ความแตกต่างระหว่างการวางแผนแบบเดิมกับการวางแผนปรับปรุงชุมชนด้วยการวิจัยปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม : กรณีศึกษา ชุมชนวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

Main Article Content

มนสิชา ศรีบุญเพ็ง
กุณฑลทิพย พานิชภักดิ์

บทคัดย่อ

กระบวนการมีส่วนร่วมนั้นเป็นหนึ่งในกระบวนการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญที่มีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มาจากชาวชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (CPB) ผู้เป็นเจ้าของที่ดินมีนโยบายในการฟื้นฟูและพัฒนาชุมชนและที่อยู่อาศัยในย่านเมืองเก่าให้ดีขึ้น  โดยมีการคัดเลือกชุมชนนำร่องมาเป็นตัวอย่างในการพัฒนาด้วยการปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมชุมชนที่เลือกมาเป็นกรณีศึกษาคือ ชุมชนวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์  1) เพื่อศึกษากระบวนการวางแผนเพื่อหาความต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัยแบบเดิม (CP) กับแบบการวิจัยปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (PARP) 2) ศึกษาผลที่ได้จากกระบวนการแบบ CP กับแบบ PARP 3) วิเคราะห์ผลที่ได้จากการเรียนรู้เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 2 กระบวนการ โดยการศึกษาครั้งนี้ใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 7 เดือน 7 กระบวนการ


            ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลที่ได้จากการความต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัยด้วยกระบวนการ PARP นั้นมีความแตกต่างดังนี้ คือ จากเดิมที่มีการปรับปรุงอาคารเพียงภายนอก และระบบการระบายน้ำภายในชุมชน หลังจากการนำกระบวนการ PARP เข้าไปประยุกต์ใช้ได้เกิดการร่วมคิด ร่วมทำแผนพัฒนาฟื้นฟูชุมชนทั้งกายภาพ สังคม และเศรษฐกิจทำให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้และเกิดแรงจูงใจในการที่จะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนร่วมกันระหว่างแกนนำ ชาวชุมชน และบุคคลภายนอก


2) ความแตกต่างของกระบวนการระหว่างกระบวนการแบบ CP และ PARP คือ  แบบ PARP มีการลดบทบาทบุคคลภายนอกลง (นักพัฒนาเจ้าของที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) มาเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลและการดำเนินงาน  และเพิ่มบทบาทบุคคลภายใน (ชาวชุมชน) เพิ่มมากขึ้นโดยให้เป็นผู้คิดและพัฒนาชุมชนด้วยตนเอง  ซึ่งเป็นการจุดประกายให้ชุมชนเริ่มดำเนินการพัฒนาชุมชน  เกิดการรวมตัวของกลุ่มเพื่อจะจัดตั้งสหกรณ์และร่วมกันวางแผนผังชุมชนเบื้องต้นด้วยตนเองเพื่อเป็นข้อมูลการพัฒนาต่อไปในอนาคต        


            สรุปได้ว่าการวิจัยปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมนั้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชนทั้งด้านกายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีการสำคัญในการกระตุ้นชาวชุมชนให้เกิดการพัฒนาและจัดการตนเองได้อย่างยั่งยืนแต่การปฏิบัติการนี้นั้นต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่ง CPB ควรพิจารณาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุงชุมชนต่อไปในอนาคต

Article Details

บท
บทความวิชาการ

References

กุณฑลทิพย พานิชภักดิ์และปฐมา หรุ่นรักวิทย์. การวางแผนปฏิบัติการพัฒนาที่อยู่อาศัยและชุมชน: เอกสารประกอบการสอน. กรุงเทพฯ: ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2557.

โกวิทย์ พวงงามและชอบ เข็มกลัด. วิจัยปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมเชิงประยุกต์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เสมาธรรม, 2547.

ธีรวุฒิ เอกะกุล. ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: สถาบันราชภัฎอุบลราชธานี, 2542.

ปรางโชสุก สุพรรณนานา. “กระบวนการการจัดทำรายละเอียดโครงการและบริหารจัดการโครงการศูนย์ชุมชนแบบมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน บึงพระราม 9.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554.

พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์. การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน: พื้นฐานการศึกษาด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ไทยสัมพันธ์, 2551.

ศศิกาญจน์ ศรีโสภณ. “การวางแผนปฏิบัติการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบมีส่วนร่วมชุมชนท่าน้ำสามเสน.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2548.

สุภางค์ จันทวานิช. วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542.

สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์. “ข้อมูลรายละเอียดชุมชนสระเกศ.” กรุงเทพฯ: กองโครงการชุมชน 2 ฝ่ายโครงการพิเศษ สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, 2556.

อรัญ จิตตะเสโนและคณะ. หลักการและวิธีการบริการจัดการชุมชน. สงขลา: คณะทำงานจัดการองค์ความรู้ในโครงการวิจัยและพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สุขภาวะองค์รวม, 2554.

Nabeel, Hamdi and Reinhard Goethert. Action Planning for Cities: A Guide to Community Practice.
Chichester: John Wiley & Sons, 1997.