การบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายสังคมที่ทันสมัย เพื่อให้บริการประชาชนของโรงพยาบาลตำรวจ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อศึกษา 1) ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการ 2) แนวทางการปรับปรุงการบริหารจัดการ และ 3) เปรียบเทียบความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างบางกลุ่มต่อภาพรวมแนวทางการปรับปรุงการบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายสังคมที่ทันสมัยเพื่อให้บริการประชาชนของโรงพยาบาลตำรวจ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามซึ่งผ่านการหาคุณภาพ ซึ่งรวมทั้งผ่านการหาค่าความเที่ยงตรง และความเชื่อถือได้ของแบบสอบถามที่ระดับ 0.89 สำหรับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนผู้มารับบริการตรวจรักษาที่เป็นผู้ป่วยนอกทั้งหมด จำนวน 625 คน ซึ่งได้มาจากการคำนวณโดยใช้สูตรการหาจำนวนกลุ่มตัวอย่างของ ทาโร่ ยามาเน่ เก็บรวบรวมแบบสอบถามคืนมาได้ 458 ชุด คิดเป็นร้อยละ 73.28 ของแบบสอบถามทั้งหมด สำหรับสถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัญหาสำคัญ คือ โรงพยาบาลตำรวจปฏิบัติงานโดยนำเทคโนโลยีและเครือข่ายสังคมที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการประชาชนในทิศทางที่มุมานะและเอาใจใส่ประชาชนผู้มารับบริการตรวจรักษาไม่มากเท่าที่ควร 2) แนวทางการปรับปรุงการบริหารจัดการที่สำคัญ คือ ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลตำรวจควรสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีอย่างชัดเจนและต่อเนื่องในเรื่องการปฏิบัติงานโดยนำเทคโนโลยีและเครือข่ายสังคมที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการประชาชนอย่างสุจริต มุมานะ และเอาใจใส่ประชาชนผู้มารับบริการตรวจรักษาเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลตำรวจควรกำหนดนโยบาย และแผนงานที่ชัดเจนและต่อเนื่องเพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทั้งจัดการฝึกอบรม หรือพัฒนาบุคลากรทุกระดับเพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการใช้ช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่เป็นฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ มาใช้สนับสนุนการให้บริการประชาชนอย่างทันสมัย เป็นสากล และในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นด้วย และ 3) กลุ่มตัวอย่างเพศชายกับเพศหญิง และกลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และมีการศึกษาปริญญาตรี หรือสูงกว่าปริญญาตรีมีความเห็นไม่แตกต่างกันต่อภาพรวมแนวทางการปรับปรุงการบริหารจัดการ