การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเรื่อง การทำขนมไทยในเทศกาลและงานมงคล กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้แต่ง

  • กานต์สิรี ชูทอง โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์)

คำสำคัญ:

การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ, ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, ขนมไทย

บทคัดย่อ

            การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2) เพื่อร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเรื่อง การทำขนมไทยในเทศกาลและงานมงคล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์) จากการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินความเหมาะสมรูปแบบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินพฤติกรรมนักเรียนที่แสดงออกบนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t-test (dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

            ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ฝึกให้ผู้เรียนคิดเป็นทำเป็นอย่างมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในด้านต่าง ๆ โดยการดำเนินกิจกรรมต้องนำไปสู่ความยั่งยืนของผล โดยที่ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นำไปเผยแพร่สู่ครอบครัวและชุมชน 2) ผลการสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเรื่อง การทำขนมไทยในเทศกาลและงานมงคล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้รูปแบบ PPCC Model ประกอบด้วย 4 ขั้น ได้แก่ ขั้นการวางแผน ขั้นนำเสนอ ขั้นกิจกรรมกลุ่ม และขั้นสรุปและประเมินผล 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้ค่าประสิทธิภาพ 83.18/83.87 4) การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเรื่อง การทำขนมไทยในเทศกาลและงานมงคล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนพบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 10.84 และหลังเรียนเท่ากับ 25.16 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการประเมินพฤติกรรมนักเรียนที่แสดงออกบนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเรื่อง การทำขนมไทยในเทศกาลและงานมงคล กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก

ประวัติผู้แต่ง

กานต์สิรี ชูทอง, โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์)

โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
จันทร์จิรา สาแก้ว. (2560). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ LEC เพื่อเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง น้ำพริกสมุนไพรไทยในท้องถิ่น
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. สุรินทร์: โรงเรียนบ้านไกลเสนียด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2.
มาเรียม นิลพันธุ์ และคณะ. (2554). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในรายวิชาชีพครู กรณีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
นครปฐม: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เทศบาลนครตรัง. (2561). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาของเทศบาลนครตรัง พ.ศ. 2558-2563. ตรัง: เทศบาลนครตรัง.
โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์). (2561). รายงานการประเมินตนเอง (self assessment report: SAR). ตรัง: โรงเรียนเทศบาล 1 (สังขวิทย์).
ธนาอร เผ่าชู. (2561). รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการจัดการความรู้ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะทางคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. พัทลุง: โรงเรียนเทศบาลวัดธาราสถิตย์.
สุเมธ ตันติเวชกุล. (2554). หลักธรรมตามรอยพระยุคลบาท. กรุงเทพฯ: ด่านสุทราการพิมพ์.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2555). กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
อภินภัศ จิตรกร. (2559). การจัดการเรียนรู้แบบศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 14(1),
หน้า 60-72.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-09-26

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย