วารสารพัฒนศาสตร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu <p><strong>"วารสารพัฒนศาสตร์"</strong> วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<strong> เปลี่ยนชื่อจาก "วารสารสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร"</strong> <strong>เผยแพร่ฉบับแรกในปี พ.ศ. </strong><strong>2548</strong> เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และผลงานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของ "บัณฑิตอาสาสมัคร" ที่ได้เข้าไปเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิต การศึกษา พัฒนาและรวบรวมองค์ความรู้จากในพื้นที่ชนบทที่บัณฑิตอาสาสมัครได้เข้าไปปฏิบัติงานภาคสนามร่วมกับประชาชนในพื้นที่ วารสารฯ ได้ดำเนินการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ด้านการพัฒนาทางด้านสังคมศาสตร์เรื่อยมา กระทั่งปี พ.ศ.2561 ที่สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร ได้ยกสถานะเป็นวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ วารสารจึงได้เปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับชื่อของหน่วยงานและใช้มาจนถึงปัจจุบัน</p> <p><strong>จุดมุ่งหมายและขอบเขต</strong></p> <p>วารสารพัฒนศาสตร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ แลกเปลี่ยนแนวคิด ความรู้ ความก้าวหน้าใหม่ในลักษณะสหสาขาวิชาทางสังคมศาสตร์ พัฒนศาสตร์ โดยเปิดรับบทความวิชาการ บทความวิจัย และผลงานวิชาการลักษณะอื่น ๆ ที่ครอบคลุมประเด็น</p> <ul> <li>การศึกษาวิจัยและปฏิบัติการพัฒนาในระดับชุมชนท้องถิ่น/ชุมชนเมือง ทั้งในมิติทางวัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกิจ สังคม</li> <li>การบริหารจัดการทรัพยากร</li> <li>ทุนทางสังคม</li> <li>การศึกษาเพื่อการพัฒนา และ</li> <li>การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนามนุษย์และสังคม</li> </ul> <p><strong>การพิจารณาและคัดเลือกบทความ</strong></p> <p>วารสารพัฒนศาสตร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กำหนดเงื่อนไขการพิจารณาและคัดเลือกบทความ ดังนี้</p> <ol> <li>บทความที่เสนอเข้ามาเพื่อขอรับการตีพิมพ์ต้องไม่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของวารสารอื่น และไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่มาก่อน</li> <li>บทความมีความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและขอบเขตของวารสารฯ</li> <li>บทความมีรูปแบบการเขียนเรียบเรียงที่เหมาะสมตามหลักวิชาการ มีหลักฐานอ้างอิงที่ถูกต้องและเชื่อถือได้</li> <li>การพิจารณาบทความ ทำโดย<strong>ผู้ทรงคุณวุฒิ</strong> <strong>(peer-reviewers) </strong>จากสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย <strong>จำนวน 3 ท่านต่อ 1 บทความ</strong></li> <li>รูปแบบ<strong>การพิจารณาบทความ ใช้รูปแบบ</strong> <strong>Double-Blinded Review</strong> <strong>โดยผู้ทรงคุณวุฒิไม่ทราบชื่อผู้เขียนและผู้เขียนไม่ทราบชื่อผู้พิจารณาบทความ</strong></li> <li>บทความจะได้รับการเผยแพร่เมื่อผู้เขียนได้ดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิและผ่านการพิจารณารับรองจากกองบรรณาธิการวารสารฯ</li> <li>ทัศนะและข้อคิดเห็นของบทความที่เผยแพร่ในวารสารพัฒนศาสตร์ฯ ถือเป็นของผู้นิพนธ์บทความ ผู้ประสงค์จะนำข้อความใด ๆ ไปพิมพ์เผยแพร่ต่อไปต้องได้รับอนุญาตจากผู้นิพนธ์และโปรดแจ้งให้ทางวารสารฯ ทราบ</li> </ol> <p><strong>ประเภทของบทความที่เผยแพร่ </strong></p> <ol> <li>บทความวิจัย (Research article)</li> <li>บทความวิชาการ (Academic article)</li> </ol> <p><strong>ภาษาที่รับตีพิมพ์ </strong></p> <ul> <li>ภาษาไทย</li> <li>ภาษาอังกฤษ</li> </ul> <p><strong>กำหนดการเผยแพร่</strong></p> <p>วารสารตีพิมพ์ 2 ฉบับต่อปี</p> <ul> <li>ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน เผยแพร่เดือนมิถุนายน</li> <li>ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม