https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/issue/feed วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2024-06-30T21:33:57+07:00 รองศาสตราจารย์ ดร.ปณิศา มีจินดา panisa_m@rmutt.ac.th Open Journal Systems <p>วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มี วัตถุประสงค์ 1) เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการที่มีคุณภาพทางด้านการบริหาร จัดการ และการตลาดของบุคลากรทั้งภายใน และภายนอกมหาวิทยาลัย 2) เป็นสื่อกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการของคณาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย นักศึกษา และบุคคลทั่วไป 3) เป็นแหล่งในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางการวิจัยของบุคลากร คณาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นักศึกษา และบุคคลทั่วไป</p> https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/274105 “It s Live Time รวยด้วย Live Commerce ทะลุล้าน: ตามรอยผู้ทรงอิทธิพลออนไลน์จีนหมื่นล้าน สร้างยอดขายนาทีละแสน” 2024-06-30T21:33:57+07:00 ณฐมน บัวพรมมี nathamon_b@rmutt.ac.th 2024-06-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/274086 บทบรรณาธิการ 2024-06-29T20:37:13+07:00 ปณิศา มีจินดา mechinda.panisa@gmail.com 2024-06-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/268334 อิทธิพลของกลยุทธ์การสร้างตราผลิตภัณฑ์ที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรทางการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศไทย 2023-10-16T15:38:17+07:00 วิทวัส ปานศุภวัชร wittawat@snru.ac.th วันวิภา ปานศุภวัชร wanvipamutoo@gmail.com ชัยณรงค์ พูลเกษม robchana2@gmail.com <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาอิทธิพลของกลยุทธ์การสร้างตราผลิตภัณฑ์ที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรทางการตลาด ความสามารถในการแช่งขันทางการตลาดและความสำเร็จของตราผลิตภัณฑ์ 2) ศึกษาอิทธิพลของความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรทางการตลาด และ 3) ศึกษาอิทธิพลของความสำเร็จของ ตราผลิตภัณฑ์ที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรทางการตลาด ทำการศึกษาในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างกันในคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์จากแต่ละผู้ผลิตไม่มากนัก กลยุทธ์ การสร้างตราผลิตภัณฑ์จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยมีผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เป็นผู้ให้ข้อมูลจำนวนทั้งสิ้น 320 ราย โดยการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เส้นทาง ในการทดสอบสมมติฐาน</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า กลยุทธ์การสร้างตราผลิตภัณฑ์ มีอิทธิพลในเชิงบวกกับความสามารถในการทำกำไรทางการตลาด ความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด และความสำเร็จของตราผลิตภัณฑ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้ความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดมีอิทธิพลต่อความสามารถในการทำกำไรทางการตลาดในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และพบว่าความสำเร็จของตราผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลต่อความสามารถในการทำกำไรทางการตลาด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดลสมการโครงสร้างและข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่าโมเดลสมการโครงสร้างมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์</p> 2024-05-12T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/268761 การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงินสำหรับผู้เกษียณอายุ กรณีศึกษา: การรับเงินบำนาญจากกองทุนการออมแห่งชาติ 2024-03-08T09:03:58+07:00 สุพัฒนา เตโชชลาลัย suphattana.t@mail.rmutk.ac.th ปรมินทร์ โฆษิตกุลพร Paramin.k@mail.rmutk.ac.th พรสวัสดิ์ ผดุง Pornsawas.p@mail.rmutk.ac.th <p>การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงินสำหรับผู้เกษียณอายุ กรณีศึกษา: การรับเงินบำนาญจากกองทุนการออมแห่งชาติ โดยเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนกับอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ อัตราผลตอบแทนของกองทุนการออมแห่งชาติ และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล โดยเก็บข้อมูลทุติยภูมิ ซึ่งเครื่องมือในการวิเคราะห์ ได้แก่ ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value: NPV) และอัตราผลตอบแทนซื้อลด (Internal Rate of Returns: IRR)</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า หากผู้ออมเริ่มออมตั้งแต่อายุ 15-60 ปี จะมีระยะเวลาคืนทุนเมื่อผู้ออมมีอายุ 79.14 ปี ถ้าผู้ออมเริ่มออมตั้งแต่อายุ 30-60 ปี จะมีระยะเวลาคืนทุนเมื่อผู้ออมมีอายุ 75.62 ปี นอกจากนี้ หากผู้ออมเริ่มออมตั้งแต่อายุ 45-60 ปี จะมีระยะเวลาคืนทุนเมื่อผู้ออมมีอายุ 77.55 ปี อย่างไรก็ตาม หากผู้ออมเริ่มออมตั้งแต่อายุ 50-60 ปี จะมีระยะเวลาคืนทุนเมื่อผู้ออมมีอายุ 93.91 ปี สำหรับผลการวิจัยมูลค่าปัจจุบันสุทธิ และอัตราผลตอบแทนซื้อลด พบว่า ผู้ออมที่เริ่มออมเงินตั้งแต่อายุน้อยจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าผู้ออมที่เริ่มออมเมื่อมีอายุมากแล้ว</p> 2024-05-20T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/270680 EXPLORING THE LINK: HOW SERVICE QUALITY INFLUENCES STUDENT