การประเมินหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาจีน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2562) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
คำสำคัญ:
การประเมิน, หลักสูตร, ภาษาจีนบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความคาดหวัง ความต้องการ และผลสะท้อนกลับที่มีต่อหลักสูตรโดยใช้โมเดล CIPPI ของ Daniel L. Stufflebeam เพื่อประเมินสภาพแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต และผลกระทบของหลักสูตร โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูล 6 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารคณะอาจารย์ประจำหลักสูตร ผู้ทรงคุณวุฒิ นักศึกษาปัจจุบัน บัณฑิต และกลุ่มผู้ใช้บัณฑิต เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
จากการศึกษาพบว่า หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาจีน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน มีการกำหนดจุดมุ่งหมาย วัตถุประสงค์ และโครงสร้างหลักสูตร รวมถึงการคัดเลือกนักศึกษา อาจารย์ผู้สอน และการจัดการเรียนการสอนโดยรวมที่เหมาะสม นักศึกษาส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาตามเวลาที่กำหนด และบัณฑิตได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้บัณฑิตในระดับสูง แต่หลักสูตรยังคงมีประเด็นที่ต้องปรับปรุง อาทิ การทำความร่วมมือกับภายใน ระบบการทำงานที่ซับซ้อน การขาดแคลนบุคลากรสายสนับสนุนที่มีความรู้ทางภาษาจีน ปัญหาผลงานวิชาการของอาจารย์มีจำนวนน้อย ระดับความรู้ภาษาจีนของนักศึกษาที่เข้าศึกษาไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด นักศึกษาขาดการเตรียมบทเรียน และการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง นักศึกษาบางส่วนไม่สามารถจบการศึกษาตามเวลาที่กำหนดได้ การเปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนในการกำหนดเกณฑ์การประเมินต่าง ๆ น้อย และสภาพแวดล้อมที่ต้องพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้น เป็นต้น
สำหรับผลการศึกษาด้านความคาดหวัง และความต้องการที่มีต่อหลักสูตร ผู้ให้ข้อมูลเสนอว่า ควรทำความร่วมมือกับหน่วยงานภายใน และภายนอก ปรับการเรียงลำดับวัตถุประสงค์ การเปิดรายวิชา และการเปิดรับอาจารย์คนจีน ผลักดันให้อาจารย์ทำผลงานวิชาการมากขึ้น และไม่ควรเปลี่ยนเอกสารประกอบการสอนบ่อยเกินไป หลักสูตรควรพิจารณาเกณฑ์การรับนักศึกษา อัตราค่าธรรมเนียมนักศึกษาโครงการพิเศษ กระตุ้นให้นักศึกษาเตรียมบทเรียนล่วงหน้า และศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง รวมทั้งเร่งแก้ปัญหานักศึกษาที่ไม่สามารถจบการศึกษาตามกำหนดได้ หลักสูตรยังควรพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษ การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้แก่นักศึกษา ในด้านการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ผู้ให้ข้อมูลเสนอว่า ควรพิจารณาเรื่องระยะเวลา ภาระงาน และกำหนดเกณฑ์การประเมินนักศึกษาให้เป็นเอกภาพ กระบวนการนิเทศควรใช้วิธีการสุ่มแทนการนัดหมาย นอกจากนี้ หลักสูตรยังควรเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก และแหล่งค้นคว้าข้อมูลภาษาจีนสำหรับอาจารย์ และนักศึกษา
เอกสารอ้างอิง
Eamoraphan, S., Dechakup, P., and Bundityanond, K. (2003). Concepts and Practices for Teachers to Meet the Professional Standards. Bangkok: Chulalongkorn University Press. (in Thai)
Kaemanee, T. (2023). Teaching Methodology: The Knowledge for Organizing an Effective Learning Process. (26thed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. (in Thai)
Li, C. (2010). Teaching and Learning Theory. Tsinghua University Press.
Nillapun, M. (2011). The Curriculum Evaluation on Doctor of Philosophy Program in Curriculum and Instruction Faculty of Education Silpakorn University. Nakhonpathom: Silpakorn University. (in Thai)
Office of the Educational Council. (2016). A Research Report on the Development of Chinese Language Teaching in Thailand at the Secondary School Level. Bangkok: Prikwangraphic Limited. (in Thai)
Paekaew, J., Budsaya, S., Dumsangsawad, N., and Numjaruen, T. (2019). Authentic Assessment. Journal of Education, 30(1), 22-33. (in Thai)
Taba, H. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. Harcourt Brace and World.
Thatthong, K. (2009). Development of School Curriculum According to the Core Curriculum: Basic Education 2008 (B.E. 2551). Bangkok: Phetkasem Printing Group. (in Thai)
Utranan, S. (1985). Instructional Management System. (2nded.). Bangkok: Center Publication. (in Thai)
Wongyai, W. (1994). Curriculum Development Process and Practical Teaching. Bangkok: Suviriyasarn. (in Thai)
Wu, L. (2001). Teaching Principle Model and Activity. Guangxi Education Publishing House.
Yu, B., and Zhao, J. (1991). Pedagogy. Press of University of Science and Technology of China.

