วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh
<p>วารสารมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ เป็นวารสารที่เปิดรับบทความวิจัยและบทความวิชาการ ในสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ จากนักวิจัย นักวิชาการ คณาจารย์ นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจจะนำผลงานวิจัยหรือผลงานวิชาการนำมาเผยแพร่ ซึ่งวารสารดังกล่าว ได้ดำเนินการจัดทำมาตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และได้รับรองจากสภามหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์เรียบร้อยแล้ว โดยรับตีพิมพ์บทความในสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้แก่สาขาวิชารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การจัดการ บริหารธุรกิจ พัฒนาสังคมและการศึกษา</p> <p><strong>กำหนดออกวารสารทุก </strong><strong>2 เดือน (ปีละ 2 ฉบับ) </strong></p> <p>ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน ของทุกปี</p> <p>ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม ของทุกปี</p> <p><strong> </strong><strong>วัตถุประสงค์</strong></p> <p> เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ ส่งเสริมและสนับสนุนให้คณาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการและนิสิตนักศึกษา ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป ได้มีโอกาสนำผลงานวิชาการและงานวิจัยในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ อีกทั้งแขนงวิชาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระพุทธศาสนา รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การจัดการ บริหารธุรกิจ พัฒนาสังคมและการศึกษา</p> <p><strong>อัตราค่าสมาชิก</strong></p> <p>สามัญรายปี (ปีละ 2 ฉบับ) 500 บาท</p> <p><strong>เจ้าของวารสาร</strong></p> <p>บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์</p> <p><strong> </strong><strong>รูปแบบการดำเนินการกลั่นกรองบทความ</strong></p> <p><strong> </strong>กองบรรณาธิการได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำวารสาร ตั้งแต่การคัดเลือกบทความโดยกองบรรณาธิการตรวจสอบรูปแบบก่อนนำส่งผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณากลั่นกรองบทความ โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความละ 3 ท่านต่อบทความ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ และในการประเมินใช้รูปแบบผู้ประเมินไม่ทราบชื่อผู้แต่งและผู้แต่งไม่ทราบชื่อผู้ประเมิน</p>
สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
th-TH
วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2465-549X
-
การเยียวยาผู้บริโภคจากการซื้อสินค้าออนไลน์
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh/article/view/278318
<p> พฤติกรรมของผู้บริโภคในอดีตจะมีการซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้า ร้านค้าหรือตลาด ต่อมาเมื่อมีการนำระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ขายสินค้าออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย จึงมิได้นำพาต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขาย สินค้าออนไลน์และมิได้จดทะเบียนตามกฎหมาย ทำให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองบริโภคไม่มีทะเบียน ประวัติเกี่ยวกับชื่อ และที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ ดังนั้น ในกรณีที่มีปัญหาจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีได้รับสินค้าไม่ครบตามจำนวน สินค้ามีความชำรุดบกพร่อง หรือประเภทสินค้าไม่ตรงกับที่โฆษณา จึงทำให้ภาครัฐไม่สามารถนำผู้ประกอบธุรกิจมาดำเนินคดีได้ ส่วนในกรณีที่ทราบชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ การดำเนินการแก้ไขเยียวยาให้แก่ผู้บริโภคก็ยังล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีมีการขอเปลี่ยนสินค้าหรือการขอคืนเงิน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภาครัฐจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการดำเนินคดีและเผยแพร่ชื่อของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวให้ประชาชนทราบ</p>
พงษ์ลดา ภัทรมานะวงศ์
สุทธิศักดิ์ ภัทรมานะวงศ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2025-06-28
2025-06-28
9 1
77
87
-
Factors Affecting Job Satisfaction of Teachers in Private Kindergartens in Zhengzhou, China.
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh/article/view/279413
<p>This research employed a mixed-methods approach, combining both quantitative and qualitative methodologies. Quantitative data were collected through a questionnaire administered to 200 teachers in private kindergartens, selected using stratified and simple random sampling techniques. The data were analyzed using descriptive statistics (frequency, percentage, mean, and standard deviation) and multiple regression analysis. For the qualitative component, in-depth interviews were conducted with six teachers and kindergarten administrators. The data were analyzed using content analysis. The results showed that the majority of respondents were women, aged between 31 and 40 years, held a bachelor’s degree, and had an average monthly income of 3,000–4,000 USD. Regarding the factors affecting Teachers’ job satisfaction, teacher commitment had the highest mean score, followed by Transformational leadership, School climate, and Self-efficacy, respectively. Multiple regression analysis revealed that school climate and Teacher commitment significantly predicted Teachers’ job satisfaction at the .05 level, while Transformational leadership and Self-efficacy did not have a significant effect. The model accounted for 75.2% of the variance in job satisfaction. The qualitative findings provided guidelines for enhancing Teachers' job satisfaction, which include: (1) developing transformational leadership among administrators by improving effective communication; (2) improving the school environment by fostering a positive work atmosphere, strengthening teacher-administrator relationships, and cultivating a supportive organizational culture; (3) encouraging teacher participation in decision-making; and (4) enhancing teacher commitment through professional development programs, clear incentive systems, and opportunities for peer learning.</p>
Lifang Hou
Sureemas Sukkasi
Phanthida Laophuangsak
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2025-06-28
2025-06-28
9 1
1
17
-
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชาชุมเห็ดไทย
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh/article/view/278934
<p>จากความวิตกกังวล เครียดสะสมและความเสื่อมของร่างกายที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอน เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพตามมา จากการทบทวนวรรณกรรม พบว่า สารสกัดจากเมล็ดชุมเห็ดไทยมีฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับได้เร็วขึ้นและหลับสนิทมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ เช่น ช่วยบำรุงร่างกาย การศึกษานี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาสมุนไพรจากเมล็ดชุมเห็ดไทยสูตรเฉพาะ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับด้วยวิธีธรรมชาติ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชาชุมเห็ดไทย 2.เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชาชุมเห็ดไทย ประชากรกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพการแพทย์แผนไทย แผน ก. อายุ 30 ปีขึ้นไป จำนวน 100 คน พำนักในเขตกรุงเทพมหานคร โดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม ผลการศึกษาพบว่า เครื่องดื่มสมุนไพรชาชุมเห็ดไทยที่ช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับสบาย มีรสชาติที่กลมกล่อมในแต่ละสูตร มีดังนี้ 1.Peaceful night ใช้เมล็ดชุมเห็ดไทย 5 กรัม, เก๊กฮวย 4 กรัม, เตยหอม 0.5 กรัม 2.One blue day ใช้เมล็ดชุมเห็ดไทย 5 กรัม, คาโมมายล์ 3 กรัม, มะตูม 1 กรัม และ 3.Deep Zleep ใช้เมล็ดชุมเห็ดไทย 5 กรัม, เสาวรส 2 กรัม, ชะเอมเทศ 0.5 กรัม โดยความพึงพอใจของผู้บริโภคในภาพรวมต่อเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพชาชุมเห็ดไทยทั้ง 3 สูตรคือช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น สามารถหลับได้ยาวถึงเช้า ตื่นขึ้นมารู้สึกสดชื่น อยู่ในระดับมากที่ค่าเฉลี่ย <strong>x̅</strong> เท่ากับ 4.16</p>
มณีกัญญา นากามัทสึ
คนึงนิจ รัตนอริยเมธีกร
พัชรินทร์ ประเสริฐวณิช
พรปวีณ์ ขวัญทองพิศักดิ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2025-06-28
2025-06-28
9 1
18
34
-
ประสิทธิผลการพัฒนาท้องถิ่นของผู้นำตามบทบาทหน้าที่อำนาจและภารกิจ ในเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh/article/view/279816
<h2>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันในการพัฒนาท้องถิ่นของผู้นำตามบทบาทหน้าที่อำนาจและภารกิจในเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อประสิทธิผลการพัฒนาท้องถิ่นของผู้นำตามบทบาทหน้าที่อำนาจและภารกิจในเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และ 3) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาท้องถิ่นของผู้นำตามบทบาทหน้าที่อำนาจและภารกิจในเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 3 กลุ่ม ที่ประกอบด้วย 1) ข้าราชการ ทางการเมืองท้องถิ่น 2) ข้าราชการประจำท้องถิ่น และ 3) ผู้นำชุมชนและประชาชนในท้องถิ่น จำนวนทั้งสิ้น 20 คน พรรณนาหาข้อสรุปอย่างเป็นระบบใช้เหตุผลอ้างอิงทฤษฎีดำเนินการจัดระเบียบข้อมูล</h2> <h2>ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันในการพัฒนาท้องถิ่นในเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการที่มีสังคมชนบทกึ่งสังคมเมืองเป็นบทสะท้อนปัญหาประสิทธิผลการพัฒนาท้องถิ่นของผู้นำตามบทบาทหน้าที่อำนาจและภารกิจภายใต้เงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ 2) ปัญหาและอุปสรรคพบว่าพื้นที่การปฏิบัติหน้าที่มีขนาดใหญ่ การแทรกแซงจากอิทธิพลทางการเมือง งบประมาณจำกัด การทับซ้อนในการปฏิบัติหน้าที่ และ 3) แนวทางการพัฒนาท้องถิ่นของผู้นำตามบทบาทหน้าที่อำนาจและภารกิจ ได้แก่ (1) การนำหลักธรรมาภิบาลเป็นแนวทางในการปฏิบัติ (2) มีการบริหารที่สอดคล้องกับนโยบาย (3) มีโครงสร้างและกระบวนการบริหารที่มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และ (4) มีการติดตามผลการปฏิบัติงาน การปรับปรุงแก้ไขตามลำดับ</h2>
พราวพิชชา เถลิงพล
นิยม พัฒนศรี
จรัสพงศ์ คลังกรณ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2025-06-28
2025-06-28
9 1
35
46
-
สภาพปัญหาและความต้องการที่มีต่อการเรียนการสอนของนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี หลังวิกฤติการระบาด Covid 19
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh/article/view/276266
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสภาพปัญหาและความต้องการที่มีต่อการเรียนการสอนของนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี หลังวิกฤติการระบาดCovid 19 ที่ใช้ในการเรียนการสอน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ชั้นปีที่ 1- 4 มีจำนวน 290 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย ได้ขนาดตัวอย่าง 165 คน ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ พบว่า 1. มีจำนวนนักศึกษาชายมากกว่านักศึกษาหญิงและผู้ปกครองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ เกษตรกร รองลงมารับราชการ มีรายได้พอใช้ นักศึกษาทุกคนมีอุปกรณ์ที่ใช้คือ สมาร์ทโฟน (Smart Phone) 2. ปัญหาของการเรียนการสอนออนไลน์พบว่ามี 2 ด้าน 1) ด้านเทคนิคอุปกรณ์นักศึกษาส่วนใหญ่มีปัญหาการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สามารถพร้อมใช้งานได้ ขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องมือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานไม่รองรับและสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียรพอ 2) ด้านสภาพแวดล้อม ส่วนมากนักศึกษามีสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ไม่มีความเป็นส่วนตัวทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนและจัดเวลาการเข้าเรียนไม่ได้ 3. ข้อแนะนำในการจัดการเรียน 1) บรรยากาศการเรียน ครูควรกระตุ้นให้เกิดการเรียนด้วยกิจกรรม ทีมีทักษะการสอนน่าสนใจ 2) ครูผู้สอนควรเลือกใช้ช่องทางที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายในการสอนออนไลน์ 3) การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักศึกษาที่ดีต่อกัน</p>
ปราการ เกิดมีสุข
ณัชชา ธาตรีนรานนท์
ภัควลัญชญ์ ผาณิตพิเชฐวงศ์
สุธีรา สุทธิวาทนฤพุติ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2025-06-28
2025-06-28
9 1
47
58
-
ความต้องการการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันสำหรับสนับสนุนผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/saujournalssh/article/view/276383
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการใช้เว็บแอปพลิเคชันเพื่อสนับสนุนผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง โดยใช้การวิจัยเชิงพรรณนา กลุ่มตัวอย่างจำนวน 550 คน ประกอบด้วยผู้จัดการการดูแล (Care Manager หรือ CM) ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Caregiver หรือ CG) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งได้จากการสุ่มแบบเจาะจงจากทั้ง 11 อำเภอ เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามที่สร้างขึ้นจากการศึกษาวรรณกรรมและบริบทการทำงานจริง ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ได้ค่า IOC รวมเท่ากับ 1.00 แสดงถึงความเหมาะสมในการวัดวัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความต้องการใช้แอปพลิเคชันในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.95 จาก 5.00) โดยเฉพาะด้านการบันทึกข้อมูล การวางแผนการดูแล และการสื่อสารกับหน่วยงาน ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง</p>
กนกวรรณ เขียววัน
ฆัมภิชา ตันติสันติสม
นรุตม์ บุตรพลอย
พรหมเมศ วีระพันธ์
จินดาพร อ่อนเกตุ
จตุรงค์ ธงชัย
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
2025-06-28
2025-06-28
9 1
59
76