การดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาสังกัดสำนักงานอาชีวศึกษา จังหวัดตรัง
คำสำคัญ:
การดำเนินงาน, สถานศึกษาอาชีวศึกษา, อาชีวศึกษาจังหวัดตรังบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาตามการรับรู้ของครู 2) เปรียบเทียบการดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาตามการรับรู้ของครู ตามตัวแปรเพศ ระดับการศึกษา ตำแหน่งหน้าที่ ประสบการณ์ในการทำงาน ขนาดสถานศึกษา เพศผู้บริหาร และประสบการณ์การทำงานของผู้บริหาร 3) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นครูสังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดตรัง จำนวน 187 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกนที่ระดับความเชื่อมั่น 95% สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วนของสถานศึกษาและการสุ่มอย่างง่าย ด้วยวิธีจับสลากจากรายชื่อครูในแต่ละสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง .60-1 และมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .96 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที ด้วยการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มตัวอย่างสองกลุ่มที่เป็นอิสระจากกัน การทดสอบ ค่าเอฟ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทำการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธี LSD และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) การดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาตามการรับรู้ของครูโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณารายฝ่ายพบว่าฝ่ายวิชาการ ฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา ฝ่ายแผนงานความร่วมมือ อยู่ในระดับดีมาก และฝ่ายบริหารทรัพยากร อยู่ในระดับดี 2) ผลการเปรียบเทียบการดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษา ตามการรับรู้ของครู ตามตัวแปรเพศ ระดับการศึกษา ตำแหน่งหน้าที่ ประสบการณ์ในการทำงาน ขนาดสถานศึกษา เพศผู้บริหาร และประสบการณ์การทำงานของผู้บริหาร โดยรวมไม่แตกต่างกัน ตามตัวแปรประสบการณ์ในการทำงาน โดยรวมครูที่มีประสบการณ์ในการทำงานน้อยกว่า 10 ปี มีการรับรู้การดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาสูงกว่า ครูที่มีประสบการณ์ในการทำงาน 21 ปี ขึ้นไป ตามตัวแปรเพศของผู้บริหาร โดยรวมพบว่าครูที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาที่ผู้บริหารมีเพศหญิงมีการรับรู้การดำเนินงานของสถานศึกษาอาชีวศึกษาสูงกว่าครูที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาที่ผู้บริหารมีเพศชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และ 3) ผลการศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะ พบว่าครูส่วนหนึ่งรับรู้ว่าสถานศึกษาได้รับจัดสรรบประมาณไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการสถานศึกษา ขาดสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ที่ทันสมัย ไม่เพียงพอต่อผู้เรียน และครูมีภาระหน้าที่งานนอกเหนือจากงานสอนเกินความจำเป็น ทำให้กระทบกับการจัดการเรียนการสอนผู้เรียน สถานศึกษาควรสนับสนุนงบประมาณในการจัดการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น และลดกิจกรรม ภาระงานที่ไม่จำเป็น
เอกสารอ้างอิง
กฤษณะ ไกรสี. (2558). ประสิทธิภาพการบริหารจัดการวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเขตอำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
กฤษธเนศ จันดาอาจ และวานิช ประเสริฐพร. (2564). แนวทางการบริหารสถานศึกษาตามมาตรฐานอาชีวศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการร้อยแก่นสาร, 6(6), หน้า 233-246.
จิรภิญญา จตุรพรโอภากุล. (2562). คุณภาพการปฏิบัติงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
ทรรศนันทน์ ถนัดค้า. (2562). แนวทางพัฒนาการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
ธวัช แบขุนทด. (2560). ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะการบริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูและพนักงานราชการวิทยาลัยสารพัดช่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2552). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2552). ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ.2552. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. (2552). พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา 2551. กรุงเทพฯ: สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดตรัง. (2567). รายงานผลการดำเนินงานสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดตรัง ประจำปีงบประมาณ 2567. ตรัง: สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดตรัง.
Cronbach, L.J. (1990). Essentials of psychological testing (5th ed.). New York: Harper Collins.
Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30, pp. 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี