การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และพัฒนาสื่อดิจิทัล เพื่อการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของชุมชนตำบลแสงอรุณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์สำหรับการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของชุมชนตำบลแสงอรุณ 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรม
การใช้สื่อสังคมออนไลน์และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของนักท่องเที่ยว 3) เพื่อพัฒนาสื่อดิจิทัลเพื่อการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของชุมชนตำบลแสงอรุณ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่มีต่อสื่อดิจิทัลเพื่อการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของชุมชนตำบลแสงอรุณ กลุ่มตัวอย่าง คือนักท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของชุมชนตำบลแสงอรุณที่มาจากกลุ่มทัศนศึกษา นักท่องเที่ยวสัญจร และสมาชิกในกลุ่ม Facebook ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีของชุมชนตำบลแสงอรุณ กลุ่มตัวอย่างได้จากวิธีสุ่มแบบบังเอิญ การศึกษาแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 จำนวน 400 คน เพื่อสอบถามพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์การรับรู้ข้อมูลข่าวสารและระยะที่ 2 เพื่อประเมินคุณภาพด้านเนื้อหาและสื่อของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน และประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 100 คน สถิติที่ใช้ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ความแปรปรวน ผลการวิจัย การใช้สื่อสังคมออนไลน์ พบว่า ช่วงเวลาใช้สื่อมากที่สุดคือ 20.01 - 24.00 น. ระยะเวลาของการใช้สื่อออนไลน์มากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน เครื่องมือที่ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ คือ โทรศัพท์มือถือ การรับรู้ข้อมูลข่าวสารมากสุด คือ การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ร้อยละ 40.80 รองลงมาคือ ข้อมูลด้านที่พัก ร้อยละ 30.80 ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ระยะเวลาในการใช้สื่อสังคมออนไลน์และเครื่องมือที่ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ทำให้ความพึงพอใจต่อการใช้สื่อดิจิทัลในสื่อสังคมออนไลน์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
Article Details
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
มหาวิทยาลัยฯ อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยต้องแสดงที่มาจากวารสารและไม่ใช้เพื่อการค้า
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯแต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
กรมการพัฒนาชุมชน. (2561). คู่มือบริหารโครงการ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี. กระทรวงมหาดไทย.
กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด. (2561). แผนพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (พ.ศ. 2561-2565). สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์.
ครูบ้านนอกดอทคอม. (2551). พฤติกรรมมนุษย์ Human Behavior. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2564
จาก: https://www.kroobannok.com/
ถวัลย์ ใจน้อย. (2550). ความพึงพอใจของผู้รับสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.
แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ 2561-2570. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2564 จาก https://drive.google.com/file/d/1XSBMp8OCsauJqECOB-XZLB91-cRrNsEV/view
ไพฑูรย์ มะณู. (2559). สื่อดิจิทัล (Digital Media). สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2564
จาก https://sites.google.com/a/esdc.go.th/
ภาณุวัฒน์ กองราช. (2554). การศึกษาพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของวัยรุ่นในประเทศไทย: กรณีศึกษา Facebook . วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารเทคโนโลยี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.
มงคล พันธ์แก่น. (2554). การประชาสัมพันธ์. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2564 จากhttps://sites.google.com/site/mongkolkhukhan/kar-prachasamphanth
วชิระ อินทร์อุดม. (2539). เอกสารประกอบการสอนวิชา 121 703 การผลิตวีดิทัศน์เพื่อการศึกษา, ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอนแก่น,หน้า 19.
สติยา ลังการ์พินธุ์. (2552). การออกแบบสื่อดิจิทัลเพื่อการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2564 จาก https://sites.google.com/site/digital57402/
Best, J. W. (1977). Research in Education. 3rd ed, Prentice Hall Inc, New Jersey.