การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้เทคนิค DR-TA (Directed Reading– Thinking Activity) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์ชัยภูมิ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค DR-TA (Directed Reading –Thinking Activity) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์ชัยภูมิ และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังเรียน โดยใช้เทคนิค DR-TA กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์ชัยภูมิ จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ด้วยวิธีจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบวัดทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน 5 ชุด จากวรรณกรรม 5 ประเภท ได้แก่ บทความ นิทาน เรื่องสั้น ข่าว และโฆษณา 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านจับใจความ สถิติที่ใช้ในงานวิจัย คือ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) และค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยทดสอบค่าสถิติ t-test dependent กำหนดค่าสถิติ t ระดับนัยสำคัญ .01 ผลการวิจัยพบว่า (1) ทักษะด้านการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เทคนิค DR-TA อยู่ในระดับดีขึ้นไป ซึ่งมีคะแนนทักษะการอ่านจับใจความภาพรวม (= 2.43, S.D. = 0.29) อยู่ในระดับดีมาก และมีทักษะในแต่ละด้าน ประกอบด้วย ทักษะด้านเข้าใจเนื้อหาที่อ่าน (
= 2.58, S.D. = 0.12) อยู่ในระดับดีมาก ทักษะด้านการแยกใจความหลัก ใจความรอง (
= 2.51, S.D. = 0.42) อยู่ในระดับดีมาก และด้านจับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน (
= 2.21, S.D. = 0.33) อยู่ในระดับดีมาก และ (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านจับใจความ ของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิค DR-TA หลังเรียน (
= 16.33, S.D. = 2.16) สูงกว่าก่อนเรียน (
= 8.05, S.D. = 2.71) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กอบกาญจน์ วงศ์วิสิทธิ์. (2551). ทักษะภาษาเพื่อการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
จารุวรรณ คำบุญเรือง. (2555). การพัฒนาแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการสอนอ่านแบบ DR-TA (Directed Reading-Thinking Activity). (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต) สาขาวิชาหลักสูตรและการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ธนาธิป เสือขำ. (2564). การพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความภาษาไทยด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดีอาร์-ทีเอ DT-TA (Directed ReadingThinking Activity) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต) สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต. กรุงเทพฯ.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
สมบัติ ท้ายเรือคำ. (2551). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย. มหาสารคาม: ภาควิชาวัดผลและวิจัยการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สายใจ ทองเนียม. (2560). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
อภิรดี เสนาวิน. (2555). ผลการสอนอ่านแบบโพโรนามาที่มีต่อความสามารถในการอ่านจับใจความและความสนใจในการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต) สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
เอกลักษณ์ เทพวิจิตร. (2558). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้วยวิธีการสอนอ่านแบบ DR-TA (Directed Reading – Thinking Activity). (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Stauffer, R.G. (1969). Directing Reading Maturity as a Cognition Process. New York: Harper & Row.
Tierney, R.J.; et al. (1995). Reading Strategies and Practices. 4th ed. Massachusetts: Allyn and Bacon.