ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะเชิงสัณฐานของจังหวัดนนทบุรี และขอบเขตการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน

Main Article Content

ปัณฑิตา ปัณฑะจักร์
ไขศรี ภักดิ์สุขเจริญ

บทคัดย่อ

โรงพยาบาลเป็นสาธารณูปการสำคัญที่ตอบสนองความต้องการด้านสาธารณสุขของเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินควรต้องมีระดับความเป็นสาธารณะสูงมีพื้นที่ตั้งเชื่อมโยงสัมพันธ์กับพื้นที่เมืองเป็นอย่างดี เข้าถึงได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งการขยายตัวของเมืองและโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องนั้น อาจทำให้ขอบเขตการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินไม่ครอบคลุมพื้นที่เหมือนเช่นเคย และส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของเมือง โดยสถานการณ์การแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดนนทบุรียังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ คือระยะเวลาตอบสนองการปฏิบัติการฉุกเฉิน (response time) ภายใน 8 นาที ไม่น้อยกว่าร้อยละ 36 งานวิจัยนี้มุ่งเน้นศึกษาลักษณะเชิงสัณฐานของจังหวัดนนทบุรี อันประกอบด้วยรูปแบบโครงข่ายการสัญจร (transit network pattern) รูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคาร (land use and building use pattern) และรูปแบบความหนาแน่นของมวลอาคาร และที่ว่าง (figure and ground pattern) วิเคราะห์ร่วมกับศักยภาพการเข้าถึงและมองเห็นเชิงพื้นที่ของโรงพยาบาลระดับเมือง (global potential of accessibility and visibility) และระดับย่าน (local potential of accessibility and visibility) การเชื่อมต่อ (potential of connectivity) ด้วยชุดทฤษฎีและเทคนิคสเปซซินแทกซ์ (space syntax) และสรุปความสัมพันธ์ของเส้นทางในโครงข่ายการสัญจร เพื่อให้ทราบถึงความสามารถในการทำความเข้าใจเมือง/ย่าน (intelligibility coefficient) และความผสาน (synergy coefficient) โดยโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ดีในจังหวัดนนทบุรีจะมีศักยภาพการเข้าถึง และมองเห็นเชิงพื้นที่ระดับย่าน (local integration) และการเชื่อมต่อเชิงพื้นที่ (connectivity) ที่สูง คือมีที่ตั้งอยู่บนหรือใกล้ถนนสายหลักไม่เกิน 1 เลี้ยว มีการใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคารมากกว่า 3 ประเภท มวลอาคารส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและมีสัดส่วนของที่ว่างใกล้เคียงกัน โดยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใด ๆ ผู้ใช้งานพื้นที่ทุกประเภทจะเลือกใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุดเพื่อสัญจรเข้าถึงพื้นที่ได้ง่าย และสะดวกด้วยจำนวนเลี้ยวที่น้อยที่สุด นำมาสู่การเสนอแนวทางพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินด้วยการปรับระดับศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่บนโครงข่ายการสัญจรที่มีศักยภาพเชิงพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อให้มีขอบเขตการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

ไขศรี ภักดิ์สุขเจริญ. (2547). วาทกรรมของเมืองผ่านโครงสร้างเชิงสัณฐาน. วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, 2(2), 63–76.

ธงศักดิ์ชัย สายพระราษฎร์, นิตยา แสงประจักษ์, วรกร วิชัยโย, และธวัชวงชัย ไตรทิพย์. (2565). การกระจายของชุดปฏิบัติการฉุกเฉินกับการเข้าถึงบริการและประสิทธิภาพการบริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตในประเทศไทย. วารสารการแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย, 2(2), 159–168. https://doi.org/10.14456/jemst.2022.15

ธนวรรณ ทิพยจันทร์. (2563). การวิเคราะห์โครงข่ายการให้บริการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุการจราจรทางบกของมูลนิธิร่วมกตัญญู อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี [วิทยานิพนธ์ปริญญาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

นัทชา สมสอน. (2559). การประยุกต์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ขอบเขตการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินจากการขยายตัวของเมือง จังหวัดนนทบุรี.[วิทยานิพนธ์ปริญญาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมนนทบุรี พ.ศ. 2566. (2566, 1 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 140 ตอนพิเศษ 48 ง หน้า 73–125.

พรชัย จันทร์ถาวร และภาวิณี เอี่ยมตระกูล. (2553). การประยุกต์ใช้แบบจำลองโครงสร้างเชิงสัณฐาน (space syntax) ในการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ กรณีชนท้าย. การประชุมวิชาการ การขนส่งแห่งชาติครั้งที่ 7, 7(1), 24–32. https://trsl.thairoads.org/FileUpLoad/1387/140804001387

ลักษณา สัมมานิธิ และรงรอล วงษ์วาล. (2565). การเข้าถึงพื้นที่ของโครงข่ายคมนาคมและการขนส่งกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน ในบริบทผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 4) พ.ศ. 2565.สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย, 22(2), 15–30. https://doi.org/10.14456/bei.2023.9

ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ และอดิศักดิ์ กันทะเมืองลี้. (2562, 4 พฤศจิกายน). สุสานคนเป็น : ความเสี่ยงในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของผู้สูงวัยในเมือง. Urban Design and Development Center. https://theurbanis.com/insight/04/11/2019/98

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2554). รายงานการศึกษาความคุ้มค่าการพัฒนาประสิทธิผลของการปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างทันท่วงที. https://www.niems.go.th/1/upload/migrate/file/255605011640317984_RvSYXfsNA89xrOvX.pdf?utm_source=chatgpt.com

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2565). แผนหลักการแพทย์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566–2570). https://www.niems.go.th/1/Ebook/Detail/16665?group=79

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2566). ระบบสารสนเทศการแพทย์ฉุกเฉิน (ITEMS). https://ws.niems.go.th/items_front/index.aspx

อภิรดี เกษมสุข. (2561). สเปซซินแท็กซ์ หนึ่งการศึกษาสัณฐานวิทยา. เมจิค พับบลิเคชั่น.

Hillier, B. (2000). Centrality as a process: Accounting for attraction inequalities in deformed grids. Urban Design International, 3(4), 107-127.

Hillier, B., & Hanson, J. (1984). The social logic of space. Cambridge University Press. https://doi.org/DOI: 10.1017/CBO9780511597237

Hillier, B., Hanson, J., Grajewski, T., & Xu, J. (1993). Natural movement: Or configuration and attraction in urban pedestrian movement. Environment and Planning B: Planning and Design, 20(1), 29–66. https://doi.org/10.1068/b200029

Holguin, J. M., Escobar, D. A., & Moncada, C. A. (2018). Access to emergency medical services: An urban planning methodology for the generation of equity. Global Journal of Health Science, 10(6), 181.