การวิเคราะห์สหสัมพันธ์คาโนนิคอลระหว่างความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กรกับประสิทธิภาพในการทำงานของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ในกรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • พชร ใจอารีย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

คำสำคัญ:

การวิเคราะห์สหสัมพันธ์คาโนนิคอล, ความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กร, ประสิทธิภาพในการทำงาน, นักบริหารทรัพยากรมนุษย์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสหสัมพันธ์คาโนนิคอลระหว่างความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กรกับประสิทธิภาพในการทำงานของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักบริหารทรัพยากรมนุษย์ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 366 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วน 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์คาโนนิคอล พบว่าความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กรกับประสิทธิภาพในการทำงาน มีค่าความสัมพันธ์คาโนนิคอลที่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (p = .00) จำนวน 1 ฟังก์ชัน คือฟังก์ชันที่ 1 มีค่าความสัมพันธ์คาโนนิคอล (Rc) .78 ความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กรสามารถอธิบายความแปรปรวนของประสิทธิภาพในการทำงานได้ร้อยละ 60.00 (square canonical (Rc2) = .6) โดยชุดตัวแปรความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กร ตัวแปรด้านการมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (-.93) สามารถอธิบายชุดตัวแปรความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กรมากที่สุด รองลงมาคือ ตัวแปรด้านความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค (-.89) ตัวแปรด้านการทุ่มเทสร้างผลงานที่เป็นเลิศ (-.83) ตัวแปรด้านการระลึกถึงองค์กรในทางบวก (-.70) และตัวแปรด้านความรักและปรารถนาจะเป็นสมาชิกขององค์กร (.53) ตามลำดับ ส่วนชุดตัวแปรประสิทธิภาพในการทำงาน พบว่า ตัวแปรด้านคุณภาพของงาน (-.89) สามารถอธิบายชุดตัวแปรประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด รองลงมาคือ ตัวแปรด้านปริมาณงาน (-.87) ตัวแปรด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (-.84) และตัวแปรด้านเวลา (-.83) ตามลำดับ

ประวัติผู้แต่ง

พชร ใจอารีย์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

เอกสารอ้างอิง

โชติรส ดำรงศานติ. (2554). การให้สิ่งจูงใจที่ไม่ใช่ตัวเงิน และกลยุทธ์การสื่อสารของผู้นำที่มีผลต่อความรักและพลังขับเคลื่อนองค์กรของคนเก่ง. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ, คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2555). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
นลพรรณ บุญฤทธิ์. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสาธารณะ, วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
วาสิตา บุญสาธร. (2556). การสร้างความมุ่งมั่นและพลังขับเคลื่อนเพื่อนำประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์. วารสารเศรษฐศาสตร์ปริทรรศน์, 7(1), หน้า 307-355.
อุทัสน์ วีระศักดิ์การุณย์. (2556). ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความต้องการในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน. ภาคนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารงานตำรวจและกระบวนการยุติธรรม, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
Adomako, Samuel, Quartey, Samuel Howard, & Narteh, Bedman. (2016). Entrepreneurial orientation, passion for work, perceived environmental dynamism and firm performance in an emerging economy. Journal of Small Business and Enterprise Development, 23(3), pp. 728-752.
Iyortsuun, Shadrach Akuraun, et al. (2019). Entrepreneurial passion and venture performance: A proposed framework (Online). Available: https://www.researchgate.net/publication/333906208_ Entrepreneurial_passion_and_venture_performance_a_proposed_framework [2019, December 1].
Luo, Zhenni, et al. (2014). Factors influencing the work passion of Chinese community health service workers: An investigation in five provinces (Online). Available: http://www.biomedcentral.com/1471-2296/15/77 [2019, December 1].

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-07-03

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย