การศึกษาความสัมพันธ์ของบุคลิกภาพแบบ 5 องค์ประกอบกับการเห็นคุณค่า ในตนเองของนักศึกษากายภาพบำบัด สายสุขภาพ ชั้นปีที่ 1 สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2564
คำสำคัญ:
ลักษณะบุคลิกภาพแบบ 5 องค์ประกอบ, การเห็นคุณค่าในตนเองบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อหาระดับบุคลิกภาพแบบ 5 องค์ประกอบกับการเห็นคุณค่า ในตนเองของนักศึกษากายภาพบำบัด สายสุขภาพ ชั้นปีที่ 1 สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2564 และเพื่อหาความสัมพันธ์ของบุคลิกภาพแบบ 5 องค์ประกอบกับการเห็นคุณค่าในตนเองของนักศึกษากายภาพบำบัด สายสุขภาพ ชั้นปีที่ 1 สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2564 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษากายภาพบำบัด สายสุขภาพ ชั้นปีที่ 1 สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2564 รวมทั้งสิ้น 36 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือได้แก่ ลักษณะบุคลิกภาพแบบ 5 องค์ประกอบ คณะผู้วิจัยได้นำแบบวัดลักษณะบุคลิกภาพแบบ 5 องค์ประกอบไปทดสอบกับนักศึกษากายภาพบำบัด สายสุขภาพในเขตกรุงเทพมหานครที่คล้ายกับกลุ่มตัวอย่างเพื่อหาค่าความเชื่อมั่นใหม่อีกครั้งได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .92 และแบบวัดการเห็นคุณค่าในตนเองคณะผู้วิจัยได้หาความเที่ยงตรงตามเนื้อหาโดยตรวจสอบความสอดคล้องของเนื้อหากับวัตถุประสงค์และนิยามปฏิบัติการณ์ และหาค่าความเชื่อมั่นโดยใช้ α-Coefficient ของครอนบาค ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .88 วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันผลการศึกษาพบว่า 1) นักศึกษากายภาพบำบัด สายสุขภาพชั้นปีที่ 1 สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2564 มีระดับการเห็นคุณค่าในตนเอง บุคลิกภาพแบบเปิดรับประสบการณ์ บุคลิกภาพแบบมีสติ และมีบุคลิกภาพแบบยินยอมเห็นใจ ในระดับสูง และมีบุคลิกภาพแบบแสดงตัว กับบุคลิกภาพแบบหวั่นไหวทางอารมณ์ ในระดับปานกลาง 2) ความสัมพันธ์พบว่าการ เห็นคุณค่า ในตนเองมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ลักษณะบุคลิกภาพแบบเปิดรับประสบการณ์ แบบมีสติ และแบบแสดงตัว (r=.52**, .72**. และ .50**) บุคลิกภาพแบบหวั่นไหวทางอารมณ์ มีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r=-.37*) และไม่พบความสัมพันธ์กับบุคลิกภาพแบบยินยอมเห็นใจ
เอกสารอ้างอิง
คัคนางค์ มณีศรี. (2560). อิทธิพลส่งผ่านการเห็นคุณค่าในตนเองต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพ 5 องค์ประกอบ และความพึงพอใจ
ในชีวิต. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 30(1), หน้า 1-14.
พรพรรณ มากบุญ. (2555). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทักษะทางสังคมของเด็กและเยาวชนชายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2
จังหวัดราชบุรี. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 24 (4), หน้า 114-125.
ภิญญู อุยะนันทน์ และคณะ. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพแบบห้าองค์ประกอบและการเห็นคุณค่า. กรุงเทพฯ: คณะจิตวิทยา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อดิศร วงค์เมฆ, สมพร สุทัศนีย์ และเสรี ชัดแช้ม. (2550). การสร้างมาตรวัดบุคลิกภาพห้าองค์ประกอบตามโมเดล OCEAN ของคอสตา
และแมคเครสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารวิจัยและวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, 5(1), หน้า 33-47.
อภันตรี สาขากร. (ม.ป.ป.). เสริมสร้างความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเอง (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:
https://www.manarom.com/blog/improving_self_esteem.html [2564, 24 มิถุนายน].
Allport, Gordon Willard., & Odbert, Henry Sebastian. (1998). Personality: A psychological interpretation. New York,
NY: Holt Rinehart & Winston.
Best, J. W. (1981). Research in Education (4th ed). New Delhi, NJ: Prentice-Hall.
Branden, Nathaniel. (1969). The Psychology of Self-Esteem. Los Angeles, CA: Nash.
Cattell, Raymond B. (2020). The Wiley-Blackwell Encyclopedia of Personality and Individual Differences. New York,
NY: Wiley-Blackwell.
Coopersmith, S. (1981). SEI Self-Esteem Inventories Manual. Redwood City, CA: Mind Garden.
--------------. (1984). SEI: Self-esteem Inventories. CA: Psychologist Press.
Costa Jr, P.T., & McCrae, R. R. (1992). The five-factor model of personality and its relevance to personality disorders.
Journal of Personality Disorders, 6(4), pp. 343-359.
Costa, P.T. (2008). Personality Disorders and the Five-Factor Model of Personality. New York, NY: Guilford.
Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and psychological
measurement, 30(3), pp. 607-610.
Marshall, Tara C., Lefringhausen, Katharina., & Ferenczi, Nelli. (2015). The Big Five, self-esteem, and narcissism
as Predictors of the topics people write about in Facebook status updates. Personality and Individual
Differences, 85, pp. 35-40.
McCrae, R. R. (2001). Mainstream Personality Psychology and the Study of Religion. Journal of Personality. 67(6),
pp. 1209-1218.
Mruk, C. J. (2013). Self-esteem and positive psychology: Research, theory, and practice. New York, NY: Springer.
Varanarasama, E., Kaur, A., Singh, G., & Muthu, K.N. (2018). The Relationship between Personality and Self Esteem
towards University Student in Malaysia. Advances in Social Science. Education and Humanities Research
(ASSEHR), (304), pp. 410-414.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี
Sripatum Chonburi Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี