รูปแบบการเรียนการสอนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอนาคตของผู้เรียนคหกรรมศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอนาคตของผู้เรียนคหกรรมศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น การวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1) การศึกษาฐานคิดทางทฤษฎีและการจัดการเรียนการสอนปฏิบัติการคหกรรมศาสตร์ 2) การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน และ 3) การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 ท่าน นำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จำนวน 37 คน ในรายวิชาอาหารนานาชาติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบ แบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาอนาคต แบบประเมินทักษะปฏิบัติ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีสำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัย พบว่า 1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีส่วนประกอบสำคัญ 5 ประการ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) รูปแบบการเรียนการสอน มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ การทบทวนความรู้เชิงทฤษฎี การวางแผนและแก้ปัญหาอนาคต การปฏิบัติด้วยตนเอง และ การประเมินผลและสะท้อนคิดปัญหา 4) เงื่อนไขการใช้รูปแบบ และ 5) การวัดและประเมินผล และ 2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมเรียนรู้ได้ โดยหลังทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนผู้เรียนมีผลการเรียนรู้ด้านความรู้ และทักษะการคิดแก้ปัญหาอนาคตสูงขึ้นกว่าก่อนทดลองใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีทักษะปฏิบัติอยู่ในระดับดี และมีความพึงพอใจในรูปแบบการเรียนการสอนมากที่สุด (= 4.52, S.D.=0.41)
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิจัยราชภัฏพระนครเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Davies, I. K. (1971). The management of learning. NY: McGraw-Hill.
Fitts, P. M. (1964). Perceptual-motor skill learning. NY: Academic Press.
Gagne, R. M. & Medsker, K. L. (1997). The conditions of learning: training applications. NY: Holt, Rinehart and Winston.
Joyce, B. & Weil, M. (2009). Model of teaching. 8th edition. NY: Prentice Hall.
Khammani, T. (2014). Education science: knowledge for efficiently learning process management. 18th edition. Bangkok: Darnsutha Co., Ltd. (in Thai)
NEA’s Doubts & Certainties. (1994). 12 principles for brain-based learning. Retrived February 15, 2015, from www.nea.org/teachexperience.
Office of The Royal Society. (2011). Royal Thai dictionary version 2542BE. Bangkok: Nanmeebooks publication press. (in Thai)
Phaiboonwattanagij, P. (2016). The development of learning achievement and future problem solving using Torrance’s future problem solving model for mathayomsuksa 5 students. Veridian e-journal, Silpakorn University. 9(3), 653-673. (in Thai)
Pongpoka, S. (2015). The development of problem solving thinking ability of mutthayomsuksa 6 students by future problem solving technique and mind mapping. Veridian e-journal, Silpakorn University. 8(2), 1223-1237. (in Thai)
Porntadavit, N. (2002). Perspectives of future home economics in Thailand: a reflection of vision and paradigm from present to future. Doctor of Philosophy, Faculty of Education, Kasetsart University. (in Thai)
Simpson, D. (1972). Teaching physical education: a system approach. Boston: Houghton Mufflin Co.
Thammakittipob, V. (2009). Handout of 01176611 innovation & change process in vocational education. Faculty of Education, Kasetsart University. (in Thai)