วารสารประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history <p>วารสารประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เป็นวารสารวิชาการราย 6 เดือน (ปีละ 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม) มีกำหนดการตีพิมพ์ 2 รูปแบบ ทั้งรูปแบบตีพิมพ์ (Print) และรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) ทั้งนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป เปลี่ยนแปลงรูปแบบการตีพิมพ์เหลือเพียงแบบเดียวคือ รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) วารสารประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ของภาควิชาประวัติศาสตร์ ปรัชญา และวรรณคดีอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และความก้าวหน้าในทางวิชาการ โดยเปิดรับบทความที่มีการศึกษาอย่างมีมิติทางประวัติศาสตร์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ<br /><br />** คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมการส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการของคณะศิลปศาสตร์ที่อยู่ในฐานข้อมูล TCI กลุ่ม 1 สำหรับบทความที่ submit ผ่านระบบ<strong>ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป</strong></p> คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ th-TH วารสารประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ 2408-0829 <p>ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย&nbsp;</p> <p>ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารนี้เป็นของผู้เขียน คณะกรรมการวารสาร ภาควิชาประวัติศาสตร์ฯ กองบรรณาธิการ ตลอดจนกรรมการกลั่นกรองประจำฉบับ ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องกับข้อคิดเห็นเหล่านั้น</p> กองบรรณาธิการ https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/285510 <p>-</p> กองบรรณาธิการ วารสารประวัติศาสตร์ มธ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 บทบรรณาธิการ https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/285511 จุฬาพร เอื้อรักสกุล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 สารบัญ https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/285512 <p>-</p> กองบรรณาธิการ วารสารประวัติศาสตร์ มธ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 การเดินทางเยือนสเปนของจอมพล ป. พิบูลสงครามกับการกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสเปนในยุคต้นสงครามเย็น https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/280921 <p>งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสเปนในยุคต้นสงครามเย็นผ่านการเดินทางเยือนสเปนอย่างเป็นทางการของจอมพล ป. พิบูลสงครามใน พ.ศ. 2498 หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้หันมากระชับความสัมพันธ์กับสเปนเนื่องจากต้องการสกัดกั้นการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรป รัฐบาลไทยซึ่งดำเนินการต่างประเทศตามสหรัฐอเมริกาก็ได้เริ่มต้นกระชับความสัมพันธ์กับสเปนเช่นเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในนโยบายสำคัญก็คือการเดินทางเยือนสเปนอย่างเป็นทางการของจอมพล ป.​ พิบูลสงคราม ใน พ.ศ. 2498 ไทยและสเปนต่างมีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ตามนโยบายของสหรัฐอเมริกา เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์จอมพล ป. ตัดสินใจกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตกับสเปนทั้งการเปิดสถานทูตไทยประจำกรุงมาดริดขึ้นใน พ.ศ. 2493 และการส่งข้าราชการเดินทางไปเยือนสเปน จนกระทั่งใน พ.ศ. 2498 จอมพล ป. และท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงครามและคณะตัดสินใจเดินทางไปเยือนสเปนเพื่อเข้าพบจอมพลฟรานซิสโก ฟรังโกด้วยตนเอง โดยในระหว่างการเยือนประเทศสเปน นายกรัฐมนตรีได้ขอพระราชทานเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ให้แก่จอมพลฟรังโกและข้าราชการชาวสเปน การเดินทางไปเยือนของจอมพล ป. ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลสเปนที่มุ่งหวังว่าจะผูกสัมพันธ์กับรัฐบาลไทย ซึ่งสุดท้ายแล้วในปีเดียวกันนี้เองรัฐบาลไทยได้ตัดสินใจสนับสนุนสเปนให้เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ</p> เทพ บุญตานนท์ เพ็ญพิสาข์ ศรีวรนารถ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 เทพ บุญตานนท์, เพ็ญพิสาข์ ศรีวรนารถ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 1 35 10.64731/histtu.v12i2.280921 มหามิตรรัสเซีย : กรอบการคิดติดกลุ่มกับการตัดสินใจด้านนโยบายต่างประเทศของชนชั้นนำไทยและรัสเซียช่วง ค.ศ. 1893-1904 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/281131 <p>บทความนี้มุ่งศึกษาสาเหตุที่ทำให้เกิดการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย แม้ว่าจะมีงานวิชาการจำนวนมากศึกษาประเด็นนี้มาอย่างยาวนานและลึกซึ้ง ทั้งโดยนักวิชาการชาวไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี กรอบการศึกษาที่ผ่านมามักอิงกับกรอบคิดแบบสภาพจริงนิยม ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือศึกษาผ่านมุมมองของชาติใดชาติหนึ่ง บทความนี้จึงมุ่งศึกษาปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ผ่านหลักฐานร่วมสมัย เช่น พระราชหัตถเลขารัชกาลที่ 5 เอกสารกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ บันทึกส่วนตัว เป็นต้น ที่นำมาสู่นโยบายต่างประเทศของทั้งไทยและรัสเซีย โดยเฉพาะบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจนโยบาย จากการศึกษาผ่านกรอบดังกล่าว จากหลักฐานข้างต้น บทความนี้ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1893-1904 ชนชั้นนำไทยและรัสเซีย แม้จะมีเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่ต่างเห็นว่าการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกันจะนำมาซึ่งการบรรลุเป้าหมายหลักในด้านการต่างประเทศ ด้านไทยคือความต้องการบรรลุการเจรจากับฝรั่งเศส หลังวิกฤตปากน้ำ ส่วนรัสเซียนั้นคือการขยายอิทธิพลเข้ามาในตะวันออกไกล อย่างไรก็ตาม การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-รัสเซียกลับไม่ได้ให้ผลลัพธ์ดังที่ทั้งสองประเทศคาดหวังไว้นัก</p> ปราน จินตะเวช ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ปราน จินตะเวช https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 36 72 10.64731/histtu.v12i2.281131 ทวิลักษณ์พัฒนาการทางการเมืองของเมืองขุขันธ์ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24-25 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/283671 <p>บทความนี้ต้องการเสนอว่า ลักษณะภูมิศาสตร์ของพื้นที่ขุขันธ์ที่ตั้งอยู่บนที่ราบใกล้แนวทิวเขาพนมดงรักทำให้รูปแบบการดำเนินชีวิตและการสร้างสังคมของขุขันธ์มีลักษณะทวิลักษณ์ รูปแบบดังกล่าวทำให้ชุมชนในพื้นที่ของขุขันธ์ปรากฏออกมาทั้งรูปแบบของชุมชนเมือง ขณะเดียวกันก็มีชุมชนในลักษณะของผู้หลีกหนีรัฐปรากฏควบคู่กัน แต่รูปแบบการตั้งชุมชนและการดำเนินกิจการทางการเมืองในท้องที่เกิดความเปลี่ยนแปลงภายใต้การสลายตัวของหน่วยการเมืองขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นราวช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 และนำไปสู่สภาพสุญญากาศทางการเมืองในพื้นที่ ซึ่งทำให้ชุมชนเมืองหดตัวลง แต่เปิดโอกาสให้ชุมชนของผู้หลีกหนีรัฐขยายตัวขึ้น จุดเปลี่ยนสำคัญอีกจังหวะหนึ่งสำหรับท้องที่คือการขยายอิทธิพลของสยามที่เข้ามาในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 24 ส่งผลให้เกิดการสถาปนาเมืองขุขันธ์ในรูปแบบศักดินาเพื่อควบคุมพื้นที่ แต่ด้วยสภาพรูปแบบทางการเมืองของท้องที่ที่แต่เดิมไม่เอื้อให้กลุ่มชนชั้นนำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอำนาจอย่างล้นพ้นเหนือกลุ่มอื่น จึงทำให้กิจการทางการเมืองของขุขันธ์มีปัญหาความขัดแย้งภายในและความคลุมเครือในพื้นที่ทางอำนาจ หลังสงครามคราวเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ เมื่อสยามพยายามเข้ามากระชับอำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์ในท้องที่มากขึ้น อำนาจทางการเมืองและการดำเนินกิจการของขุขันธ์จึงเริ่มเป็นระบบระเบียบที่ชัดเจน ถือเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบอำนาจภายในของขุขันธ์และทำให้ขุขันธ์กลายเป็นบูรณภาพเดียวกันกับสยามอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น นำไปสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในลักษณะเดียวกันกับหัวเมืองอื่นในพื้นที่ภาคอีสานของไทย</p> บริพัตร อินปาต๊ะ วุฒิชัย นาคเขียว ศิริวุฒิ วรรณทอง ธันยพงศ์ สารรัตน์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 บริพัตร อินปาต๊ะ, วุฒิชัย นาคเขียว, ศิริวุฒิ วรรณทอง, ธันยพงศ์ สารรัตน์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 73 101 10.64731/histtu.v12i2.283671 วันครู หนังสือประวัติครู และพระราชดำรัส : การสร้างอัตลักษณ์ให้แก่อาชีพครู พ.ศ. 2500-2520 https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/281554 <p>บทความนี้ต้องการเผยกระบวนการสร้างอัตลักษณ์อนุรักษนิยมแก่ครูไทย พ.ศ. 2500-2520 ระหว่างที่รัฐไทยกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การก่อร่างฉันทามติทางการเมืองให้สถาบันกษัตริย์กลายเป็นองค์ประธานของความดีงามชี้ถูกผิดแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชาติบ้านเมือง โดยมีครูเป็นฐานมวลชนสนับสนุนจากการสมาทานอัตลักษณ์และอุดมการณ์อนุรักษนิยม/กษัตริยนิยม โดยพิจารณาผ่านการจัดกิจกรรมงานวันครูและหนังสือประวัติครู ที่สอดแทรกประวัติชีวิตครูตัวอย่าง (ครูดีที่พึงประสงค์) ตลอดจนพระราชดำรัสในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่คณะครูอาวุโสเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ถือเป็นกลไกอำนาจทางวัฒนธรรมที่รัฐช่วงใช้ควบคุมอาชีพครูตลอดสองทศวรรษ</p> ภานุพงศ์ สิทธิสาร จุฬาพร เอื้อรักสกุล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ภานุพงศ์ สิทธิสาร, จุฬาพร เอื้อรักสกุล https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 102 131 10.64731/histtu.v12i2.281554 พระวอพระตาในเอกสารประวัติศาสตร์ลาว https://so05.tci-thaijo.org/index.php/thammasat_history/article/view/279904 <p>บทความวิจัยนี้ต้องการสืบค้นประวัติศาสตร์พระวอพระตาในเอกสารประวัติศาสตร์ลาว ช่วง พ.ศ. 2243-2566 โดยศึกษาและวิเคราะห์ชุดเอกสารทางประวัติศาสตร์ 3 กลุ่ม ได้แก่ เอกสารชั้นต้น เอกสารชั้นรองและเอกสารร่วมสมัยที่เกี่ยวข้อง ผลวิจัยพบว่าเรื่องราวของพระวอพระตาในเอกสารประวัติศาสตร์ลาวในพื้นที่สองฝั่งโขง ตามห้วงเวลาประวัติศาสตร์ 4 สมัย สมัยอาณาจักรล้านช้าง (พ.ศ. 1896-2436) พระวอพระตามีฐานะเป็นนักรบ และวีรบุรุษ สมัยอาณานิคม (พ.ศ. 2436-2496) พระวอพระตาถูกตีตราให้เป็นคนอกตัญญู สมัยราชอาณาจักรลาว (พ.ศ. 2496-2518) พื้นที่ฝั่งตะวันตกแม่น้ำโขงหรือฝั่งขวาแม่น้ำโขงสืบสานเรื่องเล่าพระวอพระตาในฐานะนักรบ และวีรบุรุษ บรรพชนเมืองอุบล สมัยสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (วันที่ 2 ธันวาคม 2518 ถึงปัจจุบัน) พื้นที่ฝั่งตะวันตกแม่น้ำโขงแก้ต่างแทนพระวอพระตาว่าไม่ใช่คนอกตัญญู ส่วนรัฐลาวพัฒนาเรื่องเล่าประวอพระตาให้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติลาวในฐานะ “กบฏในยุคล้านช้าง”</p> สุธิดา ตันเลิศ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สุธิดา ตันเลิศ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-06 2025-12-06 12 2 132 156 10.64731/histtu.v12i2.279904