การถ่ายทอดความรู้การบรรเลงจะเข้ของครูสุธารณ์ บัวทั่ง

Main Article Content

ช่อทิพย์ ภู่มณี

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องการถ่ายทอดความรู้การบรรเลงจะเข้ของครูสุธารณ์ บัวทั่ง เนื่องจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านดนตรีไทยในยุคอดีตยังเป็นการถ่ายทอดแบบมุขปาฐะ หรือการบอกเล่าและท่องจำ ซึ่งจะไม่มีการจดบันทึกโน้ต จะใช้การท่องจำและการท่องเพลงเป็นหลัก การถ่ายทอดเพลงให้ผู้เรียนโดยตรง ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน และความอดทนในการฝึกฝน เพื่อให้เกิดทักษะในการบรรเลงที่เชี่ยวชาญมากขึ้น นอกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะวิชาชีพแล้ว ก็ยังจะต้องมีการถ่ายทอดเรื่องวิถีชีวิต การปฏิบัติตัวให้เหมาะสมในฐานะนักดนตรี และความเป็นคนให้แก่ศิษย์ ให้ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ครูสุธารณ์ บัวทั่ง เป็นนักดนตรีจะเข้ที่มีชื่อเสียง มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในวงการดนตรีไทย และสามารถบรรเลงเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย ทั้งยังเป็นที่รู้จักในวงการดนตรีไทย ด้านเครื่องสายไทยท่านหนึ่ง เริ่มเรียนดนตรีไทยตั้งแต่อายุ 7 ปี ได้ต่อเพลงจากบิดา คือ ครูเฉลิม บัวทั่ง (ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีไทย ประจำปี พุทธศักราช 2529)  ด้านผลงานการบรรเลงจะเข้ เมื่อปี พ.ศ. 2535 ครูสุธารณ์ บัวทั่ง ได้เข้าร่วมบรรเลงจะเข้กับนักดนตรีที่มีชื่อเสียงหลายท่าน อีกทั้งยังได้เดินทางไปเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศหลายๆ ประเทศ และได้ร่วมบรรเลงจะเข้ในการประกวดวงเครื่องสายไทยในนาม วงวัยหวาน เมื่อปีพุทธศักราช 2530 ได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และยังได้รับเกียรติให้บรรเลงจะเข้หน้าที่นั่ง และมีผลงานการประพันธ์เพลงเดี่ยวจะเข้ไว้หลายเพลง เช่น เพลงนกขมิ้น เพลงสุดสงวน เพลงสารถี เป็นต้น กระบวนการถ่ายทอดความรู้การบรรเลงจะเข้ของครูสุธารณ์ บัวทั่งนั้น แบ่งออกเป็นข้อๆ สรุปได้ดังนี้ 1. ตรวจสอบและวัดระดับความรู้ การรับรู้ความแตกต่างของระดับความรู้ของผู้เรียนแต่ละคนนั้น ถือเป็นสิ่งแรกที่สำคัญต่อกระบวนการถ่ายทอดความรู้ของผู้สอนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างของผู้เรียนและใช้ความแตกต่างดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการถ่ายทอดความรู้ให้สอดคล้องกับผู้เรียน 2. การทำตามแบบหรือเลียนแบบครู การสอนแบบให้ทำตามแบบหรือเลียนแบบครู เป็นวิธีการสอนซึ่งครูจะทำให้ดูทีละวรรค ทีละตอน อย่างเช่น การฝึกเทคนิค กลวิธีพิเศษต่าง ๆ เช่น การดีดสะบัด การดีดขยี้ การดีดตบสาย การดีดกระทบสายลวด ฯลฯ เทคนิคเหล่านี้ ครูจะทำให้ลูกศิษย์ดูอย่างชัดเจนให้เห็นรายละเอียดทั้งการใช้นิ้ว และการใช้ไม้ดีด เป็นต้น 3. การทำเองโดยไม่มีแบบแผน ลักษณะการถ่ายทอดความรู้วิธีนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ได้แสดงความคิด และความสามารถของตนเอง ครูจะให้ลูกศิษย์ได้คิดประดิษฐ์ทางเพลงที่ลูกศิษย์อยากจะบรรเลงแล้วให้บรรเลงให้ดู ด้วยความคิดที่ว่า ผลงานทางด้านศิลปะนั้น ไม่มีสิ่งใดที่ถือว่าถูกต้องที่สุด เพราะแต่ละคนมีความชอบและความถนัดไม่เหมือนกัน 4. ฝึกให้เกิดความชำนาญ กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ครูสุธารณ์ บัวทั่ง มักจะเน้นย้ำกับลูกศิษย์เสมอว่า การที่จะประสบความสำเร็จในการเป็นนักดนตรีไทยนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่การฝึกฝน การไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับครูที่มีชื่อเสียง มีความสามารถมากเพียงใด แต่ผู้เรียนไม่มีการฝึกฝนตนเองให้เกิดความชำนาญ ก็ไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จในการเป็นนักดนตรีไทยได้เหมือนอย่างครูที่เราเข้าไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ได้ 5. การปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม กระบวนการนี้จากการศึกษาสังเกตกระบวนการถ่ายทอดความรู้การบรรเลงจะเข้ของครูสุธารณ์ บัวทั่ง พบว่า กระบวนการนี้มักจะเกิดขึ้นอยู่สม่ำเสมอ โดยสอดแทรกเข้าไปในกระบวนการถ่ายทอดบทเพลงให้แก่ศิษย์ เชื่อมโยงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของดนตรีกับวิถีชีวิตไทย การดำรงตนอยู่ในสังคม เป็นต้น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ภู่มณี ช. . (2021). การถ่ายทอดความรู้การบรรเลงจะเข้ของครูสุธารณ์ บัวทั่ง. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 16(1), 256–272. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/PNRU_JHSS/article/view/248414
ประเภทบทความ
บทความทางวิชาการ (Academic Article)

เอกสารอ้างอิง

Poumanee., C. (2014), A Study of of Kru Sutharn Buatang’s Compositional Identity On Jakhay Solo Music, Master of Arts Thesis, Ramkhamhaeng University.

Domrongrachanuphap, Somdejphachaoborawongther Kormphaya, (1973). Pi Phat Legends, The Memorial of Nine Mi Subyen Cremation Ceremony page 20-28, Bangkok, Fine Arts Department.

Ministry of University Affairs (UD) Her Majesty Queen Sirikij and Her Preservation Activity on National Arts and Culture. Bangkok. Chulalongkorn Printing House.

Nickmanont.,P. (1992) Report on Research Searching Knowledge and Knowledge Transfer System in Rural Thai Communities, Bangkok, Srinakharinwirot University, Faculty of Education.

Yamkrinfong., P. (1992) Thai Rural Society. Bangkok. Publisher of Chulalongkorn University.

Kurowat., P. (1997) Thai Arts and Culture (2nd Published). Bangkok. Amorn Printing House.

Rakthong., P. (1996). The Study of Krueng Sai Pi Chava Ensemble. Master of Arts Thesis. Mahidol University.

Amartayakul., P. (1984) Dontrivichak: Knowledge of Thai Music for Appreciation, Bangkok. Siam Printing House, Printing Period

Tramote., M. (1995). Dontrithai. Bangkok. Printing Thai Wattanapanich.

Royal Academy (1997) Encyclopedia of Thai Music Terms on Vocal Session Royal Academy edition. Bangkok. Mahachulalongkornrajavidyalaya Press

Kosinanon., R. (1997) Musical Language (2ndPublished). Bangkok: Teavhers’ Council of Trade Organization.

Suboon., S. (1990) Experts on Jakhay in the Rattanakosin period. An Article Thai music Performance Secondary Education 14th (p 66-67). Bangkok.

Office of the National Culture Commission (1994). Use and Development of Processes For Local Culture Transmission. Bangkok. Press Office Ladprao Council.

Hemhongsa., H. (1998). Evolution of Transfer System on Jakhay: Master of Education Thesis, Chulalongkorn University.