เผยแพร่เดือนธันวาคม</li> </ul> <p><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์</strong></p> <p>วารสาร<strong>ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ </strong>ทุกขั้นตอน</p> <p><strong>เจ้าของวารสาร</strong></p> <p>วารสารพัฒนศาสตร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์</p> th-TH psdsjournal.tu@gmail.com (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธิดารัตน์ ศักดิ์วีระกุล) thidathip1@outlook.com (Thidathip Supawong) Fri, 27 Jun 2025 14:18:34 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 บทบรรณาธิการ https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/281784 ธิดารัตน์ ศักดิ์วีรกุล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ธิดารัตน์ ศักดิ์วีรกุล https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/281784 Fri, 27 Jun 2025 00:00:00 +0700 การรับมือสถานการณ์วิกฤต: การสำรวจสถานการณ์และบทบาทขององค์กรอาสาสมัครไทยในการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในช่วงโควิด-19 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/268391 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์และบทบาทขององค์กรอาสาสมัครในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในช่วงสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างและผู้ให้ข้อมูลสำคัญมาจากองค์กรอาสาสมัครในประเทศไทย ประกอบด้วย องค์กรภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจเอกชน งานวิจัยได้เก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากแบบสอบถาม 42 องค์กร และเชิงคุณภาพจากการสนทนากลุ่ม 15 องค์กร ผลการศึกษาชี้ให้เห็นถึงการเกิดขึ้นของ “อาสาสมัครมืออาชีพ” ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำงานข้ามพื้นที่ และปรับตัวสู่รูปแบบออนไลน์หรือผสมผสาน องค์กรส่วนใหญ่ดำเนินงานอาสาสมัครสอดคล้องกับ SDGs (70.73%) โดยเฉพาะด้านสุขภาพ การศึกษา และความมั่นคงทางอาหาร แม้องค์กรจะมีระดับความเข้าใจต่อ SDGs แตกต่างกัน แต่สามารถประยุกต์ใช้จริงในกิจกรรมได้ ความร่วมมือจากเครือข่าย แหล่งทุน และนโยบายภาครัฐเป็นทั้งปัจจัยสนับสนุนและข้อจำกัดสำคัญ งานวิจัยสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มงานอาสาสมัครในอนาคตที่เน้นการมีส่วนร่วม การใช้เทคโนโลยี และการทำงานเชิงรุกมากขึ้น พร้อมบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนจากฐานปฏิบัติจริงในภาวะวิกฤต</p> เกศกุล สระกวี, อรุษา ปัญญากดแก้ว, นันทินี มาลานนท์, ชนัญชิดา กองแก้ว, ณัฐวิคม พันธุวงศ์ภักดี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 เกศกุล สระกวี, อรุษา ปัญญากดแก้ว, นันทินี มาลานนท์, ชนัญชิดา กองแก้ว, ณัฐวิคม พันธุวงศ์ภักดี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/268391 Fri, 27 Jun 2025 00:00:00 +0700 การออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าวัฒนธรรมบนฐานอัตลักษณ์ชุมชน กรณีศึกษา กลุ่มทอผ้าไหมบ้านแบง https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/278178 <p>การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าวัฒนธรรมและตราสินค้าบนฐานอัตลักษณ์ชุมชน โดยใช้กรณีศึกษากลุ่มทอผ้าไหมบ้านแบง ตำบลหนองหลวง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีความเชี่ยวชาญในการทอผ้าไหม แต่ยังขาดบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์อย่างชัดเจน ทำให้จำกัดโอกาสในการขยายตลาด การศึกษาใช้แนวคิดสินค้าวัฒนธรรม แนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์ชุมชน และแนวคิดการออกแบบตราสินค้าชุมชน มาเป็นกรอบแนวคิด โดยเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหลัก 25 คน ได้แก่ สมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมบ้านแบง ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านนักวิชาการ และลูกค้า ผ่านการสัมภาษณ์เจาะลึกรายบุคคล การสนทนากลุ่ม และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม ผลการวิจัยพบว่า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพจะต้องเน้นอัตลักษณ์ชุมชนและลักษณะเฉพาะของสินค้าควบคู่กับการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในชุมชน และควรประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ (1) ตราสินค้า (2) ขนาดและรูปทรง (3) ภาพและสี และ (4) การวางตำแหน่งและการออกแบบ ซึ่งต้องสอดคล้องกับอัตลักษณ์ชุมชน วัฒนธรรม ความเชื่อ ตลอดจนเรื่องเล่าท้องถิ่น บรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาแล้วได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ทั้งในด้านความสวยงาม ความแข็งแรง และความเหมาะสมสำหรับเป็นของฝาก และการสื่อสารอัตลักษณ์ของสินค้าอย่างชัดเจน ส่งผลให้สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสินค้าวัฒนธรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม</p> สุนิตย์ เหมนิล, ฐากูร สรวงศ์สิริ, เชิดชาย บุตดี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สุนิตย์ เหมนิล, ฐากูร สรวงศ์สิริ, เชิดชาย บุตดี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/278178 Fri, 27 Jun 2025 00:00:00 +0700 การศึกษาการจัดการขยะขวดแก้วของผู้นำการเปลี่ยนแปลงในชุมชนเกาะพยาม ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/275193 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการขยะขวดแก้วบนเกาะพยาม ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 – 2567 ใช้แนวทางการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเชิงวิพากษ์ โดยร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาขยะขวดแก้วบนเกาะพยาม ค้นหาแนวทางการแก้ปัญหา ออกแบบกิจกรรม และร่วมกันดำเนินงานที่เหมาะสมกับบริบทของเกาะพยาม กลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่อยู่ประจำในพื้นที่เกาะพยาม จำนวน 30 คน ผลการวิจัยพบว่า ขยะขวดแก้วบนเกาะพยามสะสมมานานกว่า 20 ปี ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การนำขวดแก้วมาขายบนฝั่งไม่คุ้มทุนเพราะค่าขนส่งสูง ดังนั้น การจัดการขยะขวดแก้วที่เหมาะสมกับเกาะพยามคือการบดให้ละเอียดและนำมาเป็นส่วนผสมสำหรับสร้างเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ การทำบล็อกปูทางเท้า กระถางต้นไม้ และปะการังเทียม โดยสามารถสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการจัดการขยะขวดแก้วได้อย่างยั่งยืน สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นได้</p> ปริวัฒน์ ช่างคิด, เกรียงศักดิ์ ฤกษ์งาม, จุฑารัตน์ เรืองแก้ว, นราวดี เทิดคงพันธุ์, ไพลิน เอี่ยมละหาญ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ปริวัฒน์ ช่างคิด, เกรียงศักดิ์ ฤกษ์งาม, จุฑารัตน์ เรืองแก้ว, นราวดี เทิดคงพันธุ์, ไพลิน เอี่ยมละหาญ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/275193 Fri, 27 Jun 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ของตำบลเชียงกลม อำเภอปากชม จังหวัดเลย https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/275654 <p>งานวิจัยนี้ได้รับการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์เลขที่ H022/2564 ผลการวิจัยที่ได้จะนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ คือการลดปัญหาความยากจน (No Poverty) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพความยากจนตามแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดเลย และ 2) ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำของตำบลเชียงกลม อำเภอปากชม จังหวัดเลย เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed method) เครื่องมือในการวิจัยคือ แบบสอบถามมาตรฐานกลางจาก บพท. วิเคราะห์ด้วยโปรแกรม PPP Connect ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพใช้การสนทนากลุ่ม ประชากรได้แก่ ครัวเรือนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ตามข้อมูล TPMAP และข้อมูลกลุ่มคนเปราะบางของ พมจ. ผลการวิจัย พบว่า 1) มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 86.47 มีแบบสอบถามที่วิเคราะห์ไม่ได้คิดเป็นร้อยละ 13.53 เนื่องจากมีการโยกย้ายที่อยู่ ปฏิเสธการให้ข้อมูล หรือเจ้าบ้านเสียชีวิต ครัวเรือนยากจนจังหวัดเลยส่วนใหญ่อยู่ในระดับอยู่ยาก คิดเป็นร้อยละ 44.17 2) แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจน พบว่า เกิดความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายร่วมดำเนินงาน จนเกิดเป็นคณะทำงานแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับตำบล ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกันตั้งแต่ต้นทาง คือการสำรวจข้อมูล การคัดกรองครัวเรือนยากจนเข้าสู่การพัฒนา การวางแผนการดำเนินงาน และติดตามประเมินผลร่วมกัน </p> วิชญ์ มะลิต้น, วิริยา เพียรไทย, รุ่งกานต์ อินทวงศ์, ธนัญชัย บุญหนัก, ขวัญคณิศร์ อินทรตระกูล, สุรยุทธ สุระท้าว, อำนาจ โยธี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิชญ์ มะลิต้น, วิริยา เพียรไทย, รุ่งกานต์ อินทวงศ์, ธนัญชัย บุญหนัก, ขวัญคณิศร์ อินทรตระกูล, สุรยุทธ สุระท้าว, อำนาจ โยธี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/275654 Fri, 27 Jun 2025 00:00:00 +0700 กระบวนทัศน์ใหม่ในการส่งเสริมความตระหนักรู้ต่อความหลากหลาย ทางชาติพันธุ์สำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/278455 <p>กระบวนทัศน์ในการส่งเสริมความตระหนักรู้ต่อความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในศตวรรษที่ 21 เป็นแนวทางที่เน้นการสร้างองค์ความรู้ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ของผู้เรียน โดยบูรณาการความหลากหลายทาง ชาติพันธุ์เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอน แนวทางนี้ช่วยลดความคิดอคติสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ และส่งเสริมทักษะสำคัญ ซึ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงจากกรอบคิดแบบเดิมที่มองชาติพันธุ์อย่างแยกส่วนหรือแบบเหมารวมไปสู่กรอบคิดที่ยอมรับและให้คุณค่ากับความหลากหลายอย่างลึกซึ้งและเป็นระบบ ผ่านการอธิบายองค์ประกอบหลักของกระบวนทัศน์ใหม่ ประกอบด้วย แนวคิดหลัก 4 ประการ ได้แก่ การยอมรับพหุนิยม ความเสมอภาคทางวัฒนธรรม การเรียนรู้แบบข้ามวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมและเสียงของกลุ่มชาติพันธุ์ ลักษณะสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ เปลี่ยนจากการยึดความรู้เป็นศูนย์กลางเป็นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เปลี่ยนจากความคิดแบบเน้นเนื้อหาสู่การคิดแบบบูรณาการ เปลี่ยนจากความคิดแบบเหมารวมสู่การยอมรับความหลากหลาย เปลี่ยนจากการเรียนรู้เชิงท่องจำสู่การเรียนรู้เชิงวิพากษ์และสร้างสรรค์ เปลี่ยนจากการเน้นประสิทธิภาพเชิงเทคนิคสู่การพัฒนามนุษย์อย่างรอบด้าน นำไปสู่ขั้นตอนในการเรียนรู้รูปแบบ “AECKRA Model” 6 ขั้นตอน ได้แก่ สร้างความตระหนักรู้ สำรวจและแลกเปลี่ยน วิเคราะห์เชิงวิพากษ์ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ลงมือปฏิบัติ สะท้อนคิดและประเมินผล ร่วมกับแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับผู้เรียนที่สามารถประยุกต์ใช้ในระบบการศึกษา ทำให้ผู้เรียนมีทัศนคติเชิงบวกต่อความหลากหลาย มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อบริบทชาติพันธุ์ต่าง ๆ จนสามารถพัฒนาทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเคารพและเห็นคุณค่า พร้อมเป็นพลเมืองที่มีจิตสำนึกทางสังคม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างสังคมที่สงบสุขและเคารพในความแตกต่างอย่างมีประสิทธิภาพ</p> สรายุธ รัศมี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สรายุธ รัศมี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/gvc-tu/article/view/278455 Fri, 27 Jun 2025 00:00:00 +0700