การศึกษาแรงจูงใจของนักกีฬาตัวแทนโรงเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาเทเบิลเทนนิสสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 44 ประสานมิตรเกมส์

ผู้แต่ง

  • อภินันท์ สืบพิมพาวงศ์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คำสำคัญ:

แรงจูงใจ, นักกีฬาเทเบิลเทนนิส, การแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 44 ประสานมิตรเกมส์

บทคัดย่อ

            งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบแรงจูงใจของนักกีฬาตัวแทนโรงเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 44 ประสานมิตรเกมส์ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักกีฬาตัวแทนโรงเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 44 ประสานมิตรเกมส์ จำนวน 224 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 122 คน นักกีฬาหญิง 102 คน ตอบแบบสอบถามกลับมา จำนวน 216 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 122 คน นักกีฬาหญิง 94 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .93 ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยของแรงจูงใจภายในสูงกว่าแรงจูงใจภายนอก แสดงให้เห็นว่านักกีฬาตัวแทนโรงเรียนทั้งเพศชายและหญิงที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากแรงจูงใจภายในคือ สนใจในกีฬาเทเบิลเทนนิส นอกจากนี้เมื่อดูค่าเฉลี่ยตามช่วงชั้น พบว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีค่าเฉลี่ยแรงจูงใจที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้แตกต่างไปคือ “ฉันเข้าเร่วมการแข่งขันครั้งนี้เพื่อพบปะเพื่อนฝูง” โดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ซึ่งเป็นแรงจูงใจภายนอก สรุปได้ว่าการเป็นนักกีฬาตัวแทนโรงเรียนนั้น ล้วนแล้วแต่ต้องมีแรงจูงใจมาเป็นแรงผลักดันอยู่เสมอเพื่อสนองความต้องการของตนเอง โดยมีทั้งแรงจูงใจภายในและภายนอกที่ช่วยให้นักกีฬาตัวแทนโรงเรียนพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น การเริ่มปลูกฝังให้เกิดแรงจูงใจภายในตนเองเป็นลำดับแรก คือการทำให้เกิดความชอบในกีฬาเทเบิลเทนนิส เล่นแล้วสนุกมีความสุข เล่นแล้วรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า การสร้างแรงจูงใจตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจะส่งผลให้เด็กเกิดความสนใจและสามารถพัฒนาต่อยอดไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้

ประวัติผู้แต่ง

อภินันท์ สืบพิมพาวงศ์, โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

อาจารย์ประจำโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เอกสารอ้างอิง

ฉัตรชัย แฝงสาเคน. (2555). เทเบิลเทนนิส. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์.

ชาญชัย อาจินสมาจาร. (2550). จิตวิทยาการเป็นโค้ชกีฬา. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน.

ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2550). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: ไทเนรมิตกิจ อินเตอร์ โปรเกรสซิฟ.

นุชลี อุปภัย. (2555). จิตวิทยาการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พิชิต เมืองนาโพธิ์. (2534). เอกสารประกอบการสอน จิตวิทยาการกีฬา. กรุงเทพฯ: คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

มุกดา ศรียงค์. (2540). จิตวิทยาทั่วไป. กรุงเทพฯ: ภาควิชาจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

โรงพยาบาลพญาไท. (2563). เริ่มค้นหาตนเอง ทดลองสิ่งใหม่ ๆ นี่คือพัฒนาการในเด็กวัยรุ่นตอนกลางที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:
https://www.phyathai.com/article_detail/2872/th/เริ่มค้นหาตนเอง_ทดลองสิ่งใหม่ๆ_นี่คือพัฒนาการในเด็กวัยรุ่นตอนกลางที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ?branch=PYT2
[2563, 27 มีนาคม].

ลักขณา สริวัฒน์. (2557). จิตวิทยาสำหรับครู. กรุงเทพฯ: โอเอสพริ้นติ้งเฮ้าส์.

ศศิธร จ่างภากร และคณะ. (2560). นนทรีเกมส์ สาธิตสามัคคี ครั้งที่ 41. กรุงเทพฯ: สยามสปอร์ต ซินดิเคท.

สืบสาย บุญวีรบุตร. (2541). จิตวิทยาการกีฬา. ชลบุรี: โรงพิมพ์ชลบุรีการพิมพ์.

สืบสาย บุญวีรบุตร. (2546). เอกสารประกอบการอบรม โครงการพัฒนาและส่งเสริมสมรรถภาพทางด้านจิตใจให้นักกีฬาและผู้ฝึกสอน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

สุปราณี ขวัญบุญจันทร์. (2539). เอกสารประกอบการสอนวิชา พล411 จิตวิทยาการกีฬา. กรุงเทพฯ: ภาควิชาพลศึกษา คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2559). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-12-25

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย