การพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Main Article Content

ภูษณิศา สุวรรณศิลป์
กิตติมาพร จันทร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 และ 2) เปรียบเทียบทักษะความคิดสร้างสรรค์ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ในรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 40 คน จากโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ที่กำลังศึกษารายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม และแบบวัดทักษะความคิดสร้างสรรค์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และสถิติทดสอบที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมีประสิทธิภาพเท่ากับ 93.33/80.38 และ 2) คะแนนทักษะความคิดสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สุวรรณศิลป์ ภ. ., & จันทร ก. . (2025). การพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์แห่งรัตนโกสินทร์, 7(1), ุ66–84. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/RJSH/article/view/277469
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพ์ครั้งที่ 1). โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ฐานิตดา นัดที และ สกนธ์ชัย ชะนูนันท์. (2566). การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษาด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบเพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงาน เรื่อง วัสดุและการใช้ประโยชน์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 25(4), 154-165.

ธัญญเรศ ก้อนจันทร์เทศ และ สิรินภา กิจเกื้อกูล. (2566). การจัดการเรียนรู้แบบสะตีมศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. Journal of Roi Kaensarn Academi, 8(10), 50-69.

นัฐยา ทองจันทร์ และ พงษ์ศักดิ์ แป้นแก้ว. (2559). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นโดยการจัดการเรียนรู้แบบระดมสมอง. วารสารบัณฑิตวิจัย, 7(1), 1-14.

ปัทมา จงลือชา. (2565). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการออกแบบ 6E (The 6E Learning by Design) ตามแนวคิดสตีม (STEAM EDUCATION) (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ปิยวรรณ ทศกาญจน์. (2561). การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการสะเต็มศึกษา เรื่องบ้านพยากรณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และการสร้างสรรค์ชิ้นงาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

ประสาท เนื่องเฉลิม. (2558). การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์์มหาวิทยาลัย.

ศานตวัฒน์ นารีสา และ วิทยา วรพันธุ์. (2567). การพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยบูรณาการสตีมศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 18(4), 55-69.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2567). ผลการประเมินด้านความคิดสร้างสรรค์ของ PISA 2022. https://www.ipst.ac.th/news/73892/20240712-pisa2022.html

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2560). คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา. https://scimath.org/ebooks/8922/flippingbook/index.html#1

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2558). คู่มือจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3. องค์การค้าของ สกสค.

สุธิดา การีมี. (2560). การใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ปัญหา. นิตยสาร สสวท., 46(209), 23-27.

สุภัค โอฬาพิริยกุล. (2562). STEAM EDUCATION: นวัตกรรมการศึกษาบูรณาการสู่การจัดการเรียนรู้ STEAM EDUCATION: Innovative Education Integrated into Learning Management. วารสารวิจัยและพัฒนาหลักสูตร, 9(1), 1-16.

สมหญิง เพ็ชรสุวรรณ และ สิรินภา กิจเกื้อกูล. (2567). การจัดการเรียนรู้แบบสะตีมศึกษา เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง รูปเรขาคณิตในลายผ้าทอน้ำอ่างของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. Journal of Education and Innovation, 26(2), 332-346.

Almuharomah, F. A., Sunarno, W., Masykuri, M., Mayasari, T., Huriawati, F., & Sasono, M. (2023). Development of STEAM-LW based creative thinking skill test instruments for grade IX junior high school students. Jurnal Pendidikan Fisika dan Keilmuan, 9(1), 66-78.

Beghetto, R.A., & Kaufman, J.C. (2014). Classroom contexts for creativity. High Abil. Stud., 25, 53–69.

Guilford, J. P. (1967). The nature of human intelligence. McGraw-Hill Book Co.

Gu, X., Tong, D., Shi, P., Zou, Y., Yuan, H., Chen, C., & et al. (2023). Incorporating STEAM activities into creativity training in higher education. Thinking Skills and Creativity, 50, 1-13.

Henriksen, D. (2014). Full STEAM ahead: Creativity in excellent STEM teaching practices. STEAM J., 1, 1–7.

Kim, B. H., & Kim, J. (2016). Development and validation of evaluation indicators for teaching competency in STEAM education in Korea. Eurasia J. Math. Sci. Technol. Educ., 12, 1909-1924.

OECD. (2019). PISA 2021 Creative Thinking Framework (Third draft). https://www.teachertoolkit.co.uk/wpcontent/uploads/2024/09/PISA-2021-creative-thinking-framework.pdf

Partnership for 21st Century Skills. (2019). Framework for 21st Century Learning Definitions. http://static.battelleforkids.org/documents/p21/P21_ Framework_DefinitionsBFK.pdf

Shaughnessy, J. M. (2013). Mathematics in a STEM context. Mathematics Teaching in

the Middle School, 18(6), 324.

Yakman, G. (2018). STEAM education: An overview of creating a model of integrative education (Master Thesis). Virginia Polytechnic and State University.