การตามรอยนโยบายการดูแล “ผู้ดูแล” ผู้สูงอายุ ด้วยวิธีของเซลมา เซเวนฮุจเซน เพื่อสร้างข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการดูแลผู้ดูแลผู้สูงอายุ

Main Article Content

เนตรชนก สุนา
วรรณลักษณ์ เมียนเกิด

บทคัดย่อ

ผู้ดูแลผู้สูงอายุถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ความสำคัญของผู้ดูแลน่าจะเท่าเทียมกับผู้สูงอายุ เพราะถ้าขาดผู้ดูแลที่มีคุณภาพ อาจส่งผลต่อผู้สูงอายุได้รับการดูแลไม่เหมาะสม ถูกทอดทิ้ง จากการทบทวนนโยบายเกี่ยวกับผู้ดูแลผู้สูงอายุ พบว่าไม่มีนโยบาย หรือสวัสดิการสำหรับผู้ดูแลอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ผู้ดูแลขาดการเหลียวแล หากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นสถานการณ์และปัญหาของผู้ดูแลควรหันกลับมาใส่ใจกับผู้ดูแลอย่างจริงจัง ผู้เขียนคำนึงถึงผู้ดูแลในฐานะคู่ความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกับผู้รับการดูแลในระบบการดูแลตามแนวคิดจริยศาสตร์การดูแล (ethics of care) จุดมุ่งหมายเพื่อนำไปสู่การสร้างนโยบายการดูแล “ผู้ดูแล” โดยพิจารณาใช้กระบวนการตามรอย (tracing) ของเซลมา เซเวนฮุจเซน (Selma Sevenhuijsen) เป็นเครื่องมือในการติดตามและสร้างข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้มีแนวทาง และบริการในการดูแลผู้ดูแลผู้สูงอายุอันจะนำไปสู่การกำหนดนโยบาย ปรับปรุง เพิ่มเติม แก้ไขกฎหมายสำหรับผู้ดูแล ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากการใช้วิธีการตามรอยทำให้นโยบายผู้สูงอายุมีมิติของการดูแลผู้ดูแลในด้านการบริการและสวัสดิการ กล่าวได้ว่าการตามรอยนโยบายของเซเวนฮุจเซนเป็นวิธีการใหม่ในการก่อร่างนโยบายและนำไปสู่การสร้างระบบการดูแลที่ให้ความสำคัญกับผู้ดูแลและผู้ได้รับการดูแลที่เท่าเทียมกัน                                                                                                                                                                                                                     

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สุนา เ., & เมียนเกิด ว. (2023). การตามรอยนโยบายการดูแล “ผู้ดูแล” ผู้สูงอายุ ด้วยวิธีของเซลมา เซเวนฮุจเซน เพื่อสร้างข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการดูแลผู้ดูแลผู้สูงอายุ. วารสารธรรมศาสตร์, 42(1), 146–173. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/tujo/article/view/272117
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2546). พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546. โรงพิมพ์เทพเพ็ญวานิสย์.

กรุงเทพมหานคร. (2560). แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร ระยะที่ 2 (พ.ศ.2561-2564). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ. (2561). แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545-2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2561. โรงพิมพ์สามลดา.

ประกาศกรมกิจการผู้สูงอายุ เรื่องมาตรฐานหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ. (2562, 20 มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 ตอนพิเศษ 157 ง. หน้า 7-8.

ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง การคุ้มครอง การส่งเสริม และสนับสนุนการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบความเดือดร้อน. (2563, 19 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 137 ตอนพิเศษ 117 ง. หน้า 27-33.

ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการ ระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562. (2562, 26 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 ตอนพิเศษ 211 ง. หน้า 45-46.

ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2561. (2561, 18 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 135 ตอนพิเศษ 261 ง. หน้า 25-33.

พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 36) พ.ศ. 2548. (2548, 13 มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 122 ตอนที่ 4 ก. หน้า 13-14.

พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 37) พ.ศ. 2552. (2552, 6 พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 126 ตอนที่ 84 ก. หน้า 5-7.

พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553. (2553, 15 กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 127 ตอนที่ 56 ก หน้า 1-3.

พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560. (2560, 27 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134 ตอนที่ 131 ก หน้า 36-39.

พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545. (2545, 18 พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 119 ตอน 116 ก. หน้า 1-28.

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2564). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทยพ.ศ. 2563. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย.

วรรณลักษณ์ เมียนเกิด, ศศิพัฒน์ ยอดเพชร และ เกษม เพ็ญภินันท์. (2558). การดูแลผู้สูงอายุในปริมณฑลส่วนตัวและสาธารณะ. วารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์, 23(1), 146-176.

วรรณลักษณ์ เมียนเกิด. (2557). การปฏิบัติการดูแล และคุณค่าทางจริยธรรมในการดูแลผู้สูงอายุของผู้ดูแล ตําบลบางสีทอง จังหวัดนนทบุรี. [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]. คลังทรัพยากรสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/ item/dc:105325

วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ และ ยศ วัชระคุปต์, (2560). ระบบประกันการดูแลระยะยาว: ระบบที่เหมาะสมกับประเทศไทย. มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย.

ศศิพัฒน์ ยอดเพชร. (2547). ผู้ดูแลผู้สูงอายุ : การสังเคราะห์องค์ความรู้. โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2550). พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 (พิมพ์ครั้งที่ 2). สหพัฒนไพศาล.

Asian Development Bank. (2020) . Aging Asia and the pacific: Singapore’s long-term care system adapting to population aging. Asian Development Bank.

Fukushima, N., Adami, J. & Palme, M. (2010). The Swedish long-term care system. European Network of Economic Policy Research Institutes and Assessing Needs of Care in European Nations. http://www.ancien-longtermcare. eu/node/27

Gilligan, C. (1982) In a different voice: Psychological Theory and Women’s Development. Havard University Press, Cambridge, Massachusetts. 481-577. https://www.researchgate.net/publication/275714106

Joël, M., Dufour-Kippelen, S., Duchêne, C., & Marmier, M. (2010). LONG-TERM CARE IN FRANCE. LEDA-LEGOS UNIVERSITY PARIS DAUPHINE.

Ramovš, J., Ramovš, A. & Svetelšek, A. (2019). Informal Carers Training: In-group Social Learning as an Effective Method for Quality Care Empowerment. In Klimczuk, A. & Tomczyk, Ł. (Eds.), Perspectives and Theories of Social Innovation for Ageing Population (p.118-135). Lausanne: Frontiers Media SA. https://doi.org/ 10.3389/978-2-88963-620-4

Schulz, E. (2010). The long-term care system for the elderly in GERMANY. European Network of Economic Policy Research Institutes and Assessing Needs of Care in European Nations. http://www.ancien-longtermcare.eu/node/27

Sevenhuijsen, S. (2003). The place of care: The relevance of the feminist ethic of care for social policy. Feminist Theory vol. 4(2): 179–197. SAGE Publications.

Sevenhuijsen, S. (2004). Introduction: Tracing care in social policies. In Sevenhuijsen, S & ŠVAB, A. (Eds.), Sevenhuijsen, The HEART of the matter: the contribution of the ethic of care to social policy in some new EU member states (pp.13-46). Peace Institute.

Sevenhuijsen, S. (1998). Citizenship and the ethics of care. Feminist considerations on justice, morality and politics. Routledge.

Sun, Q. (2019). Relationship between Confucian ethics and care: A reflection, rejection, and reconstruction. Journal of East-West Thought, 9(4), 53-66. https://journals.calstate.edu/jet/article/view/2373