การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR Code แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี สำหรับการจัดการเรียนการสอน

Main Article Content

กรกมล ธนะโรจน์รุ่งเรือง
กมลทิพย์ รักเกียรติยศ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ใช้ QR Code แหล่งท่องเที่ยวเพชรบุรีในการบูรณาการกับการแปลภาษาจีน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการจัดการเรียนการสอนด้วยคิวอาร์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการใช้เทคโนโลยี QR Code แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี สำหรับการจัดการเรียนการสอน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรายวิชาการแปลไทย-จีน ทางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) QR Code แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี  2) แบบทดสอบวัดผลสมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้เทคโนโลยี QR Code แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี สำหรับการจัดการเรียนการสอน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ใช้ QR Code แหล่งท่องเที่ยวเพชรบุรีในการบูรณาการกับการแปลภาษาจีน พบว่า การใช้ QR Code ที่เชื่อมโยงไปยังข้อมูลภาษาจีนเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวจริง ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกและมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการจัดการเรียนการสอนด้วยคิวอาร์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี พบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 9.67 และคะแนนการทดสอบหลังเรียนเท่ากับ 13.47 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ผลประเมินความพึงพอใจต่อการใช้เทคโนโลยี QR Code แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี สำหรับการจัดการเรียนการสอน มีความพึงพอใจระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด 4.17

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ธนะโรจน์รุ่งเรือง ก. ., & รักเกียรติยศ ก. . (2025). การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR Code แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี สำหรับการจัดการเรียนการสอน. วารสารมนุษยสังคมปริทัศน์, 27(1), 133–147. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/hspbruacthjournal/article/view/281942
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรกมล ธนะโรจน์รุ่งเรือง และคณะ. (2563). การพัฒนาแอปพลิเคชันท่องเที่ยวมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเมืองพริบพรี จังหวัดเพชรบุรี ฉบับ จีน - อังกฤษ - ไทย. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 15(2), 1-15.

กุลธิดา ขันทอง. (2563). การใช้ QR Code จัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง รู้เท่าทันสังคมออนไลน์ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. คุรุสภาวิทยาจารย์, 1(3), 44-53.

จักรกฤษณ์ หมั่นวิชา และคณะ. (2559). การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี QR Code ในพิพิธภัณฑ์เมืองหาดใหญ่.ใน การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ และนานาชาติ ครั้งที่ 7 (น. 1427-1436). สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

จิณห์นิภา แสงสุข. (2565). เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดกับการประยุกต์ใช้ในชีวิตวิถีใหม่. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ฉบับเทคโนโลยีการศึกษา, 6(2), 1-13.

ชาตรี คุ้มอนุวงศ์. (2553). ความพึงพอใจที่มีผลต่อแนวโน้มพฤติกรรมการใช้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้บริโภค. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุรพงษ์ คงสัตย์ และธีรชาติ ธรรมวงค์. (2551). การหาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม (IOC). สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2566, จาก http://mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_ id=656&articlegroup_id=146.2551.

สิวาวุธ สุทธิ. (2553). การประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2566, จาก https://www.gotoknow.org/posts/338714.

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรี. (2562). เที่ยวเพชรบุรีแบบครบวงจร. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2566, จาก https://sites.google.com/view/phetchaburiqrcode/main?authuser=0.

ศุภร ชูทรงเดช. (2562). การสื่อสารความรู้ผ่านนนวัตกรรม QR Code: กรณีศึกษาแหล่งโบราณคดีเพิงผาบ้านไร่ อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปกร.

So good web. (2564). QR Code คืออะไร. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2566, จาก https://blog.sogoodweb.com/Article/Detail/147282/QR-Code-คืออะไร.