บทบาทที่คาดหวังของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์: การวิจัยแบบผสม

ผู้แต่ง

  • วรรณภา ลือกิตินันท์ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

คำสำคัญ:

บทบาทนักบริหารทรัพยากรมนุษย์, การบริหารทรัพยากรมนุษย์, การวิจัยแบบผสม

บทคัดย่อ

                  การวิจัยเชิงผสมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทที่คาดหวังของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งใช้กระบวนการศึกษาแบบเป็นขั้นตอน ในการศึกษาเชิงปริมาณเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรม จำนวน 400 คน สุ่มตัวอย่างแบบสะดวก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่  ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่าบทบาทที่คาดหวังของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ทุกด้าน    อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ความเชี่ยวชาญในงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ ความเชี่ยวชาญด้านพนักงาน การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และผู้นำความเปลี่ยนแปลง สำหรับการศึกษาเชิงคุณภาพเป็นการสนทนากลุ่มของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ จำนวน 20 คน ด้วยวิธีการเลือกตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา พบว่าบทบาทที่คาดหวังของนักบริหารทรัพยากรมนุษย์คือ 1) จริยธรรม จรรยาบรรณในการทำงาน 2) ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจและการดำเนินงานขององค์กร เพื่อใช้ในการวางแผนงานและแก้ไขปัญหาในภาวะวิกฤต 3) ความรู้เกี่ยวกับงานบริหารทรัพยากรมนุษย์และกฎหมายแรงงาน 4) ความสามารถในการให้คำแนะนำปรึกษาแก่ผู้บริหาร และ 5) ผู้ประสานงานระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และหน่วยงานรัฐ โดย      ผลการศึกษาทั้งสองส่วนมีความสอดคล้องกัน ยกเว้นประเด็นด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณในการทำงานเป็นข้อค้นพบเพิ่มเติมที่ได้จากการศึกษาเชิงคุณภาพ

ประวัติผู้แต่ง

วรรณภา ลือกิตินันท์, หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

อาจารย์ประจำ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

เอกสารอ้างอิง

กัลยา วาณิชย์บัญชา. (2549). สถิติสำหรับงานวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปัญญา ธีระวิทยเลิศ. (2559). เทคนิคการสนทนากลุ่ม (Focus Group) ที่มีประสิทธิภาพ. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร, 7(2), หน้า 284-289.

ภิราช รัตนันต์. (2560). การจัดการทรัพยากรมนุษย์ร่วมสมัยในองค์กร. วารสารบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 1(1), หน้า 21-38.

สถาพร วิชัยรัมภ์. (2565). จริยธรรมในการบริหารทรัพยากรมนุษย์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 14(1), หน้า 1-16.

สุภาพร ทรงกิจทรัพย์. (2550). หลักจริยธรรมกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์. วารสารศรีปทุมปริทัศน์, 7(2), หน้า 114-121.

Creswell, J.W. (2003). Research Design: Qualitative, Quantitative, and Mixed Method Approaches. New York: Sage.

Han, J., Chou, P., Chao, M., & Wright, P. M. (2006). The HR competencies-HR effectiveness link: A study in Taiwanese high-tech

companies. Human Resource Management: Published in Cooperation with the School of Business Administration, The University

of Michigan and in alliance with the Society of Human Resources Management, 45(3), pp. 391-406.

Mondy R.W. (2012). Human Resource Management. New Jersey, NJ: Pearson Prantice Hall.

Mondy, R.W., & Joseph, J.M. (2016). Human Resource Management. New Jersey, NJ: Pearson Prantice Hall.

Noe, R., Hollenbeck, J., Gerhart, B., & Wright, P. (2023). Human Resource Management: Gaining a Competitive Advantage. New York:

McGraw Hill.

Quinn, R.W., & Brockbank, W. (2006). The development of strategic human resource professionals at bae systems. Human Resource

Management, 45(3), pp. 477-494.

Ulrich, D. (1997). Human Resource Champion. Boston: Harvard Business School Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-09-01

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย