แนวทางการพัฒนาพื้นที่ว่างใต้ทางด่วนเพื่อประโยชน์สาธารณะ กรณีศึกษา : ทางด่วนฉลองรัช ( บริเวณบึงพระราม 9)

Main Article Content

จิรัฐฏ์ ปรัชญาแก้วไสล
ปนายุ ไชยรัตนานนท์

บทคัดย่อ

           พื้นที่สาธารณะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีความจำเป็นต่อพื้นที่เมือง ถ้าได้รับการวางแผนและออกแบบที่เหมาะสมจะก่อให้เกิดการใช้สอยที่เป็นประโยชน์ต่อประชากรในเมือง อีกทั้งยังเป็นการวางแผนการใช้พื้นที่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับชุมชน เพื่อพัฒนาในด้านเศรษฐกิจและสังคมอันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ใต้ทางด่วน แต่ในปัจจุบันกรุงเทพมหานครยังคงประสบปัญหาความไม่เพียงพอของพื้นที่สาธารณะสำหรับการบริการแก่ประชาชน จึงเริ่มมีแนวทางการพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนให้เป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมสาธารณะ ซึ่งพื้นที่ใต้ทางด่วนในกรุงเทพมหานครยังคงมีพื้นที่อีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ การศึกษานี้จึงมุ่งค้นหาแนวทางการพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้ทางด่วนฉลองรัช บริเวณบึงพระราม 9 ให้เกิดประโยชน์สาธารณะต่อชุมชนโดยรอบ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษานโยบายแผนงานของหน่วยงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ 2) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สภาพทางกายภาพของพื้นที่ศึกษาบริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช 3) เพื่อศึกษาทัศนคติและความต้องการการพัฒนาของชุมชนโดยรอบพื้นที่ศึกษา 4) เพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและนโยบายของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมีขั้นตอนการศึกษาเริ่มจากการทบทวนนโยบายและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง การเก็บข้อมูลจากการสำรวจสภาพพื้นที่ใต้ทางด่วน การเก็บข้อมูลแบบสอบถาม จำนวน 215 ครัวเรือน และการวิเคราะห์ใช้วิธีการทางสถิติเชิงพรรณนาเพื่อบรรยายลักษณะของข้อมูล และสถิติเชิงอนุมานเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปรคุณลักษณะประชากร กับ กิจกรรมการพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนและความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวก จากการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ในชุมชนมีความต้องการกิจกรรมการพักผ่อนในลักษณะการออกกำลังกาย และการพักผ่อนในลักษณะสงบที่ใกล้เคียงกัน โดยต้องการการออกกำลังกายมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 58.0 รองลงมามีความต้องการที่จะทำกิจกรรมเดินเล่นคิดเป็นร้อยละ 46.0 และนั่งพักผ่อนคิดเป็นร้อยละ 42.8 ในด้านความต้องการสิ่งอำนายความสะดวกพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความต้องการในด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในระหว่างทำกิจกรรมมากที่สุด เช่น ไฟแสงสว่างมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 62.8 รองลงมา คือห้องน้ำคิดเป็นร้อยละ 60.9 และสวนหย่อมคิดเป็นร้อยละ 40.9 ซึ่งความต้องการในด้านต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกันวิเคราะห์ได้จากความสัมพันธ์กับคุณลักษณะประชากร เช่น เพศ อายุ อาชีพ สถานการณ์ถือครองที่ดินที่อยู่อาศัย และระยะเวลาที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน ข้อเสนอแนะในการศึกษาพบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีนโยบายและแผนการดำเนินงานอย่างจริงจังเพื่อดำเนินการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ และจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็นรองรับกิจกรรม

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย. (2561). การพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ. สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2563, จาก www.exat.co.th/index.php/th/กรรมสิทธิ์ที่ดิน/การพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ.html

ชวิตรา ตันติมาลา. (2560). พื้นที่สาธารณะและการผลิตพื้นที่: ความหมายใหม่ของความสัมพันธ์ทางสังคม. วารสารบรรณศาสตร์ มศว, 10(1), 92–103. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2563, จาก https://ejournals.swu.ac.th/index.php/Jlis

ณัฐพงศ์ พรมไทร. (2549). การวางแผนพัฒนาพื้นที่นันทนาการในแขวงดินแดงและแขวงห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).

นิธิ ลิศนันท์. (2559). แนวทางที่ส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่สาธารณะในเมืองเก่านครราชสีมา. วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 15(1), 131–152.

นิรมล กุลศรีสมบัติ และ ยุวดี ศิริ. (2552). พื้นที่ทิ้งร้างกับการฟื้นฟูเมือง: กรณีพื้นที่ใต้ทางพิเศษยกระดับในกรุงเทพมหานคร. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2563, จาก http://www.arch.chula.ac.th/journal/files/article/4MDGxPvwEYSun105252.pdf

ปาจรีย์ ประเสริฐ. (2546). แนวทางการพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนในเขตกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).

ศุภชัย ชัยจันทร์ และ ณรงพน ไล่ประกอบทรัพย์. (2559). แนวคิดสาธารณะของพื้นที่สาธารณะในเมือง.วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 15(2), 71-83.

สำนักผังเมือง. (2559). โครงการศึกษาตัวแบบมาตรฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อวางผังเมืองรวม. สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2563, จาก http://subsites.dpt.go.th/edocument/images/pdf/sd_urban/3_0006.pdf

Madanipour, Ali. (1996). Design of urban space: An inquiry into a socio-spatial process. Chichester:Wiley.

Arendt, H. (1998). The human condition. Chicago: The University of Chicago Press.

Carr, Stephen, Francis, Mark, Rivlin, Leanne G. & Stone, Andrew M. (1992). Public space. New York, NY: Cambridge University Press.

Goodsell, C.T. (2003). The concept of public space and its democratic manifestations. The American Review of Public Administration, 33(4), 361-383.

Habermas, Jürgen. (1992). The structural transformation of the public sphere: An inquiry into a category of bourgeois society. Cambridge: Polity Press.

Trancik, R. (1986). Finding lost space. New York: Van Nostrand Reinhold.