ความชื่นชอบส่วนบุคคลสู่การผลักดันโครงการย้ายเรือนไม้ปั้นหยา เพื่อการพัฒนาโครงการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมในเชิงพาณิชย์

Main Article Content

อรรถดา คอมันตร์
พีรยา บุญประสงค์

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เริ่มจากความชื่นชอบส่วนบุคคลของนักอนุรักษ์เรือนไม้เก่า ที่นำไปสู่การรักษาและบูรณะเรือนปั้นหยาไม้โบราณที่ชำรุดทรุดโทรมและเสี่ยงต่อการถูกรื้อหรือทำลายเนื่องจากต้องใช้ต้นทุนสูงในการดูแล คำถามวิจัยในครั้งนี้มีอยู่ว่า การบริหารจัดการโครงการย้ายเรือนไม้ปั้นหยาโบราณเพื่อการอนุรักษ์ในเชิงพาณิชย์จากความชื่นชอบส่วนบุคคลนั้นเป็นอย่างไร โดยการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่ประยุกต์ใช้แนวคิดการใช้พื้นที่ผสมผสานจำนวน 4 โครงการคือ 1) โครงการบุราณ บางโตนด 2) โครงการวิลล่า มูเซ่ เขาใหญ่ 3) โครงการศตวรรษสยาม 4) โครงการสิบสองหน่วยตัด ด้วยกรอบแนวคิดเรื่องการถวิลหาอดีต การสร้างอัตลักษณ์แห่งสถานที่ และการอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรมไม้ ผ่านวิธีการศึกษาเชิงปรากฏการณ์วิทยาและการวิเคราะห์ตัวบท ผลการศึกษาพบว่า ความชื่นชอบส่วนบุคคลของเจ้าของโครงการเป็นปัจจัยสำคัญในการแบ่งระดับของการอนุรักษ์ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับต้นทุน ช่างฝีมือ รสนิยม ความเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์ และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน สำหรับการดำเนินการโครงการอนุรักษ์เรือนไม้ปั้นหยาโบราณเพื่อการใช้ประโยชน์ใหม่ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างยั่งยืนในเชิงพาณิชย์ ความชื่นชอบส่วนบุคคลของเจ้าของโครงการมีอิทธิพลต่อความสำเร็จของโครงการผ่านปัจจัยสำคัญ 3 ด้าน คือ 1) ปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกับเรือนปั้นหยาในโครงการ (บริบทของเรือน ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับตัวเรือน สภาวะของพื้นที่ตั้งใหม่)  2) ปัจจัยด้านกระบวนการเคลื่อนย้ายและอนุรักษ์ (ก่อน ระหว่าง และหลังการอนุรักษ์) และ 3) ปัจจัยในการสร้างความยั่งยืนของแต่ละโครงการ (รายได้ ฐานลูกค้า ทรัพยากรบุคคล และแผนงานในอนาคต) นอกจากปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการทั้ง 3 ประการแล้ว ความชื่นชอบส่วนบุคคลของเจ้าของโครงการยังส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการออกแบบอัตลักษณ์ของถิ่นที่ของโครงการอนุรักษ์ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างประสบการณ์ร่วม ก่อให้เกิดความรู้สึกถึงความโหยหาอดีตแก่ผู้เข้าใช้บริการ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนโครงการในอนาคต

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

กรมธนารักษ์. (2567). การประเมินราคาที่ดิน (ราคากลาง) ของกรมธนารักษ์ (2566). https://assessprice.treasury.go.th/

กรมศิลปากร. (2528, 19 สิงหาคม). ระเบียบกรมศิลปากรว่าด้วยการอนุรักษ์โบราณสถาน พ.ศ. 2528 https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/9s5cuiwtuSI3uniVk7sTXL7u7NWNEmhJNcbrAcEO.pdf

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2567). สถิติด้านการท่องเที่ยว ปี 2566. https://www.mots.go.th/news/category/704

น.ณ. ปากน้ำ. (2543). แบบแผนบ้านเรือนในสยาม (พิมพ์ครั้งที่ 4). สำนักพิมพ์เมืองโบราณ.

นิพัทธพงศ์ พุมมา เเละณรงค์กรรณ รอดทรัพย์. (2555). การโหยหาอดีตในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย. วารสารอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน, 3(1), 47–59.

ผุสดี ทิพทัส. (2545). บ้านในกรุงรัตนโกสินทร์ 2 รัชกาลที่ 4–5 (พ.ศ. 2394–2453). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พระราชบัญญัติ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535. (2535, 5 เมษายน). https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/waPq1hqGWYZrrrJg367QGOd1W1gPIIdzcXful88e.pdf

พัฒนา กิติอาษา. (2546). มานุษยวิทยากับการศึกษาปรากฏการณ์โหยหาอดีตในสังคมไทยร่วมสมัย. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).

พีรยา บุญประสงค์. (2562). อัตลักษณ์ของถิ่นที่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงการใช้สอยของอาคารเก่าในเขตเมืองเก่า. วารสารวิจัยและสาระสถาปัตยกรรม/การผังเมือง, 16(2), 31–47.

สภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ. (2554). กฎบัตรประเทศไทยว่าด้วยการบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรม (Thailand Charter on Cultural Heritage Sites Management) โดยสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (International Council on Monuments and Sites Thailand). https://www.icomosthai.org/THcharter/63546_Charter_updated.pdf

เสาวลักษณ์ พงษธา โปษยะนันทน์. (2565). หลักการและแนวทางการอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรมไม้. กรมศิลปากร.

Antonini, E., Favaretto, G., & Pretelli, M. (2021, March). Heritage buildings towards the future: Conservation and circular economy for sustainable development. Journal of Technology for Architecture and Environment, (2), 117–121. https://doi.org/10.13128/techne-10694

Djebbour, I., & Biara, R. W. (2020, June). The challenge of adaptive reuse towards the sustainability of heritage buildings. International Journal of Conservation Science, 11(2), 519–530.

Greffe, X. (n.d.). The economic value of heritage. http://www.planningstudies.org/pdf/Raphael%20Greffe-%20E%20%28formatted%29.pdf

Gregory, J. (2008, February 12). Reconsidering relocated buildings: ICOMOS, authenticity and mass relocation. International Journal of Heritage Studies, 14(2), 112–130.

Moioli, R. (2015, December). Architectural cultural heritage and sustainability: How many pillars? In Bio cultural 2015: International Conference on Sustainability in Architectural Cultural Heritage (pp. 202–211). Limassol, Cyprus.

Nocca, F. (2017). The role of cultural heritage in sustainable development: Multidimensional indicators as decision-making tool. https://www.mdpi.com/2071-1050/9/10/1882

RashaFawzy, A. B. (2010). Relocation as an approach for conservation of historical buildings [Unpublished master’s thesis]. College of Engineering and Technology (AASTMT).

Roders, A. P., & van Oers, R. (2011, May). Bridging cultural heritage and sustainable development.Journal of Cultural Heritage Management and Sustainable Development, 1(1), 5–14.

Yazgan, I. O., & Unay, A. I. (2020, December). Planning a relocation method to preserve structural integrity during the holistic relocation of historical buildings. Journal of Architectural Engineering, 26(4). https://doi.org/10.1061/(ASCE)AE.1943-5568.0000435