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประกอบด้วย 4 มิติ คือ มิติด้านครอบครัวดี (happy family) มิติด้านจิตวิญญาณดี (happy soul) มิติด้านสังคมดี (happy society) และมิติด้านการงานดี (happy work-life) 2) การมุ่งความสนใจและเร่งเสริมแรงในมิติองค์กรแห่งความสุขเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 5 มิติ คือ มิติด้านสุขภาพดี (happy body) มิติด้านสุขภาพเงินดี (happy money) มิติด้านใฝ่รู้ดี (happy brain) มิติด้านน้ำใจดี (happy heart) และมิติด้านผ่อนคลายดี (happy relax)
เอกสารอ้างอิง
มหาบัณฑิต กลุ่มวิชาการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัย
บูรพา.
ชาย โพธิสิตา. (2559). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: อมรินทร์
พรินติ้ง.
เทิดชาย ช่วยบำรุง. (ม.ป.ป.). แนวทางการปฏิรูปการท่องเที่ยวไทย (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:
http://www.etatjournal.com/mobile/index.php/menu-read-tat/menu-2014/menu-2014-oct-dec/
227-42557-reform [2562, 17 ธันวาคม].
พรทิภา สมบูรณ์เลิศสิริ และจิราพร ระโหฐาน. (2556). รูปแบบองค์กรแห่งความสุขและคุณภาพชีวิต
ในการทำงานส่งผลต่อประสิทธิผลขององค์กร บริษัทไออาร์ พีซี จำกัด (มหาชน). วารสาร
พฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 5(1), หน้า 19-31.
รุ่งรัตน์ หัตถกรรม และคณะ. (2560). การพัฒนาองค์ประกอบและตัวชี้วัดความสุขมวลรวมของ
การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน. วารสารสหวิทยาการ, 1(1), หน้า 99-108.
ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต และคณะ. (2555). คู่มือการวัดความสุขด้วยตนเอง HAPPINOMETER.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ธรรมดาเพรส.
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.). (2561). Happy 8:
ความสุขแปดประการ. กรุงเทพฯ: มิชชั่น อินเตอร์พริ้นท์.
สินธุ์ สโรบล (บรรณาธิการ). (2546). การท่องเที่ยวโดยชุมชน: แนวคิดและประสบการณ์พื้นที่ภาคเหนือ.
เชียงใหม่: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). (2560). CBT ทำ
อย่างไรให้ยั่งยืน คู่มือการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน. กรุงเทพฯ: โปรดักเฮ้าส์ แอสเซอร์รี่.
อุมาวรรณ วาทกิจ. (2560). ปัจจัยสำคัญเป็นองค์กรแห่งความสุข กรณีศึกษา ธุรกิจโรงแรมระดับ 4-5 ดาว
ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 17(3), หน้า 121-131.
Diener, Ed, Scollon, Christie Napa, & Lucas, Richard E. (2004). The evolving concept of subjective
well-being: The multifaceted nature of happiness. In P. T. Costa & I. C. Siegler (Eds.),
Advances in cell aging and gerontology Vol. 15 (pp. 187-220). Amsterdam, Netherlands:
Elsevier.
Hampton, Mark P. (2005). Heritage, local communities and economic development. Annals of Tourism
Research, 32(3), pp. 735-759.
Yamane, Taro. (1973). Statistics: An introductory analysis (3rd ed.). New York, NY: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี