การสื่อสารเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยชุมชนมีส่วนร่วมของจังหวัดเพชรบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาศักยภาพของชุมชนที่สามารถพัฒนาไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนเชิงสร้างสรรค์ในจังหวัดเพชรบุรี 2) ศึกษาการสื่อสารและการใช้สื่อของชุมชนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จังหวัดเพชรบุรี และ 3) ศึกษาการพัฒนากรอบแนวทางการสื่อสารแบบ มีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จังหวัดเพชรบุรี เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิจัยเชิงเอกสาร การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม การสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่มกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวชุมชน จำนวน 30 คน ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลคนสำคัญเกี่ยวกับการจัดการการท่องเที่ยวชุมชนของจังหวัดเพชรบุรี จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มตัวแทนจากหน่วยงานรัฐบาล กลุ่มตัวแทนจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเอกชนและกลุ่มตัวแทนจากชุมชนท้องถิ่น ผลการวิจัยพบว่า 1) ศักยภาพของชุมชนที่สามารถพัฒนาไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนเชิงสร้างสรรค์ในจังหวัดเพชรบุรี ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ (1) องค์ประกอบหลักของศักยภาพชุมชน พบว่ามี 4 ด้าน ได้แก่ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม ด้านองค์กรชุมชน ด้านการจัดการ และด้านการเรียนรู้ (2) การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชนโดยอาศัย จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค พบว่า ชุมชนมีทรัพยากรธรรมชาติสวยงาม มีเส้นทางเข้าถึงชุมชนสะดวก มีศิลปวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นเป็นเอกลักษณ์ ผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็ง ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยว (3) การสร้างมูลค่าเพิ่มของชุมชน พบว่า มีการจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงานส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมีคนในชุมชนมามีส่วนร่วมจัดทำแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยว มีการสร้างมูลค่าเพิ่มในการเป็นผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมของชุมชนและมีการจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรมชุมชนเพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว 2) การสื่อสารและการใช้สื่อของชุมชนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดเพชรบุรี ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ (1) องค์ประกอบของการสื่อสาร ประกอบด้วย ผู้ส่งสาร สาร สื่อและผู้รับสาร (2) รูปแบบของการสื่อสารที่ปรากฏขึ้น ได้แก่รูปแบบการสื่อสารสองทางที่ไม่เป็นทางการ รูปแบบการสื่อสารสองทางที่เป็นทางการ รูปแบบการสื่อสารทางเดียวที่ไม่เป็นทางการและรูปแบบการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม (3) การใช้สื่อของชุมชนมีการใช้สื่อที่หลากหลาย ได้แก่ สื่อบุคคล สื่อประเพณี สื่อเฉพาะกิจ สื่อมวลชนและสื่ออินเตอร์เน็ต 3) กรอบแนวทางการสื่อสารแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จังหวัดเพชรบุรี ประกอบด้วย ปัจจัยพื้นฐานทั้ง 4 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม ด้านองค์กรชุมชน ด้านการจัดการและด้านการเรียนรู้ จะถูกขับเคลื่อนโดยอาศัยองค์ประกอบของการสื่อสาร ได้แก่ ผู้ส่งสาร สาร สื่อและผู้รับสาร เพื่อให้ได้มาซึ่งศักยภาพของชุมชนที่มี 3 หน่วยงานหลักเป็นกลไกในการขับเคลื่อน ได้แก่ ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชนภายใต้การสื่อสารแบบมีส่วนร่วมซึ่ง ถือเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนกลไกสำคัญของกรอบแนวคิด โดยใช้ชื่อว่า “เต้าตาลโมเดล”
Article Details
1. มุมมองและความคิดเห็นใด ๆ ในบทความเป็นมุมมองของผู้เขียน คณะบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับมุมมองเหล่านั้นและไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของคณะบรรณาธิการ ในกรณีที่มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน แต่เพียงผู้เดียว
2. ลิขสิทธิ์บทความที่เป็นของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีมีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย การเผยแพร่จะต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
2. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2560 - 2564). ค้นเมื่อ 15 มกราคม 2562, จาก http ://www.mots.go.th/download/article/article_ 20171201174031.pdf .
3. กาญจนา แก้วเทพ และคณะ. (2543). สื่อเพื่อชุมชน: การประมวลองค์ความรู้. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
4. กาญจนา แก้วเทพ. (2551). การจัดการความรู้เบื้องต้นเรื่องสื่อสารชุมชน. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
5. กรวรรณ สังขกร. (2557). การพัฒนาศักยภาพชุมชนวัฒนธรรมสร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนเชียงใหม่เมืองสร้างสรรค์. เชียงใหม่: สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
6. คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. (2554). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555 – 2559. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง.
7. เทิดชาย ช่วยบำรุง. (2552). บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนฐานแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.
8. นำชัย ทนุผล และคณะ. (2543). รายงานผลการวิจัยการพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในชุมชนบ้านโป่ง ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
9. บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2548). การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน. กรุงเทพฯ: เพรสแอนด์ดีไซน์.
10. พจนา สวนศรี. (2546). คู่มือการจัดการท่องเที่ยวชุมชน. กรุงเทพฯ: โครงการท่องเที่ยวเพื่อชีวิตและธรรมชาติ.
11. มุทริกา พฤกษาพงษ์. (2554). เที่ยวอย่างเข้าใจไปกับ“การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์”. ค้นเมื่อ 15 มกราคม 2563, จาก http://www.manager.co.th.
12. สำนักงานจังหวัดเพชรบุรี. (2557). แผนพัฒนาจังหวัดเพชรบุรี (พ.ศ. 2557- 2560). เพชรบุรี: กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด.
13. สินธุ์ สโรบล. (2546). การท่องเที่ยวชุมชน แนวคิดและประสบการณ์พื้นที่ภาคเหนือ. เชียงใหม่: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
14. Muganda M. (2009). Community and participation in tourism development in Tanzania. Thesis Degree of Master of Tourism Management, Victoria University of Wellington.
15. Raymond, C. (2000). The practical challenges of developing creative tourism: A cautionary tale from New Zealand ln Wurzburger, R., Aageson, T., Pattakos, A., & Pratt, S. (Eds.) Creative tourism: A global conversation (pp.63-69). New Mexico: Sunstone Press.
16. Richards, G. (2019). Creative tourism: Opportunities for smaller places. Tourism & Management Studies, 15(SI): 7-10.
17. Haget, S. (2009). Barriers for tourism sustainability in destination. M. A. European Tourism Management Bournemouth University Universidad Rey. Juan-Carlos: Madrid.
18. World Travel & Tourism Council. (2017). Travel & tourism economic impact 2017. London: author.