พฤติกรรมและความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
คำสำคัญ:
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, พฤติกรรมและความคิดเห็นบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 400 คน ด้วยวิธีการสุ่มแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .80 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดสมานรัตนาราม จำนวน 200 คน คิดเป็นร้อยละ 50.00 วัดโสธร วรารามวรวิหาร จำนวน 150 คน คิดเป็นร้อยละ 37.50 และวัดหัวสวน (ละม่อมประชาสรรค์) จำนวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 12.50 โดยเดินทางมาจากนอกจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 225 คน คิดเป็นร้อยละ 63.80 และในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 145 คน คิดเป็นร้อยละ 36.30 เดินทางมากับครอบครัว จำนวน 214 คน คิดเป็นร้อยละ 53.50 เพื่อน จำนวน 148 คน คิดเป็นร้อยละ 37.00 และคู่รัก/แฟน จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 8.00 การทราบข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากโฆษณามากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 45.00 รองลงมาครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 40.50 และเพื่อน คิดเป็นร้อยละ 28.50 เหตุผลที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะความศรัทธา จำนวน 301 คน คิดเป็นร้อยละ 75.30 ความสวยงาม จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 17.00 และชื่อเสียง จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 7.80 หลังจากมาท่องเที่ยวครั้งนี้จะมีโอกาสเดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง จำนวน 376 คน คิดเป็นร้อยละ 94.00 และไม่แน่ใจ จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 6.00 และแนะนำให้บุคคลอื่นให้มาท่องเที่ยว จำนวน 388 คน คิดเป็นร้อยละ 97.00 ไม่แน่ใจ จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3.00 และมีความคิดเห็นต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดังนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยมีความคิดเห็นด้วยมากที่สุด ได้แก่ มีความศรัทธาต่อวัด ( = 4.65) วัดเป็นศูนย์กลางของความดีงาม (
= 4.56) และเห็นด้วยมาก ได้แก่ วัดเป็นเขตปลอดอบายมุขและสิ่งเสพติด (
= 4.47) วัดเป็นสถานที่สำหรับขัดเกลาจิตใจ (
= 4.44) และมีป้ายบอกประวัติต่างๆ ที่ชัดเจน (
= 4.22)
เอกสารอ้างอิง
กรรณิกา คำดี. (2558). วัดและศาสนสถานในมิติของการท่องเที่ยว. วารสารบัณฑิตศึกษา มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 4(2) หน้า 175-191.
จุฑาภรณ์ ทองเพ็ง. (2554). ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดโสธรวราราวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา. ปริญญา
รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.
ธรรญชนก คำแก้ว. (2555). รายงานวิจัยการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเที่ยวที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเภทโบราณสถาน: กรณีศึกษา พระอารามหลวง
ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม้โจ้.
ธฤษวรรณ มาตกุล. (2556). แรงจูงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยเชื่อมโยงสู่เชิงวัฒนธรรมอีสาน กรณีศึกษา วัดศิลาอาสน์ (ภูพระ) จังหวัดชัยภูมิ. การศึกษาอิสระปริญญา
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการท่องเที่ยว, คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ผณินทรา ธนะเพ็ชร. (2556). พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยในการท่องเที่ยวเชิงพุทธ กรณีศึกษาวัดป่าธรรมอุทยาน อำเมือง จังหวัดขอนแก่น. การศึกษาอิสระปริญญา
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว, คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พระจำนงค์ ผมไผ, ยุภาพร ยุภาศ และภักดี โพธิ์สิงห์. (2563). วัดกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวบนเส้นทางลุ่มน้ำโขง. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ,
(5) หน้า 158-170 .
พระอธิการภูวไนย จับใจนาย. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของการจัดการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม กรณีศึกษาวัดหิรัญญาวาส ตำบลเกาะช้าง อำเภอ
แม่สาย จังหวัดเชียงราย. การค้นคว้าอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง.
ภัทร์ฐิตา ศิรอัครพงศ์. (2557). พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยววัดพระธาตุลำปางหลวง. การค้นคว้าอิสระปริญญาเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต
คณะเศรษฐศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ยุทธศักดิ์ สุภสร. (2565). ททท.ดึง “ใหม่ ดาวิกา” ชวนเที่ยวไทย ตั้งเป้าสร้างรายได้ 6.56 แสนล้านบาท (ออนไลน์). ไทยรัฐออนไลน์. เข้าถึงได้จาก:
https://www.thairath.co.th/business/economics/2362685 [2565, 9 เมษายน].
ราณี อิสิชัยกุล. (2557). การจัดการการท่องเที่ยวเฉพาะทาง. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
อนุชา นาคาศัย. (2564). ททท. เปิดตัวโครงการ WAT “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” พร้อมเสนอการสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและ
ความสนใจของนักท่องเที่ยว (ออนไลน์). กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. เข้าถึงได้จาก: https://www.mots.go.th/news-view.php?nid=13290 [2565, 3
มีนาคม].
อิทธิพล คุณปลื้ม. (2564). ททท. เปิดตัวโครงการ WAT “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” พร้อมเสนอการสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรม
และความสนใจของนักท่องเที่ยว (ออนไลน์). กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. เข้าถึงได้จาก: https://www.mots.go.th/news-view.php?nid=13290 [2565,
มีนาคม].
Cochran, William G. (1997). Sampling Techniques. New York, NY: John Wiley & Son.
Cronbach, Lee J. (1990). Essentials of psychological testing (5th ed.). New York, NY: Harper Collins.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี