การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรวมโดยใช้รูปแบบ SPISIR

Main Article Content

สมพร หวานเสร็จ

Abstract

รูปแบบการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรวม SPISIR ได้รับความร่วมมือ และสร้างความพึงพอใจให้ครอบครัว  ชุมชน ผู้ปกครองและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทำให้ได้รับการสนับสนุนทรัพยากร งบประมาณ ความรู้และการทำกิจกรรมร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมประเมินผลและร่วมรับประโยชน์ซึ่งเป็นผลดีที่เกิดกับผู้เรียนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการศึกษาและเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของชาติในอนาคต

Article Details

How to Cite
หวานเสร็จ ส. . . (2019). การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรวมโดยใช้รูปแบบ SPISIR. Sikkhana, 6(7), 151–162. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/JSikkhana/article/view/240984
Section
Original Articles

References

ดารณี อุทัยรัตนกิจและคณะ. (2546). รายงานการวิจัยเรื่อง การจัดการเรียนรวมในโรงเรียนและการพัฒนาของครูเพื่อการเรียนรู้สูงสุดของนักเรียน. กรุงเทพฯ. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
ทัศนีย์ สิทธิวงศ์. (2544). การจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษเรียนรวมกับเด็กปกติใน
สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติจังหวัดนครราชสีมา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.thaiedresearch.org/result/result/.php?id=4202.
วันที่สืบค้น 18 พฤศจิกายน 2549.
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2544). สรุปรายงานการวิจัย เรื่อง รูปแบบการจัดการเรียนรวมแบบรวมพลัง: การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการโดยครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม.
กรุงเทพฯ. : บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
______. (2547). คู่มือครู รูปแบบการจัดการเรียนรวมแบบรวมพลัง (Collaborative Inclusion Model : CIM) งานของครูในยุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.
เบญจา ชลธาร์นนท์. (2546). คู่มือการจัดการเรียนรวมโดยใช้โครงสร้างซีท. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.
สุภาพร ชินชัย. (2550).ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความพร้อมของครูในการสอนเด็กออทิสติกเรียนรวมกับเด็กปกติในโรงเรียนระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
_______ .(2551). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรวมสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
: กรณีศึกษาโรงเรียนเรียนรวมในจังหวัดเชียงใหม่.ปริญญานิพนธ์ วท.ด. (การวิจัย
พฤติกรรมศาสตรประยุกต์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2545). รายงานการวิจัยการทดลองนำร่อง: การศึกษาผลการดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนเรียนรวมสู่มาตรฐานการศึกษาพิเศษ. กรุงเทพฯ.กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และ
ที่แ ก้ไ ข เ พิ่ม เ ติม ( ฉ บับ ที่ 2 ) พ . ศ . 2 5 4 5 . ( อ อ น ไ ล น์) . แ ห ล่ง ที่ม า :
http://www.onec.go.th/Act/law2542/index_law2542.htm. วันที่สืบค้น 9 เมษายน 2551.
อุไรวรรณ เจริญถาวรพานิช. (2545 ). การบริหารการจัดการเรียนรวมสำหรับเด็กออทิสติกในโรงเรียนปกติเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Ainscow, M. and Sandill, A. (2010)."Developing inclusive education systems: the role of organisational cultures and leadership." International Journal of Inclusive Education. 14, no. 1(2010) : 1-16.
Baker, E. T.,Wang, M. C., &Walberg, H. J. (1994). The effects of inclusion on learning. Educational Leadership, 52, 33–35.
Bubpha S, Erawan P., Saihong P.. (2012). Model Development for Inclusive Education Management: Practical Guidelines for Inclusive Schools . Journal of Education and Practice. Vol 3, No.8, 2012 : 223-232
Kisanji J.(1999).Models of Inclusive Education : Where do Community Based Support Programme Fit in?. Workshop on "Inclusive Education in Namibia: The Challenge for Teacher Education".24-25 March 1999,Rossing Foundation, Khomasdal, Windhoek, Namibia
Salisbury C., Mc Gregor G..(2005). Principals of Inclusive Schools. National Institute for Urban School Improvement. Arizona State University.