ทัศนคติของนักศึกษาที่ศึกษาต่อในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะพื้นฐานและทัศนคติของนักศึกษาที่มีต่อการเลือกศึกษาต่อในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัยครั้งนี้คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จำนวน 155 คน การวิจัยนี้ดำเนินการในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2561 (เดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562) โดยดำเนินการเก็บข้อมูลในเดือนมกราคม 2562 ด้วยการใช้แบบสอบถามและนำเสนอผลการวิจัยใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า ลักษณะพื้นฐานของนักศึกษาในหลักสูตรส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาหญิง (ร้อยละ 78.7) ภูมิลำเนาอยู่ในภาคกลางร้อยละ 34.8 รองลงมาคือ กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 24.5 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 21.9 นักศึกษากว่าร้อยละ 71.6 มีพื้นฐานการศึกษาระดับมัธยมศึกษาในแผนการเรียนศิลป์-ภาษา และกว่าร้อยละ 67.8 พื้นฐานครอบครัวไม่ได้มีเชื้อสายจีน ทั้งนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากครอบครัว สำหรับทัศนคติของนักศึกษา พบว่า สิ่งที่นักศึกษาให้ความสำคัญในการเลือกเข้ามาเรียนในหลักสูตร สามารถจัดได้เป็น 8 อันดับคือ 1) อาจารย์ผู้สอน 2) หลักสูตร 3) ค่าใช้จ่ายในการศึกษา 4) สภาพทั่วไปทางสังคมและเศรษฐกิจ 5) ภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย 6) สื่อและอุปกรณ์การเรียน 7) สถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัย และ 8) อิทธิพลของบุคคลที่มีความสำคัญ ผลจากการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจารย์ผู้สอนและหลักสูตรถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเลือกเข้าศึกษาต่อในมุมมองของนักศึกษา ดังนั้นการส่งเสริมและพัฒนาคุณสมบัติของอาจารย์และความน่าสนใจของหลักสูตรที่เน้นในเรื่องการพัฒนาตนเองของนักศึกษา นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีการส่งเสริมต่อไป เพื่อดึงดูดให้ผู้ที่สนใจศึกษาภาษาจีนธุรกิจตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนี้
Article Details
1. มุมมองและความคิดเห็นใด ๆ ในบทความเป็นมุมมองของผู้เขียน คณะบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับมุมมองเหล่านั้นและไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของคณะบรรณาธิการ ในกรณีที่มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน แต่เพียงผู้เดียว
2. ลิขสิทธิ์บทความที่เป็นของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีมีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย การเผยแพร่จะต้องได้รับอนุญาตโดยตรงจากผู้เขียนและมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
2. ธันยากร ช่วยทุกข์เพื่อน. (2557). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเรียนในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
3. ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยจีน. (2561). ข้อมูลเศรษฐกิจจีน. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561, จาก http://www.thaibizchina.com.
4. สุขสันต์ ทับทิมหิน. (2560). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเลือกเรียนหลักสูตรภาษาจีน ในมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. ใน รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ครั้งที่ 1 นวัตกรรมสร้างสรรค์ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยแลนด์ 4.0. (หน้า 154-164). สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2561, จาก http://flas.reru.ac.th/uploads/esearch/20170908987832655.pdf.
5. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). รายงานการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับอุดมศึกษา. กรุงเทพฯ: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
6. Gao, F. (2012). Teacher identity, teaching vision, and Chinese language education for South Asian students in Hong Kong. Teachers and Teaching, 18(1), 89-99.
7. Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Maslow, A. H. (2013). A theory of human motivation. Simon and Schuster.
8. Wang, L., & Du, X. (2016). Chinese language teachers’ beliefs about their roles in the Danish context. System, 61, 1-11.