สื่อโมชันกราฟิก ชุด ของเล่นภูมิปัญญาพลับพลาบ้านฉัน ร่วมกับรูปแบบ การจัดการเรียนรู้แบบสตีม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ 4 ด้าน สำหรับเด็กปฐมวัย
คำสำคัญ:
สื่อโมชันกราฟิก, ของเล่นภูมิปัญญา, รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสตีมบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อโมชันกราฟิก ชุด ของเล่นภูมิปัญญาพลับพลาบ้านฉัน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ และเพื่อศึกษาพัฒนาการ 4 ด้าน ของเด็กปฐมวัย จังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อโมชันกราฟิก ชุด ของเล่นภูมิปัญญาพลับพลาบ้านฉัน ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสตีม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 3 สังกัดเทศบาล ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี จำนวน 30 คน ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน และสื่อโมชันกราฟิกจำนวน 4 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 กะลากุบกั๊บ ตอนที่ 2 รถล้อเลื่อน ตอนที่ 3 ม้าก้านกล้วย และตอนที่ 4 ขายข้าวขายแกง เพื่อใช้ในการทดลอง 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมทั้งหมด 10 ชั่วโมง มีระดับความเหมาะสมมากที่สุด (M=4.63, SD=0.49) และส่วนที่ 2 แบบประเมินพัฒนาการ 4 ด้าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) สื่อโมชันกราฟิก ชุด ของเล่นภูมิปัญญาพลับพลาบ้านฉันมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก (M=4.64, SD=0.49) และ 2) ผลการประเมินพัฒนาการ 4 ด้าน ของกลุ่มตัวอย่างมีภาพรวมพัฒนาการอยู่ในระดับดี พอใช้ และควรเสริม คิดเป็นร้อยละ 69.60, 27.70 และ 2.80 ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ชยามร กลัดทรัพย์. (2563). ผลการใช้โมชั่นอินโฟกราฟิกร่วมกับการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่องภูมิศาสตร์ ที่มีผลต่อความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการทำงานร่วมกัน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนารีวิทยา ราชบุรี.
วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
เบญจวรรณ จุปะมะตัง และธวัชชัย สหพงษ์. (2560). การพัฒนาโมชันกราฟิก เรื่อง ตำนานพระธาตุขามแก่น. วารสารโครงงานวิทยาการ
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ, 3(2), หน้า 1-6.
ปัทมาภรณ์ วิทูร และอรพรรณ บุตรกตัญญู. (2565). การจัดประสบการณ์การเรียนร้บูรณาการสตีมศึกษา เพื่อพัฒนาการคิดเชิงออกแบบของ
เด็กปฐมวัย (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://so01.tci-thaijo.org/index.php/OJED/article/view/248913/170022 [2565, 2
พฤศจิกายน].
มัลลิกา ตั้งความเพียร และปัทมาวดี เล่ห์มงคล. (2565). การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้กิจกรรม STEAM จากวัสดุ
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย. วารสารจันทรเกษมสาร, 28(1), หน้า 30-45.
วรรณทิภา ธรรมโชติ. (2562). การพัฒนาสื่อโมชันกราฟิกเพื่อประกอบการเรียนรู้รายวิชา ส22101 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เรื่อง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://ph02.tci-
thaijo.org/index.php/project-journal/article/view/204220 [2565, 8 ธันวาคม].
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลพลับพลา. (2564). รายงานการประเมินตนเอง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลพลับพลา ประจำปี
การศึกษา 2564. กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เทศบาลตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี.
Piaget, J. (1951). Play dreams and imitation in childhood. London: Whitefriars.
Yakman, G. (2008). STEAM Education: an overview of creating a model of integrative
education (Online). Available: https://www.researchgate.net/publication/327351326_STEAM_
Education_an_overview_of_creating_a_model_of_integrative_education [2022, November 5].
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี
Sripatum Chonburi Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี