The อิทธิพลของช่วงความยาวคลื่นแสง แผ่นสะท้อนแสง และพลังงานทดแทน ต่อลักษณะการสร้างมวล Tagetes erecta L. (ดาวเรือง) ในระยะทำใบและทำดอก
Main Article Content
บทคัดย่อ
เทคโนโลยี Light Emitting Diodes (LEDs) หรือหลอดแอลอีดี เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการนำมาใช้เป็นแหล่งกำเนิดแสงทดแทนแสงอาทิตย์ในโรงงานผลิตพืชมากที่สุด จากการทดสอบตัวอย่างหลอดแอลอีดีชนิด full spectrum พบว่า ในช่วงความยาวคลื่นแสง Photosynthetically Active Radiation (PAR) เป็นแบบ full spectrum เช่นเดียวกับแสงอาทิตย์ แต่มีความสม่ำเสมอของปริมาณโฟตอนแสงในแต่ละช่วงความยาวคลื่นแสงที่น้อยกว่า ลักษณะการกระจายตัวของแสงสู่พื้นที่ปลูกเป็นแบบกระจุกตัวบริเวณศูนย์กลางแต่ฟุ้งกระจายบริเวณชายขอบ และหลอดแอลอีดีแบบ full spectrum ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ งานวิจัยนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของช่วงความยาวคลื่นแสง แผ่นสะท้อนแสง และพลังงานทดแทน ต่อลักษณะการสร้างมวลของพืช โดยใช้หลอดแอลอีดีสัดส่วน R:G:B = 1.11 : 1.20 : 1.00, R:G:B = 2.04 : 2.12 : 1.00, R:G:B = 1.47 : 1.83 : 1.00 และ R:G:B = 2.53 : 2.67 : 1.00 ร่วมกับแผ่นสะท้อนแสงเอียง 60 และ 90 องศาจากระนาบพื้น และระบบไฟฟ้าแบบโซล่าเซลล์ DC เปรียบเทียบกับไฟบ้าน AC เป็นอุปกรณ์ในการศึกษา โดยเลือก Tagetes erecta L. (ดาวเรือง) เป็นพืชตัวอย่างเนื่องจากมีความต้องการปริมาณความเข้มแสงที่สูง
ผลการศึกษาพบว่า 1) ในระยะทำใบ การปลูกด้วยแสงที่มีสัดส่วน R:G:B = 1.11 : 1.20 : 1.00 ส่งผลดีที่สุดต่อการสร้างมวลราก ลำต้น ใบ และ ดอก ในระยะทำดอก การปลูกด้วยแสงที่มีสัดส่วน R:G:B = 2.04 : 2.12 : 1.00 ส่งผลดีที่สุดต่อการสร้างมวลรากและใบ และการปลูกด้วยแสงที่มีสัดส่วน R:G:B = 1.11 : 1.20 : 1.00 ส่งผลดีที่สุดต่อการสร้างมวลลำต้นและดอก 2) ในระยะทำใบ การปลูกด้วยแผ่นสะท้อนแสงเอียง 60 องศา ส่งผลดีต่อการสร้างมวลใบมากกว่า ในระยะทำดอก การปลูกด้วยแผ่นสะท้อนแสงเอียง 60 องศา ส่งผลดีต่อการสร้างมวลราก ลำต้น ใบ และ ดอก มากกว่า 3) ในระยะทำใบ การปลูกด้วยแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ DC ไม่ส่งผลแตกต่างต่อการสร้างมวลรากและดอก ในระยะทำดอก การปลูกด้วยแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ DC ไม่ส่งผลแตกต่างต่อการสร้างมวลลำต้น
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรวิทย์ กระจ่างพันธ์, ถิระวรรธน์ สืบธนะวงษ์ และ สุขสันติ์ หวังสถิตย์. (2561, มกราคม-เมษายน). การออกแบบแสงด้วยหลอดแอลอีดีส่องสว่างสำหรับปลูกพืชในอาคารโดยอ้างอิงปริมาณแสงรวมต่อวัน. วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร, 49, 498-501.
กระทรวงพลังงาน. กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน. (2553). คู่มือการพัฒนาและการลงทุนผลิตพลังงานทดแทน. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2562, จาก https://energy.go.th/2015/wp-content/uploads/2016/02/2- solar.pdf
ชานนท์ ลาภจิตร. (2560, เมษายน-มิถุนายน). ผลของหลอดไฟแอลอีดีสีขาว แดง และน้ำเงิน ต่อการเจริญเติบโตของผักบุ้งจีนที่ปลูกในระบบอะควาโพนิค. วารสารพืชศาสตร์สงขลานครินทร์, 4, 26-32.
ดนัย บุณยเกียรติ. [ม.ป.ป.]. การสังเคราะห์แสง. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2562, จาก https://web.agri.cmu.ac.th/hort/course/359311/PPHY4_photosyn.htm
นภัทร วัจนเทพินทร์ และ ไชยยันต์ บุญมี. (2560, มกราคม-กุมภาพันธ์). ไดโอดเปล่งแสงสีอะไรเหมาะสมกับการปลูกพืช. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 25, 158-176.
Chin, L.Y. & Chong, K.K. (2012, March). Study of high power light emitting diode (LED) lighting system in accelerating the growth rate of Lactuca sativa for indoor cultivation. International Journal of Physical Sciences, 7, 1773-1781. doi:10.5897/IJPS11.1568
Choi, H.G., Moon, B.Y. & Kang, N.J. (2015, June). Effects of LED light on the production of strawberry during cultivation in a plastic greenhouse and in a growth chamber. Scientia Horticulturae, 189, 22-31. doi:10.1016/j.scienta.2015.03.022
Gupta, D. S., & Agarwal, A. (2017). Artificial lighting system for plant growth and development:Chronological advancement, working principles, and comparative Assessment. In Light Emitting Diodes for Agriculture, 1-25. Cham: Springer Nature.
Kim, S.J., Hahn, E.J., H., Heo, J.W., & Paek K.Y. (2004, May). Effect of LEDs on net photosynthetic rate,growth and leaf stomata of Chrysanthemum plantlets in vitro. Scientia Horticulturae, 101, 143-151. doi:10.1016/j.scienta.2003.10.003
Stein, B., Reynolds, J. S., & McGuinness, W. J. (1986). Mechanical and electrical equipment for buildings (7thed.). Hoboken, NJ: John Wiley & Sons.