รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาสำหรับ บุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Main Article Content

วรพล วิแหลม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษา ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบประสิทธิผลก่อนและหลังของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษา 3) ศึกษาความพึงพอใจของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษา เป็นการศึกษานำร่อง (pilot study) กลุ่มตัวอย่างคือผู้ที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไปจำนวน 18 คน ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ตัวแปรอิสระ คือรูปแบบการจัดการเรีนการสอนที่เน้นโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ ตัวแปรตาม ประสิทธิภาพ ความคิดเห็นของ
ผู้เข้าอบรมที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่โค้ชและดูแลให้คำปรึกษา การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรม SPSS for Window V. 13.0
ผลการวิจัยพบว่าประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษา ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.59/82.63 เป็นไปตามเกฑณ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอน พบว่าคะแนนเฉลี่ยประสิทธิผลหลังการเรียนการสอนสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีระดับความพึอพอใจของผู้เข้าอบรมต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษานำอยู่ในระดับมากทุกด้าน ดังนั้นควรนำรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษา ไปใช้เป็นแนวทางในการ จัดอบรมสำหรับบุคลากรที่สนใจต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วิแหลม ว. (2021). รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการดูแลให้คำปรึกษาสำหรับ บุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ . วารสารธรรมศาสตร์, 40(2), 98–115. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/tujo/article/view/271856
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Campbell, D. T., & Stanley, J. C. (1963). Experimental and quasi-experimental designs for research on teaching, Handbook of research on teaching.

Cronbach, L. J. (1993). Essentials of Psychological Testing (5th ed). New York: Harper & Row. Journal of Psycheducational Assessement September.

Likert, R. A. (1993). Technique for the Measurement of Attitudes. ARCH Psychological.

Kruse, K. (2009). Introduction to instructional design and the ADDIE model. Retrieved October 30 (date), from http://www,e-learningguru.com/articles/art2_1.html.

Dick, W., Carey L., and Carey, J.O. (2005). The Systematic Design of Instruction. 5th ed. New York: Addison-Wesley, Longman.

จิตณรงค์ เอี่ยมสำอางค์. (2555). การพัฒนารูปแบบการโค้ชทางปัญญาแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อ พัฒนาสมรรถภาพการโค้ชและ การจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของครูพาณิชยกรรม. วิทยานิพนธ์ การศึกษาหลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. สาขาหลักสูตรการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 5(1), 2556.

ดวงหทัย โฮมไชยะวงศ์. (2557). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นการโค้ชและการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูประถมศึกษาของนักศึกษาวิชาชีพครู. วิทยานิพนธ์การศึกษาหลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. สาขาหลักสูตรการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ธัญพร ชื่นกลิ่น. (2553). การพัฒนารูปแบบการโค้ชเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของ อาจารย์พยาบาลที่ส่งเสริมกาคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาพยาบาลในสังกัด สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. สาขาหลักสูตรการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วรพล วิแหลม. (2557). วารสารธรรมศาสตร์, 33(3), 2557.