การพัฒนาความยืดหยุ่นทางจิตใจและการจัดการความไม่แน่นอนในชีวิต ของนักศึกษาครุศาสตรบัณฑิตด้วยกิจกรรมแนะแนว PRIDE -
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความยืดหยุ่นทางจิตใจและการจัดการความไม่แน่นอนในชีวิตก่อนและหลังการได้รับการจัดกิจกรรมแนะแนวด้วยกระบวนการ PRIDE และ 2) เปรียบเทียบความยืดหยุ่นทางจิตใจและการจัดการความไม่แน่นอนในชีวิตระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จำนวน 24 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 12 คน และกลุ่มควบคุม 12 คน โดยคัดเลือกจากผู้ที่มีคะแนนความยืดหยุ่นทางจิตใจต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 50 ลงมา และสมัครใจเข้าร่วมการทดลอง จากนั้นจึงสุ่มอย่างง่าย เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มทดลองกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมแนะแนวด้วยกระบวนการ PRIDE 2) แบบวัดความยืดหยุ่นทางจิตใจ และ 3) แบบวัดการจัดการความไม่แน่นอนในชีวิต สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า 1) ภายหลังการได้รับการจัดกิจกรรมแนะแนวด้วยกระบวนการ PRIDE นักศึกษา
กลุ่มทดลองมีความยืดหยุ่นทางจิตใจและการจัดการความไม่แน่นอนในชีวิตสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 2) ภายหลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลองมีความยืดหยุ่นทางจิตใจและการจัดการความไม่แน่นอนในชีวิตสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
มหาวิทยาลัยฯ อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยต้องแสดงที่มาจากวารสารและไม่ใช้เพื่อการค้า
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯแต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. (2563). เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี RQ พลังสุขภาพจิต: พาคุณก้าวผ่านวิกฤตและความไม่แน่นอนของชีวิตได้อย่างสง่างาม (พิมพ์ครั้งที่ 4). บียอนด์พับลิสชิ่ง.
กันตพัฒน์ อนุศักดิ์เสถียร และคณะ. (2567). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์และความยืดหยุ่นทางจิตใจของนิสิตกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา, 18(2), 15-29.
ขวัญชนก สุวรรณ์, นิธิพัฒน์ เมฆขจร และลัดดาวรรณ ณ ระนอง. (2566). ผลของการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาความยืดหยุ่นทางจิตใจของผู้สูงอายุมหาวิทยาลัยวัยที่สาม นครเชียงราย จังหวัดเชียงราย. วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ, 6(2), 28-39.
เจษฎา บุญมาโฮม. (2567). เอกสารประกอบการสอนรายวิชาจิตวิทยาสำหรับครู. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
เจษฎา บุญมาโฮม, นพวรรณ คนึงชัยสกุล และอรพิณ พัฒนผล. (2563). ผลของโปรแกรมการแนะแนวที่มีต่อความฉลาดทางอารมณ์และความแข็งแกร่งในชีวิตของนักศึกษาครุศาสตรบัณฑิต. วารสารสังคมศาสตร์วิจัย, 11(1), 76-90.
เจษฎา บุญมาโฮม และคณะ. (2567). ผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มที่มีต่อความงอกงามในตน การเผชิญปัญหา และการเห็นคุณค่าในตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี (รายงานการวิจัย). มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
ชื่นกมล ปุรินทวรกุล, จิรดา ประสาทพรศิริโชค และอัญชลิตา รัตนจารุรักษ์. (2568). บทบาทตัวแปรคั่นกลางของความยืดหยุ่นทางจิตใจและความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองต่อภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลในนักเรียนที่ถูกกลั่นแกล้งในประเทศไทย. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 70(1), 1-31.
ชุติมา จิรัฐเกรียงไกร และคณะ. (2564). ปัจจัยทำนายสุขภาวะทางจิตใจในวัยรุ่นตอนปลาย. วารสารการพยาบาล, 39(2), 77-89.
ฐิราวัลย์ เส็งพานิช. (2560). ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเอง
ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเจ้าพระยาชั้นปีที่ 1 (รายงานการวิจัย). มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา.
เทอดศักดิ์ เดชคง และคณะ. (2566). ความสัมพันธ์ระหว่างแบบประเมินพลังใจ ฉบับ 3 ข้อ กับการคัดกรองความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิตตามกลุ่มวัย. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 31(1), 52-63.
พร้อมพิไล บัวสุวรรณ. (2567). ทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตสำหรับผู้เรียนในโลกยุคใหม่: รวมพลังสร้างกรอบทักษะ ระบบนิเวศการเรียนรู้ และแนวทางการขับเคลื่อน. วิช กรุ๊ป.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2567). ความเครียด ภัยเงียบของสังคมไทย. อมรินทร์ คอร์เปอร์เรชั่นส์ จำกัด.
สมร ทองดี และปราณี รามสูต. (2555). หน่วยที่ 9 แนวคิดในการพัฒนากิจกรรมแนะแนวในประมวลสาระชุดวิชาการพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา. (2566). ความเคลื่อนไหวการศึกษาไทยและการศึกษาโลก. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
อานันท์ กรมน้อย และสิทธิพล อาจอินทร์. (2563). การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอนาคตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการจัดกิจกรรมแนะแนวด้วยรูปแบบการสอนคิดแก้ปัญหาอนาคต. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 7(3), 99-115.
Bonanno, G. A. (2004). Loss, trauma, and human resilience: Have we underestimated the human capacity to thrive after extremely aversive events. American Psychologist, 59(1), 20–28.
Ferbert, S. E, Grififth, D. A. & Forrest, D. B. (2005). Developmental classroom guidance activities. Youth Light.
Sood, S., & Sharma, A. (2020). Resilience and psychological well-being of higher education students during COVID-19: The mediating role of perceived distress. Journal of Health Management, 22(4), 606-617.