การพัฒนาคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน 3 มิติ ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ ด้านโภชนาการของเด็กวัยเรียน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อออกแบบและพัฒนางานคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน 3 มิติ ที่มีเนื้อหาส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้านโภชนาการของเด็กวัยเรียน 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพสื่อแอนิเมชัน 3 มิติ กลุ่มประชากรที่ใช้ในงานวิจัย คือ นักเรียนปฐม มัธยม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จำนวน 500 คน โดยกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยผู้วิจัยใช้วิธีการเลือกแบบบังเอิญ จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย คือ 1) สื่อแอนิเมชันส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้านโภชนาการของเด็กวัยเรียน 2) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความสอดคล้องของการออกแบบสื่อแอนิเมชัน 3) แบบประเมินประสิทธิภาพของสื่อแอนิเมชันโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเนื้อหาและการออกแบบสื่อแอนิเมชัน 4) แบบประเมินความพึงพอใจสื่อแอนิเมชันจากกลุ่มตัวอย่าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผลการผลิตสื่อแอนิเมชัน 3 มิติ มีความยาว 3.56 นาที ผลลัพธ์การประเมินมีดังต่อไปนี้ ผลการออกแบบสื่อแอนิเมชัน ผลการประเมินประสิทธิภาพมีความเหมาะสม ผลประเมินอยู่ในระดับ ดี ผลความพึงพอใจที่มีต่อสื่อแอนิเมชัน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ ดี
Article Details
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
มหาวิทยาลัยฯ อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยต้องแสดงที่มาจากวารสารและไม่ใช้เพื่อการค้า
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯแต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
จรูญพร ปรปักษ์ประลัย. (2548). Animation says Hi! สวัสดี แอนิเมชัน. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์กรุงเทพ.
ณัฐวุฒิ อยู่สุข, พิศประไพ สาระศาลิน, และชัยยพร พานิชรุทติวงศ์. (2560). การศึกษาการเคลื่อนไหวการแสดงอารมณ์ในงานแอนิเมชัน 3 มิติ แนวตลกขบขันกรณีศึกษาพฤติกรรมการติดโทรศัพท์มือถือ. การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ประจำปี พ.ศ 2560 (หน้า 536-545). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต.
ประคอง กรรณสูต. (2538). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปรียนันท์ หล่อเภรี. (2557). พฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2564 จาก http://arcbs.bsru.ac.th/journal/File63621. pdf?fbclid=IwAR1s1nufcpqn 3WF7fonZ_X.
วิชชุตา มัคสิงห์,นอลีสา โต๊ะยุโส๊ะ, และ จิรกานต์ พันธ์ฤทธิ์ดำ. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของเด็กวัยเรียน. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ประจำปี 2559 (หน้า 65-76). สงขลา: วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี.
สุวิช ถิระโคตร และ ชญา หิรัญเจริญเวช. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้แอนิเมชันเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษา. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีประจำปี พ.ศ 2560 (หน้า 32-39). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อภิญญา อุตระชัย และ กริช เรืองไชย. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ พฤติกรรมการบริโภคขนมและเครื่องดื่มรสหวานและภาวะโภชนาการของในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม ฉบับการประชุมวิชาการครบรอบ 25 ปี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปี พ.ศ 2561 (หน้า 95-102). นครพนม: มหาวิทยาลัยนครพนม.
Tsukamoto, H. (2004). Manga matrix: create unique characters using the Japanese matrix system. China: Everbest Printing Co., Ltd.