การตรวจสอบข้อขัดแย้งในแบบก่อสร้าง โครงการอาคารชุดพักอาศัยประเภทอาคารสูงผ่านแบบจำลองสารสนเทศอาคาร
Main Article Content
บทคัดย่อ
อาคารชุดพักอาศัยประเภทอาคารสูงเป็นอาคารประเภทที่มีข้อกฎหมายบังคับและกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เข้มงวด และเนื่องจากมีโปรแกรมการใช้งานหลากหลาย ทำให้มีความซับซ้อนด้านการออกแบบ รวมถึงมีผู้เกี่ยวข้องในโครงการหลากหลายส่วน จึงทำให้แบบก่อสร้างอาคารมักพบข้อขัดแย้ง ซึ่งหากข้อขัดแย้งไม่ถูกแก้ไขตั้งแต่ช่วงก่อนการก่อสร้างจะส่งผลกระทบต่อโครงการในช่วงการก่อสร้าง ในขณะเดียวกัน แบบจำลองสารสนเทศอาคารเป็นแนวคิดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในกระบวนการออกแบบและก่อสร้างอาคาร รวมถึงการตรวจสอบข้อขัดแย้ง จึงเป็นที่มาของการศึกษาการตรวจสอบข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นในแบบก่อสร้างโครงการอาคารชุดพักอาศัยผ่านแบบจำลองสารสนเทศอาคาร โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 5 โครงการ ศึกษาองค์ประกอบที่ก่อให้เกิดข้อขัดแย้งในแบบก่อสร้างโครงการ จัดทำตารางข้อขัดแย้งระหว่างงานย่อยของแต่ละหมวดงานที่มีจำนวนทั้งสิ้น 903 ข้อ ตรวจสอบข้อขัดแย้งกับกรณีศึกษา จัดกลุ่มข้อขัดแย้ง จัดอันดับ และสรุปผลการศึกษา
จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างพบค่าเฉลี่ยของจำนวนข้อขัดแย้งอยู่ที่ 301,327.20 ข้อต่อโครงการ และเมื่อจำแนกข้อขัดแย้งตามระดับชั้นพบว่า ระดับชั้นพักอาศัยมีค่าเฉลี่ยของจำนวนข้อขัดแย้งเป็นอันดับสูงสุดที่ 252,584.80 ข้อต่อโครงการ คิดเป็นร้อยละ 78.52 ของจำนวนข้อขัดแย้งทั้งโครงการ จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบข้อขัดแย้งเฉพาะระดับชั้นพักอาศัย นอกจากนี้พบว่า ข้อขัดแย้งที่มีปริมาณสูงสุดสามอันดับแรกของระดับชั้นพักอาศัย คือ ข้อขัดแย้งระหว่างงานผนังของหมวดงานสถาปัตยกรรมและงานท่อของหมวดงานระบบสุขาภิบาล ข้อขัดแย้งระหว่างงานผนังของหมวดงานสถาปัตยกรรมภายในและงานท่อของหมวดงานระบบสุขาภิบาล และข้อขัดแย้งระหว่างงานฝ้าของหมวดงานสถาปัตยกรรมภายในและงานท่อของหมวดงานระบบสุขาภิบาล ตามลำดับ โดยมีค่าเฉลี่ยของจำนวนกลุ่มข้อขัดแย้งอยู่ที่ 8.4, 8.2 และ 5.4 กลุ่มต่อโครงการ ตามลำดับ ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพัฒนาและก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย โดยการนำผลการศึกษาไปพิจารณาตรวจสอบกับโครงการที่พัฒนาอยู่ สำหรับใช้เป็นชุดข้อมูลประกอบการตรวจสอบข้อขัดแย้งผ่านแบบจำลองสารสนเทศอาคารต่อโครงการอื่น ๆ ในอนาคต
Article Details
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ. (2560). หลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างอาคาร. กรุงเทพมหานคร: คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ.
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา. (2561). ธุรกิจที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2563, จาก https://www.krungsri.com/bank/getmedia/4dda41fa-1db0-4b97-bca2-591cc99537d2/IO_Housing_ 181115_TH_EX.aspx
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. (2549). มาตรฐานการการจัดเตรียมแบบสร้างจริงและคู่มือเจ้าของอาคาร. กรุงเทพมหานคร: วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์.
สำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค. (2563). รายงานเรื่องร้องทุกข์ช่องทางศูนย์รับรื่องราวร้องทุกข์. สืบค้นเมื่อ 30 สิงหาคม 2563, จาก http://ccms.ocpb.go.th/Dashboard/D_channel_floor1.aspx
สิรีธร นะมะมุติ. (2560). การพัฒนาระบบฐานความรู้สำหรับตรวจสอบรายละเอียดของแบบรูปและรายการประกอบแบบที่ไม่สมบูรณ์ในโครงการก่อสร้างอาคารสูง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
Autodesk. (2012). A framework of implementing a BIM business transformation. Project Transformer, 10.
Dosumu, Oluwaseun Sunday & Clinton O, Aigbavboa. (2017). Impact of design error on variation cost of selected building project in Nigeria. Procedia Engineering, 196, 847-856.
National Institute of Building Sciences. (2007). National building information modelling standard. Washington, DC: NIBS.
The Pennsylvania State University. The Computer Integrated Construction Research Group. (2010). Project execution planning guide. Pennsylvania: CIC.