โรงเรียนผู้สูงอายุ : คุณภาพชีวิตและสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ (กรณีศึกษาโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู, โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลนาเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด และโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลตาเบา จังหวัดสุรินทร์)

Main Article Content

อุไรวรรณ รุ่งไหรัญ

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับคุณภาพชีวิตและระดับสมรรถภาพร่างกาย และศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสมรรรถภาพร่างกายของผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลนาเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด และโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลตาเบา จังหวัดสุรินทร์ รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 279 คน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อฉบับภาษาไทย (WHOQOL-BREF-THAI) และแบบประเมินสมรรถภาพร่างกายผู้สูงอายุของกรมพลศึกษา สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย Independent Sample -Test, One Way ANOVA และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression)


                ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเพศหญิง ร้อยละ 85.3 ส่วนใหญ่อายุ 70 ปีขึ้นไป ร้อยละ 36.7 มีระดับการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 92.0 โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 68.7 และมีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 1,000 บาท ร้อยละ 51 ทั้งนี้ ส่วนใหญ่มีรายได้หลักสำหรับการดำรงชีวิตจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ร้อยละ 52.5 เช่่น โรคความดัันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และ อื่น ๆ ร้อยละ 54.55 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีค่าดัชนีมวลรวมกาย หรือ BMI อยู่ในระดับปกติ ร้อยละ 41.6 โดยระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 57.4 และปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ ความถี่ในการเข้าร่วมกิจกรรม และการมีโรคประจำตัว ทั้งนี้ ผลการประเมินสมรรถภาพร่างกายของผู้สูงอายุ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีสมรรถภาพร่างกายด้านความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อขา และความคล่องแคล่วว่องไว อยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 81.6 สมรรถภาพร่างกายด้านความทนทานของระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 50.39 และสมรรถภาพร่างกายด้านความอ่อนตัวของเอ็นข้อต่อและกล้ามเนื้อหัวไหล่ขวา อยู่ในระดับดี ร้อยละ 45.3 และปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับสมรรถภาพร่างกายของผู้สูงอายุ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ เพศ อายุ และการมีโรคประจำตัว

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
รุ่งไหรัญ อ. (2024). โรงเรียนผู้สูงอายุ : คุณภาพชีวิตและสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ (กรณีศึกษาโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู, โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลนาเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด และโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลตาเบา จังหวัดสุรินทร์). วารสารธรรมศาสตร์, 43(1), 81–98. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/tujo/article/view/272615
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2559). หลักสูตรโรงเรียนผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์์.

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2558). คู่มืือการคัดกรอง/ประเมินผู้สูงอายุ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักงานกิจการโรงพิมพ์สงเคราะห์องค์การทหารผ่านศึก

กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2563). คู่มือการประเมินสมรรถภาพร่างกายผู้สูงอายุด้วยแบบแบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายของเด็กเยาวชนและประชาชนไทย. กรุงเทพฯ : สำนักวิทยาศาสตร์์การกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

กรัณฑรัตน์ บุญช่วยธนาสิทธิ์ และมาสริน ศกลปักษ์. (2562). วิเคราะห์์องค์์ประกอบเชิงยืนยันสภาวะพฤฒพลัง ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาลทหารบก, 21(1), 205-213

กัญญาณัฐ ไฝคำ. (2561). การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในประเทศไทย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, 7(2), 19-26

งามนิตย์ ราชกิจ และพลอยปารีียา อายะนันท์. (2564). ปัจจััยที่มีความสัมพันธ์์กับความสุข 5 มิิติิของผู้สูงอายุ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย. วารสารจิตเวชวิทยาสาร, 37(1), 1-14

ชวลิต สวัสดิ์ผล. (2563). นโยบายการทำงานและการจ้างงานผู้สูงอายุ: ข้อสังเกตบางประการ. วารสารผู้ตรวจการแผ่นดิน, 13(1), 117-132

ประภาเพ็ญ สุวรรณ และมณีรัตน์ ธีระวิวัฒน์. (2564). จาก “พฤฒพลัง” สู่ “พฤฒสุขภาวะ”. วารสารสุขศึกษา, 44(1), 12-29

ปัณณทัต บนขุนทด. (2564). ปัจจัยที่ผลต่อคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในเขตบ้านหนองโพรง ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานีี, 29(2), 214-222

ศรีวรรณ ปัญติิ. (2551). คู่มือปฏิบััติการ การตรวจสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุุ. เชียงใหม่ :มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ศศิพัฒน์ ยอดเพชร, ภาวนา พััฒนศรีี และธนิิกานต์ ศัักดาพร. (2560). การถอดบทเรียนตัวอย่างที่ดีของโรงเรียนและชมรมผู้สูงอายุที่มีกิจกรรมถ่ายทอดความรู้. โครงการสร้างและจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบรองรับสังคมสูงวัย สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

สามิตร อ่อนคง. (2563). หลักสูตรพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุุในทศวรรษหน้า. วารสารบัณฑิตวิทยาลัยพิชญทรรศน์, 15(2), 169-180

สุพิตร สมาหิโต, อำพร ศรียาภัย, สิริพร ศศิิมณฑลกุล, นันทวัน เทียนแก้ว, สมภิยา สมถวิล, อิษฎี กุฎอินทร์ และอาริสร์ กาญจนศิลานนท์. (2556). เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายสำหรับประชาชนไทย อายุุ 19-59 ปีี. กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2560). ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุุไทย (Active Ageing Index of Thai Elderly). สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อุชุก ด้วงบุตรศรี, ทัศนีย์ สติมานนท์, มณเฑียร สติมานนท์, ชรพล จันทร และปิยยุทธ จิตต์จำนง. (2562). ผลกระทบของสังคมผู้สูงอายุต่อการผลิตในภาคเกษตรและความเหลื่อมล้ำของครัวเรือนเกษตรกรในชนบทของประเทศไทย. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

อัจฉรา ปุราคม. (2558). โครงการส่งเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุุในประเทศไทย. นครปฐม : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุุขภาวะ

Jones, C.J. & Rikli, R.E. (2002). Measuring functional fitness of older adults. The Journal on Active Ageing. 2, 24-30.

World Health Organization. (2015). World Report on Ageing and Health. Printed in Luxembourg.

World Health Organization. (2019). Healthy Ageing and the Sustainable Development Goals. WHO. https://www.who.int/ageing/sdgs/en/