การพัฒนาแบบฝึกการเขียนย่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
คำสำคัญ:
แบบฝึก / การเขียนย่อความบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกการเขียนย่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการใช้แบบฝึกการเขียนย่อความ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกการเขียนย่อความ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบฝึกการเขียนย่อความ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความคิดเห็น การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัย พบว่า แบบฝึกการเขียนย่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 81.21/83.85 ผลสัมฤทธิ์การเขียนย่อความของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกการเขียนย่อความสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นักเรียนมีความคิดเห็นในระดับมาก
The purposes of this research were 1) to improve the efficient of the writing summary skills developmental exercises (WSDE) for mathayomsuksa 4 students 2) to compare the mathayomsuksa 4 students’ achievement scores in writing summary before and after learning by the WSDE. 3) to study the mathayomsuksa 4 students’ opinions about learning the writing summary by the WDSE. The samples were 30 mathayomsuksa 4 students. The instruments used to collect data were:
exercises on writing summary, lesson plans for writing summary, an achievement test in writing summary and a questionnaire. The data were analyzed by mean, standard deviation and t-test: dependent. The findings were as follow: The efficiency percentage of the exercise on writing summary was 81.21/83.85. The students’ achievement after using the WSDE was higher than before using the WSDE at the level of 0.05 and students’ opinions were revealed at a high level.