The Guidelines for the Development of Learning Skills in the 21st Century of Mathayom Suksa 1 Students with the Dhamma Stories in Kongkaram School, Muang District, Phetchaburi Province

Main Article Content

Phrapaladpatchaya Jitpongsai
Wipawanee Puekbuakhaw

Abstract

The purposes of this research were to 1) study the important components that support the students’ development in the 21st century, 2) study learning skills with the dhamma stories, and 3) propose the guidelines for the development of learning skills in the 21st century of Mathayom Suksa 1 students with the dhamma stories. The studies were a blended research and a quantitative research, by using the questionnaires with the students of Mathayom Suksa 1 of Kongkaram School. The samples were 210 students, by using the stratified sampling. Statistics were used frequency mean and standard deviation. For this qualitative research, the in-depth interview was used for 10 persons through the purposive sampling method. The research findings revealed that: 1) The significant element to promote students’ development in the 21st century was overall at a high level; ranking in the order of mean from high to low as follows : the attitude of learners and motivation of learning life, career skills and using technology with creativity and proficiency. 2) The learning skills with the dhamma stories. was overall at a high level ; ranking in order of mean from high to low as follows : asking (interrogative), listening and taking a note. 3) The guidelines for the development of learning skills in the 21st century of Mathayom Suksa 1 students with the dhamma stories in Kongkaram School, Muang district, Phetchaburi province were 1) there should be school strategies for learning management in the 21st century to be the guideline, 2) teachers should have various teaching techniques to motivate students’ learning, 3) students should realize the importance of learning for the application in the daily life, and 4) monks who teach morality should encourage students to be active in the class so as to enhance their thinking skills and self-directed learning.

Article Details

How to Cite
Jitpongsai, P. . ., & Puekbuakhaw, W. . (2021). The Guidelines for the Development of Learning Skills in the 21st Century of Mathayom Suksa 1 Students with the Dhamma Stories in Kongkaram School, Muang District, Phetchaburi Province. Journal of Humanities and Social Sciences Review, 23(1), 150–162. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/hspbruacthjournal/article/view/252776
Section
Research Article

References

1. เกรียงศักดิ์ พลอยแสง. (2553). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษากับการสื่อสารที่จัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
2. ชาย โพธิสิตา. (2554). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้ง.
3. ชายุดา จันทะปิดตา. (2556). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, 6(2): 197-211.
4. ณิชชา จุนทะเกาศลย์. (2561). นิทานธรรมบท ทางแห่งความดีหลีกความชั่ว. ค้นเมื่อ 30 กันยายน 2561, จาก https://www.phuttha.com/คลังความรู้/บทความวิชาการ/นิทานธรรมบท-ทางแห่งความดีหลีกความชั่ว.
5. ธนสิทธิ์ คณฑา. (2551). การศึกษาการสอนแบบ Active Learning เพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ที่ลงเรียนในรายวิชาบัณฑิตอุดมคติไทย. นครสวรรค์: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
6. ธนารัตน์ มาลัยศรี. (2556). การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 ในหน่วยการเรียนรู้แบบย้อนกลับเรื่องประชาคมอาเซียน โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es). วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
7. ปุณยา จันทมาตย์. (2557). การศึกษาทักษะการสอนของครูสังคมศึกษาเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในโรงเรียนมาตรฐานสากลระดับมัธยมศึกษา. OJED, 10(4): 612-624.
8. พวงรัตน์ ชำนาญเลิศกิจ. (2558). ศึกษาการส่งเสริมนักเรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรม โรงเรียนประถมศึกษา สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
9. พิเชษฐ ยังตรง. (2560). กลยุทธ์การพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในศตวรรษที่ 21. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการศึกษา วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุริจบัณฑิต.
10. วรางคณา เค้าอ้น. (2560). การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
11. ศศิธร อินตุ่น. (2559). การใช้กิจกรรมจดบันทึกคอร์เนลล์เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดเห็นของนักศึกษา สาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น, 10(1): 108-120.
12. ศุจิกา เพชรล้วน. (2554). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสรรค์สร้างความรู้กับการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
13. สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สพฐ. (2561). แนวทางจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. ค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2561, จาก https://webs.rmutl.ac.th/assets/upload/files/.pdf
14. สุวิชา ศรีมงคล. (2557). การส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21: ทักษะการสื่อสารและความร่วมมือในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่องเซลล์และองค์ประกอบของเซลล์ด้วยสถานการณ์จำลอง. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
15. สุวิธิดา จรุงเกียรติกุล. (2561). ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (The Twenty-First Century Skills). ค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2561, จาก http://www.trueplookpanya.com/blog/content.
16. Austin, A. E., & Baldwin, R. G. (1991). Faculty collaboration: Enhancing the quality of scholarship and teaching. Washington, DC: School of Education and Human Development.
17. Delors, J. (1998). Learning: The treasure within: Report to UNESCO of The International Commission on Education for the 21st Century. Paris: UNESCO.
18. Whitehead, A. N. (1931). Business adrift. New York: McGraw–Hill.