แนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮมของบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด มหาชน, บริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน และ บริษัทเอสซี แอสเสท จำกัด มหาชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
แนวคิดด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อการขายที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน งานวิจัยนี้จึงมุ่งศึกษาแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮมของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท (บมจ. พฤกษา), บริษัท แสนสิริ (บมจ. แสนสิริ) และ บริษัท เอสซี แอสเสท (บมจ. เอสซี แอสเสท) โดยเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัทและสัมภาษณ์ผู้ประกอบการในระหว่าง 1 ตุลาคม 2561 - มีนาคม 2562 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาคำสำคัญและจัดหมวดหมู่พร้อมเปรียบเทียบประเภทที่อยู่อาศัยและประเภทอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
ผลการศึกษาพบว่า 1) แนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮมของบมจ. พฤกษาเน้นสมาร์ทโฮมด้านผู้สูงอายุ ขณะที่ บมจ. แสนสิริ เน้นสมาร์ทโฮมพื้นฐานด้านการใช้ชีวิตและ บมจ. เอสซี แอสเสท เน้นสมาร์ทแพลตฟอร์ม และความปลอดภัย 2) อุปกรณ์เชื่อมต่อในสมาร์ทโฮมที่บริษัทจัดให้ แบ่งเป็น 4 หมวด คือ หมวดความสะดวกสบาย หมวดรักษาความปลอดภัย หมวดการควบคุม และหมวดสุขภาพ โดยอุปกรณ์ที่ทุกบริษัทจัดให้มีในที่อยู่อาศัยทุกประเภทและทุกระดับราคาคือ หมวดความสะดวกสบาย ส่วนหมวดรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่จะจัดให้มีในบ้านเดี่ยวและอาคารชุดพักอาศัย ขณะที่หมวดควบคุม ส่วนใหญ่จัดให้มีในอาคารชุดพักอาศัยรวมถึงในกลุ่มบ้านเดี่ยวของบางบริษัท และอุปกรณ์หมวดสุขภาพมีการจัดให้มีเฉพาะในทาวน์โฮมทุกระดับราคาของบางบริษัท 3) บริษัทกรณีศึกษาทั้ง 3 บริบท ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮมตามแนวคิดและกลยุทธ์องค์กรที่ได้ประกาศไว้ คือ บมจ.พฤกษาจัดให้มีอุปกรณ์ในหมวดสุขภาพในทาวน์โฮมเพื่อรองรับผู้สูงวัย ขณะที่ บมจ.แสนสิริจัดให้มีอุปกรณ์หมวดควบคุม เช่น ระบบเปิดปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ ทีวี และระบบสั่งงานด้วยเสียง โดยจัดในอาคารชุดพักอาศัยเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดด้านการใช้ชีวิต และบมจ.เอสซี แอสเสท จัดให้มีอุปกรณ์ในหมวดรักษาความปลอดภัยในที่อยู่อาศัยทุกประเภท
จากการศึกษาสะท้อนให้เห็นแนวคิดของการจัดอุปกรณ์เพื่อการเชื่อมต่อในที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮมของผู้ประกอบการ ทั้งนี้พบว่า ที่อยู่อาศัยระดับราคาสูงมีการให้อุปกรณ์เชื่อมต่อมากกว่าที่อยู่อาศัยที่ระดับราคาต่ำกว่า รวมถึงมีการจัดอุปกรณ์เชื่อมต่อค่อนข้างมากในอาคารชุดพักอาศัย อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมีเฉพาะในที่อยู่อาศัยระดับราคาสูง ซึ่งผู้ประกอบการควรจะพิจารณาจัดอุปกรณ์เหล่านี้ในที่อยู่อาศัยทุกประเภททุกระดับราคา เนื่องจากเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญของที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยและสามารถสร้างจุดเด่นในการขายด้านที่อยู่อาศัยสมาร์ทโฮมต่อไป
Article Details
เอกสารอ้างอิง
เจษฎา ขจรฤทธิ์, ปิยนุช ชัยพรแก้วและหนึ่งฤทัย เอ้งฉ้วน. “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Internet of Things ในการควบคุมระบบส่องสว่างสำหรับบ้านอัจฉริยะ.” Journal of Information Science and Technology 7, 1 (January-June 2017): 1-11.
ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์. หัวหน้าสายงานการตลาด บมจ. เอสซี เอสแสท. สัมภาษณ์, 17 ตุลาคม 2561.
นิธิ กวีวิวิธชัย. “ถอดรหัสกระแสบ้านอัจฉริยะ.” สืบค้น 5 กุมภาพันธ์ 2562. www.prop2 morrow.com/2019/02/11/
ถอดรหัสกระแสบ้านอัจฉริ/.
ประภาพร กุลลิ้มรัตน์ชัย. “แนวโน้มเทคโนโลยีปัจจุบันกับการใช้งานในอนาคต.” วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 10, 1 (มกราคม-มีนาคม 2560): 31-34.
ฟิลิป คอตเลอร์, เหมะวัน การตะจายาและไอวัน เซเตียวาน. การตลาด 4.0. พิมพ์ครั้งแรก. กรุงเทพฯ: เนชั่นบุ๊คส์, 2560.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย. พิมพ์ครั้งแรก. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล, 2561.
ศุภมาส ด่านวิทยากุล. “บ้านอัจริยะในยุคไอโอที.” วารสารเทคโนโลยีวัสดุ 84 (มกราคม-มีนาคม 2560): 31-34.
สมัติถ์ ต่างวิวัฒน์. ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการ บมจ. แสนสิริ. สัมภาษณ์, 16 ตุลาคม 2561.
สราณี จิระวารี. “ทิศทาง Intelligent Home ในประเทศไทย.” วิทยานิพนธ์ปริญญา วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2548.
สุภัทร์ รัตนโสภณ. ผู้อำนวยการอาวุโสศูนย์นวัตกรรม บมจ.พฤกษา. สัมภาษณ์, 12 ตุลาคม 2561.
สุวิทย์ ภูมิฤทธิกุลและปานวิทย์ ธุวะนุติ. “Internet of Things เพื่อการเฝ้าระวังและเตือนภัยต่อสุขภาพของมนุษย์และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยใช้โปรแกรม Hadoop.” วารสารวิชาการปทุมวัน 6, 15 (มกราคม-เมษายน 2559): 61-72.