SATISFACTION AND FOSTERS LOYALTY IN EDUCATIONAL INSTITUTIONS 2024-02-28T14:11:52+07:00 Shangmin Wang S64584945016@ssru.ac.th Chaithanaskorn Phawitpiriyakliti Chaithanaskorn.ph@ssru.ac.th Sid Terason fsssid@ku.ac.th <p>Student loyalty has improved the sustainable development and survival rate of private universities. The quality of universities' services is an important indicator for measuring the results of private universities. This research aims to explore the mediating role of satisfaction between service quality and student loyalty. The researcher used a random sampling method to collect data from 493 responses of students in private universities in Guangxi. Using SmartPLS 4 software, the relationship between structures was analyzed using partial least squares (PLS) structural equation method.</p> <p>The results indicated that service quality affected student satisfaction, which in turn influenced loyalty. However, service quality had no significant direct impact on loyalty. The impact of service quality on loyalty was indirect, as mediated by satisfaction. Therefore, while improving the quality of university services, university managers should pay more attention to the improvement of student satisfaction, and continuously promote the close connection and recognition of students with colleges and universities, to stimulate and consolidate the loyalty of students.</p> 2024-05-24T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/268058 สมรรถนะในการทำงานด้านโลจิสติกส์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการขนส่ง กรณีศึกษา บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาบางพลี 2023-09-24T17:04:07+07:00 อัครพล สมรูป akkaraphon_s@mail.rmutt.ac.th ปริญ วีระพงษ์ prin_w@rmutt.ac.th <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการ ได้แก่ เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ รายได้ ที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการขนส่งของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาบางพลี และศึกษาสมรรถนะการทำงานด้านโลจิสติกส์ของผู้ให้บริการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการขนส่งของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาบางพลี โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ผู้ใช้บริการขนส่งของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด สาขาบางพลี จำนวน 400 คน โดยใช้วิธีการเลือกตัวอย่างแบบบังเอิญ และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที กรณีตัวแปรสองกลุ่มอิสระต่อกัน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์สมการถอดถอยเชิงพหุ ณ ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05</p> <p>ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการ ได้แก่ เพศ อายุ อาชีพ และรายได้ ของผู้ใช้บริการขนส่ง มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการขนส่ง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาบางพลี และพบว่า สมรรถนะในการทำงานด้านโลจิสติกส์ของผู้ให้บริการมีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการขนส่ง บริษัท ไปรษณีย์ไทย สาขาบางพลี ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยมีสมการในรูปคะแนนมาตรฐาน คือ 0.114 (การวางตำแหน่งและบูรณาการกับการจัดการทางโลจิสติกส์) + 0.112 (การทำงานด้วยความโปร่งใส) + 0.247 (การบูรณาการภายใน) - 0.003 (การยืดหยุ่นในการทำงาน) + 0.412 (ระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยี) โดยสามารถนำผลที่ได้จากการวิจัยนี้ไปพัฒนาสมรรถนะ การทำงานด้านโลจิสติกส์ในด้านการวางตำแหน่งและบูรณาการกับการจัดการทางโลจิสติกส์ การทำงาน ด้วยความโปร่งใส การบูรณาการภายใน และระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ผู้รับบริการการตัดสินเลือกใช้บริการขนส่ง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาบางพลี เพิ่มขึ้น</p> 2024-06-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/265010 ปัจจัยคุณค่าตราสินค้าที่มีอิทธิพลต่อทัศนคติของผู้บริโภค Generation Y ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ต่อตรา MG 2023-06-14T09:33:46+07:00 จารุพร ตั้งพัฒนกิจ jaruporn.tan@ku.th <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณค่าตราสินค้า ซึ่งประกอบด้วย การตระหนักรู้ในตราสินค้า ความเชื่อมโยงตราสินค้า ความภักดีต่อตราสินค้า และการรับรู้คุณภาพที่ส่งผลต่อทัศนคติที่มีต่อรถยนต์ MG ของผู้บริโภค Generation Y ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยทำการเก็บแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 424 ชุด โดยเลือกใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างที่ไม่อาศัยความน่าจะเป็น ทั้งหมด 2 วิธี คือ การสุ่มตัวอย่างตามสะดวก และการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ซึ่งใช้วิธีการแจกแบบสอบถามโดยใช้ Google Form และวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 32-38 ปี เป็นพนักงานริษัทเอกชน มีรายได้ต่อเดือน 15,000-25,000 บาท ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยด้านการตระหนักรู้ ปัจจัยด้านการเชื่อมโยงกับตราสินค้า และปัจจัยด้านการรับรู้คุณภาพส่งผลต่อทัศนคติที่มีต่อตรา