แนวทางการสร้างแรงจูงใจในการทำกิจกรรมของนักศึกษา คณะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี
คำสำคัญ:
กิจกรรมของนักศึกษา, แรงจูงใจ, คุณลักษณะของบัณฑิตบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมของนักศึกษาและเพื่อศึกษาแนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำกิจกรรมของนักศึกษา มีวิธีดำเนินการวิจัยโดยใช้แบบสอบถาม และการสนทนากลุ่ม (Focus Group) เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของนักศึกษา มีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาคณะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี จำนวน 200 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก (Convenience Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่ม กำหนดแนวคำถาม/ประเด็นการสนทนา โดยเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ (Keys Informant) จำนวน 5 คน ที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) มาสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลตามประเด็นที่กำหนดโดยการพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่าแรงจูงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษามี 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการยอมรับจากสังคม ด้านความพึงพอใจ ด้านความภูมิใจในตนเอง และด้านประโยชน์ที่จะได้รับ และแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการทำกิจกรรมของนักศึกษา ได้แก่ การออกแบบกิจกรรมที่เสริมสร้างความสามัคคี การส่งเสริมให้นักศึกษาพัฒนาตนเองเพิ่มขึ้น การเสริมสร้างความภาคภูมิใจให้แก่นักศึกษาและการประชาสัมพันธ์ หรือ สื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำกิจกรรม
เอกสารอ้างอิง
จิติยาภรณ์ เชาวรากุล. (2563). คุณลักษณะของบัณฑิตตามความต้องการของสถานประกอบการในศตวรรษที่ 21. วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, 4(2), หน้า 100-111.
จันทร์จีรา ตุ้ยหล้า, ภูษิตย์ วงษ์เล็ก และภูวกร อนันตรักษ์. (2566). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์การของพนักงานบริษัท เอบีซี จำกัด. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 9(1), หน้า 167-179.
ดารัตน์ มากสวัสดิ์ และสินีนาถ เริ่มลาวรรณ. (2566). แรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในยุค New Normal ของบุคลากรสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เขต 2 สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. วารสารวิจัยวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 7(3), หน้า 111-124.
ธันวดี ดอนวิเศษ และพัชรินทร์ รุจิรานุกูล. (2560). แนวทางการพัฒนาการจัดกิจกรรมนักศึกษาในการเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 11(2), หน้า 167-176.
ปุณณวัชร์ วิเทียมญลักษณ์. (2563). แนวทางการพัฒนาแรงจูงใจให้นักศึกษาเป็นนักกิจกรรมนักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ประคอง กรรณสูต. (2538). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พรพิมล ฤทธิ์เลิศชัย. (2565). การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเอกชน. วารสารนวัตกรรมการบริหารการศึกษา, 1(2), หน้า 1-10.
พิราวรรณ กิติสากล. (2565). ปัจจัยด้านแรงจูงใจในงาน ความพึงพอใจในงาน ที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน กรณีศึกษา: พนักงานบริษัทนำเข้าและจำหน่ายเครื่องพิมพ์. สารนิพนธ์การจัดการมหาบัณฑิต วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล.
มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี. (2567). ปรัชญา วิสัยทัศน์ ปณิธาน และพันธกิจ (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://www.chonburi.spu.ac.th/web/about/index.php. [2567, 1 มีนาคม].
สุภาพร กสิกร, เกษม แสงนนท์, ณัชชา อมราภรณ์ และเผด็จ จงสกุลศิริ. (2567). แนวทางการส่งเสริมแรงจูงใจในการปฏิบัติงานตามหลักทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ของครู กลุ่มโรงเรียนวังชลสินธุ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 5(1), หน้า 368-388.
สุรชัย ทุหมัด. (2561). ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมกับโครงการด้านศิลปวัฒนธรรมของนิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(2), หน้า 26-35.
สำนักงานทะเบียน มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี. (2566). ข้อมูลจำนวนนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://www.chonburi.spu.ac.th/registrar/ [2566, 15 ธันวาคม].
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and psychological measurement, 30(3), pp. 607-610.
Maslow, A. H. (1943). A Theory of Human Motivation. Psychological Review, 50(4), pp. 370–396.
Morris, R. K., Selman, T. J., Zamora, J., & Khan, K. S. (2011). Methodological quality of test accuracy studies included in systematic reviews in obstetrics and gynaecology: sources of bias. BMC women's health, 11, pp. 1-7.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี