https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/issue/feed
วารสารวิชาการไทยวิจัยและการจัดการ
2025-12-02T20:52:21+07:00
ชาญชัย จิตรเหล่าอาพร
trdm.thaijo@gmail.com
Open Journal Systems
<p>วารสารวิชาการไทยวิจัยและการจัดการ (Thai Research and Management Journal) ศูนย์บริการวิชาการสถาบันไทยวิจัยพัฒนาการจัดการร่วมกับบัณฑิตวิทยาลัย สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม เป็นวารสารทางวิชาการที่มีแนวนโยบายพัฒนาผลงานวิจัยของไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ส่งเสริมสนับสนุนผลงานวิชาการของนิสิต นักศึกษา นักวิชาการ นักการศึกษา อาจารย์ บุคลากรในมหาวิทยาลัยและบุคคลทั่วไป 2) ส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานวิชาการ และ 3) สร้างความรู้และองค์ความรู้ที่ถูกต้อง พัฒนาภูมิปัญญาระดับชาติและสากล</p>
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285444
การกระจายอำนาจและภาวะผู้นำท้องถิ่นในภาวะวิกฤติ: โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครกับ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการศึกษา ในกรุงเทพมหานครช่วงโควิด-19
2025-12-02T20:18:20+07:00
ณิชภัทร์ กิจเจริญ
trdm.thaijo@gmail.com
<p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p>การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปิดเผยข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของระบบการศึกษาไทยอย่างชัดเจน งานวิจัยนี้ศึกษาบทบาทของการกระจายอำนาจและความเป็นอิสระของนโยบายท้องถิ่นต่อการบริหารจัดการการศึกษาในช่วงวิกฤติ ผ่านกรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เปรียบเทียบกับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพพบว่า โครงสร้างที่ให้อิสระแก่โรงเรียนและเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสามารถใช้ดุลยพินิจเชิงนโยบายได้สูง ส่งผลให้โรงเรียนในกรุงเทพมหานครมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์ไม่ปกติได้ดีกว่าโรงเรียนในระบบรวมศูนย์ บทเรียนจากวิกฤติครั้งนี้สะท้อนว่าการกระจายอำนาจทางการศึกษาไม่ควรถูกมองเป็นทางเลือก แต่เป็นปัจจัยจำเป็นเพื่อเสริมสร้างคุณภาพและความยั่งยืนของระบบการศึกษาไทยในอนาคต</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการไทยวิจัยและการจัดการ
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285448
ดนตรีและอัตลักษณ์แห่งชาติในฐานะเครื่องมือทางการทูต บทบาทของ เอดิต ปิยาฟ ในการส่งเสริมซอฟต์พาเวอร์ และชาตินิยมฝรั่งเศส
2025-12-02T20:33:56+07:00
อธิพัฒน์ วรนิธิภาคย์
trdm.thaijo@gmail.com
<p>งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการศึกษา บทบาทของ เอดิต ปิยาฟ นักร้องผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมฝรั่งเศส ในการส่งเสริมอัตลักษณ์แห่งชาติและ Soft Power ผ่านบทเพลงของเธอ โดยวิเคราะห์ถึงความสำคัญของดนตรีในฐานะเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสในเวทีโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง งานวิจัยนี้สำรวจว่าเพลงของ Piaf ไม่เพียงสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของชาวฝรั่งเศสในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและสงคราม แต่ยังกลายเป็นสื่อกลางในการนำเสนอเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดและสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ</p> <p>การศึกษาครั้งนี้อาศัยกรอบแนวคิดด้าน Soft Power และชาตินิยมทางวัฒนธรรม เพื่อตีความบทบาทของดนตรีในบริบทของการทูตและการสร้างพลเมืองแห่งชาติ โดยจะเน้นการวิเคราะห์เนื้อเพลงและบริบททางประวัติศาสตร์ที่เพลงของ Piaf ถูกนำมาใช้ ตลอดจนศึกษาตัวอย่างเหตุการณ์ที่บทเพลงของเธอมีผลกระทบต่อการสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองและวัฒนธรรม งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า ดนตรีไม่เพียงเป็นศิลปะที่สร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์ของฝรั่งเศส และตอกย้ำความเป็นพลเมืองและความภูมิใจในชาติของประชาชน</p> <p>ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า เอดิต ปิยาฟ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างศิลปะ ดนตรี และการทูต ที่สามารถส่งผลกระทบในระดับชาติและนานาชาติได้อย่างลึกซึ้ง โดยบทเพลงของเธอถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่ช่วยเสริมสร้างอัตลักษณ์แห่งชาติและการใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศสอย่างยั่งยืน</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285449
ปัจจัยที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยสีจิ้นผิง
2025-12-02T20:38:33+07:00
ธโสธร ตู้ทองคำ
trdm.thaijo@gmail.com
<p>บทความวิจัยเรื่องปัจจัยที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยสีจิ้นผิง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยสีจิ้นผิง บทความวิจัยครั้งนี้มาจากการวิจัยเชิงคุณภาพ จากการวิจัยเอกสารและการสัมภาษณ์ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา</p> <p> ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยสีจิ้นผิง มาจากปัจจัยที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสมัยสีจิ้นผิง แบ่งเป็นสองส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่หนึ่ง ปัจจัยภายนอก มาจากความเปลี่ยนแปลงทุกด้านในช่วงทศวรรษที่ 2010 ต่อเนื่องถึงทศวรรษ 2020 ด้านการเมืองระหว่างประเทศ ที่สำคัญ คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองและการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา การขยายอำนาจของสาธารณรัฐประชาชนจีน การถือกำเนิดของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศอื่น และความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองของประเทศทั้งหลายทั่วโลก ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่สำคัญ คือ ด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ การลงทุนระหว่างประเทศ การเงินระหว่างประเทศ และความช่วยเหลือระหว่างประเทศ กับดักหนี้ (Debt Trap) ด้านสังคมระหว่างประเทศ ที่สำคัญ คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ความเปลี่ยนแปลงของสังคมจากการเติบโตของคนรุ่นใหม่และการเป็นสังคมผู้สูงอายุ ส่วนที่สอง ปัจจัยภายใน ด้านการเมือง จากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศของไทยที่สลับกันไปมาระหว่างระบอบประชาธิปไตยกับระบอบอื่น แตกต่างจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีการปกครองระบอบเผด็จการอำนาจเบ็ดเสร็จนิยม ด้านเศรษฐกิจภายใน จากความแตกต่างของระบบเศรษฐกิจที่ไทยมีระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนมีระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมแบบตลาด (market Socialism) และสังคมภายในที่ไทยและจีนมีความแตกต่างกัน</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285450
จากสวนปิดสู่สวนแห่งการพัฒนา: กรณีศึกษาว่าด้วยพัฒนาการของสวนสาธารณะ ในกรุงเทพมหานคร
2025-12-02T20:41:51+07:00
ทสิตา สุพัฒนรังสรรค์
trdm.thaijo@gmail.com
<p>บทความวิจัยนี้มุ่งศึกษาพัฒนาการของสวนสาธารณะในกรุงเทพมหานครตั้งแต่ช่วงระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนถึงยุครัฐพัฒนา โดยอาศัยกรอบแนวคิดนิเวศวิทยาการเมืองเรื่องเมือง (Urban Political Ecology: UPE) เพื่อวิเคราะห์พลวัตเชิงอำนาจที่แทรกอยู่ในกระบวนการสร้างและจัดการพื้นที่สีเขียวในเมือง ดังนั้น สวนสาธารณะมิได้เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่เป็นกลาง ทางการเมือง หรือเป็นภาพจำลองของธรรมชาติเท่านั้น หากแต่เป็นผลผลิตของความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างรัฐ ทุน และกลุ่มทางสังคมในแต่ละบริบท บทความวิจัยนี้ได้นำเสนอการเปรียบเทียบพัฒนาการของสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ กับกรณีศึกษาในโลกตะวันตก เพื่อชี้ให้เห็นว่าการจัดตั้งสวนสาธารณะในแต่ละช่วงเวลามีบทบาทสำคัญต่อการสร้างภาพจำของความเป็นระเบียบ ความทันสมัย และการควบคุมพื้นที่สะท้อนปฏิสัมพันธ์ทางอำนาจที่ดำรงอยู่</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285451
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการประกอบการทางสังคม
2025-12-02T20:45:03+07:00
จิดาภา ถิรศิริกุล
trdm.thaijo@gmail.com
<p>การพัฒนากลไกการพัฒนาพื้นที่ตามแนวคิดการประกอบการทางสังคมถือเป็นแนวทางการพัฒนารัฐในระดับพื้นที่ซี่งมีความแตกต่างกันทั้งในด้านโครงสร้างทางสังคมและความพร้อมทางเศรษฐกิจ การประกอบการทางสังคมที่เกิดขึ้นจึงต้องอิงอาศัยความร่วมมือในทุกภาคส่วนทั้งในระดับส่วนกลางที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีบทบาททั้งในการรวบรวมประเด็นปัญหา การวางแผน และการเป็นกลไกประสาน เพื่อการขับเคลื่อนให้การประกอบการทางสังคมนั้นบรรลุผลสำเร็จต่อไป</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285452
ความสัมพันธ์ระหว่างการปกครองส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นของไทย
2025-12-02T20:48:28+07:00
สกล สุขเสริมส่งชัย
trdm.thaijo@gmail.com
<p>การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการปกครองส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นของไทยทำให้มองเห็นถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานในระบบราชการที่มีความซ้ำซ้อนกันในเชิงโครงสร้างและการปฏิบัติภารกิจของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของการปกครองส่วนภูมิภาคซึ่งได้รับการแบ่งอำนาจจากรัฐบาลกลางที่แสดงออกทั้งการปกครอง การควบคุม และการกำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการกระจายอำนาจจากรัฐบาลกลาง จึงทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขาดความเข้มแข็งในการบริหารจัดการตนเองผ่านกระบวนการบริหารงบประมาณภายในองค์กรเพราะสามารถถูกแทรกแซงจากการปกครองส่วนภูมิภาคได้ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องขยายขอบเขตการกระจายอำนาจทางการคลังให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/TRDMJOPOlSU/article/view/285453
พัฒนาการของระบบกฎหมายกับการวางรากฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย
2025-12-02T20:52:21+07:00
วีระโชติ ชุณหรุ่งโรจน์
trdm.thaijo@gmail.com
<p>บทความวิชาการนี้มุ่งอธิบายพัฒนาการของระบบกฎหมายกับการวางรากฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย โดยพบว่า การเลิกระบบไพร่-ทาส การส่งเสริมให้มีการเรียนต่อในต่างประเทศ (King’s Scholarship) การเสด็จประภาสต่างประเทศ และโดยเฉพาะการปฏิรูประบบกฎหมาย ที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นการวางรากฐานทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยในระยะเวลาต่อมา ซึ่งการปฏิรูประบบกฎหมายส่งผลให้การวางระบบราชการสมัยใหม่เกิดความสมบูรณ์ และเกิดความพร้อมในการปรับเปลี่ยนเป็นรัฐสมัยใหม่ที่พร้อมมีการจัดทำรัฐธรรมนูญ และการปรับเปลี่ยนบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญในอนาคต กระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ถือเป็นผลสะท้อนที่เป็นรูปธรรมจากการปฏิรูปกฎหมายไทยในครั้งนั้น บทความยังได้อภิปรายถึงพัฒนาการของระบบกฎหมายในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง และความท้าทายในปัจจุบันที่ระบบกฎหมายไทยต้องเผชิญในการธำรงรักษาหลักนิติธรรมในระบอบประชาธิปไตย</p>
2025-12-02T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025