MG อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ปัจจัยด้านความภักดีต่อตราสินค้าไม่ส่งผลหรือไม่มีอิทธิพลต่อทัศนคติของผู้บริโภค Generation Y ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี</p> 2024-06-28T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/267604 การสำรวจความพร้อมของจังหวัดอุดรธานีกับการเป็นเจ้าภาพ จัดงานพืชสวนโลกในปี 2569 2023-12-25T15:12:42+07:00 ศิริวรรณ สนั่นเอื้อ siriwan.sa@udru.ac.th สันติธร ภูริภักดี santidhorn@yahoo.com <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีวิทยาการกรณีศึกษาเฉพาะ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาศักยภาพความพร้อมในการจัดงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569 (2) ศึกษาแนวทางการเตรียมความพร้อมในการจัดงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569 คัดเลือกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 23 ราย โดยเก็บข้อมูลด้วยการศึกษาเอกสาร สัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกต และการจดบันทึก ผลการวิจัย พบว่า (1) ศักยภาพความพร้อมในการจัดงานพืชสวนโลก ประกอบด้วย <br />5 ด้าน คือ (1.1) ด้านสถานที่จัดงาน ร้านอาหาร โรงแรมและที่พัก ร้านของที่ระลึก และสถานที่ท่องเที่ยว (1.2) ด้านบุคลากร ความปลอดภัย การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวก (1.3) ด้านโอกาสทางธุรกิจ และประโยชน์สู่ชุมชน (1.4) ด้านกระบวนการส่งเสริมการจัดงานจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และการสร้างการรับรู้กับภาคประชาชน และ (1.5) ด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (2) แนวทางการเตรียมความพร้อมในการจัดงานพืชสวนโลก ประกอบด้วย 4 แนวทาง คือ (2.1) การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติงาน (2.2) การมีบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีประสบการณ์ในการทำงาน (2.3) การเตรียมพันธุ์พืชให้มีความเพียงพอในการจัดงาน และ (2.4) การวางแผนการตลาด และการประชาสัมพันธ์</p> <p>ผลการวิจัยครั้งนี้บ่งชี้ถึงองค์ประกอบสำคัญที่จะเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดงานพืชสวนโลก ซึ่งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตระหนัก และให้ความสำคัญในการวางแผน เพื่อให้การจัดงานมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> 2024-06-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/267883 ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรของประชากรวัยทำงาน GENERATION Y หลังสถานการณ์ COVID-19 2023-11-28T15:44:46+07:00 ธันยพร วิศรียา maythanyapornn@gmail.com วัลภา หัตถกิจพาณิชกุล wanlapah@g.swu.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรของประชากร Generation Y หลังสถานการณ์ COVID-19 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัย 400 ตัวอย่าง โดยเป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ค่าสถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแตกต่างโดยการทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า (1) ประชากร Generation Y ที่มีเพศ อายุ ระดับรายได้ และระดับตำแหน่งงานแตกต่างกันมีประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรหลังสถานการณ์ COVID-19 ที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) แรงจูงใจในการทำงาน การทำงานเป็นทีม และความเครียดในการทำงานมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรของประชากร Generation Y อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> 2024-06-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี https://so05.tci-thaijo.org/index.php/mmr/article/view/268065 ส่วนประสมทางการตลาดบริการ และการยอมรับเทคโนโลยีบนสมาร์ตโฟน ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL ของลูกค้า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2023-11-29T14:26:58+07:00 เบญจมาศ วงศ์พุฒิ waranyau65@nu.ac.th วิจิตรา จำลองราษฎร์ jee.wichitra@gmail.com เอกรงค์ ปั้นพงษ์ akkaongpunpong@gmail.com <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดบริการ การยอมรับเทคโนโลยีบนสมาร์ตโฟน และการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL ของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของส่วนประสมทางการตลาดบริการ และการยอมรับเทคโนโลยีนสมาร์ตโฟน ที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL ของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ลูกค้าของธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 361 คน โดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย ผู้วิจัยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณในการวิเคราะห์ข้อมูล</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ส่วนประสมทางการตลาดบริการ การยอมรับเทคโนโลยีบนสมาร์ตโฟน และการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL ของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ อยู่ในระดับมากที่สุด และส่วนประสมทางการตลาดบริการ การยอมรับเทคโนโลยีบนสมาร์ตโฟนส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL ของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยสมการพยากรณ์สามารถพยากรณ์ผลการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL ได้ถูกต้องร้อยละ 86.60</p> 2024-06-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี