สมรรถนะสำหรับการบรรเลงเดี่ยวจะเข้
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องสมรรถนะสำหรับการบรรเลงเดี่ยวจะเข้โดยทำการศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ตำรา และจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะ ความสามารถในการบรรเลงเดี่ยวจะเข้ จากการศึกษาข้อมูลแล้วพบว่าองค์ประกอบของสมรรถนะสำหรับการบรรเลงเดี่ยวจะเข้ จะต้องประกอบไปด้วย สมรรถนะทางวิชาชีพที่ผู้บรรเลงควรพึงมีคือ จะต้องมีความรู้ ทักษะ และความสามารถที่จะทำให้งานหรือการบรรเลงเดี่ยวในครั้งนั้นประสบความสำเร็จ และมีเจตคติที่ดีให้ตรงกับงานหรือการบรรเลงที่ต้องปฏิบัติ สมรรถนะทางวิชาชีพดนตรีนั้นอาจกระทำได้หลายวิธี การกำหนดสมรรถนะโดยใช้ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้เชี่ยวชาญ จะบอกได้ว่าผู้มีสมรรถนะในวิชาชีพนั้น ๆ ต้องมีความรู้เรื่องใด ต้องการทักษะอะไร ความสามารถสำคัญที่บุคคลต้องมีหรือต้องทำเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น ครูดนตรี ต้องมีสมรรถนะหลัก คือ การปฏิบัติเครื่องดนตรี เป็นต้น การปฏิบัติเครื่องดนตรี ถือเป็นสมรรถนะหลักที่คนในวิชาชีพดนตรีไทยจะต้องมีความรู้ มีความสามารถ และมีทักษะการฝึกปฏิบัติที่ได้มาเป็นอย่างดี การปฏิบัติเครื่องดนตรีชนิดเครื่องดีดที่ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงในที่นี้ก็คือ เครื่องมือจะเข้ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีไทยที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จะเข้ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีด ด้วยการขึงสายให้ตึงแล้วดีดสายทำให้เกิดเสียง เครื่องดีดในสมัยโบราณนั้น มีเพียงหนึ่งหรือสองสายเท่านั้น ต่อมาพัฒนาให้มีหลายสายและมีการใช้นม (fret) วางเรียงกันไปตามสาย สายหนึ่งสายสามารถผลิตเสียงได้หลายๆ เสียง ทำให้มีความสามารถในการผลิตเสียงได้มากขึ้น บทบาทและหน้าที่ในการบรรเลงของเครื่องดนตรีจะเข้ นอกจากจะเป็นการบรรเลงรวมวงแล้ว ยังเหมาะสำหรับการบรรเลงเดี่ยวอีกด้วย ในการบรรเลงเดี่ยวจะเข้นั้น ต้องมีความแม่นยำของทำนองหลัก หมายถึง บรรเลงถูกต้องตามทำนองเพลงของผู้ประพันธ์ และจะต้องมีความแม่นยำตามทางบรรเลงของการดีดจะเข้ด้วย นอกจากนี้ ความสามารถของตัวผู้บรรเลงจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนการบรรเลงจะเข้มาเป็นอย่างดี สามารถเรียนรู้ประวัติที่มาของเพลง ระเบียบวิธีการบรรเลงและเทคนิคในการบรรเลงเพลงเดี่ยว สามารถจดจำทำนองเพลงเดี่ยวได้อย่างแม่นยำ รู้จังหวะหน้าทับ ตลอดจนหมั่นฝึกซ้อมเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความชำนาญในการบรรเลง และเพื่อให้ผู้ฟังสัมผัสได้ถึงความวิจิตรพิสดารของการบรรเลงเพลงเดี่ยว สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที ในกรณีที่มีการลืมเพลงขึ้นมาในขณะที่บรรเลงอยู่ จากที่กล่าวมาทั้งหมด สมรรถนะสำหรับการบรรเลงเดี่ยวจะเข้ นอกจากตัวผู้บรรเลงจะต้องมีความชำนาญในการบรรเลงขั้นสูงแล้ว ยังต้องบรรเลงให้ถูกต้องตามหลักของกระบวนการดนตรีไทยอีกด้วย เพื่อให้การบรรเลงในครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ผู้ประพันธ์เพลงได้ประพันธ์เอาไว้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิจัยราชภัฏพระนครเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Limpachai, S. (2020). Primary Khim Solo. ( 2nd ed.). Bangkok: Sahathammic Co., Ltd. Printing
Pornprasit, K. (1996). A Study of Kru Lamiad Jittasewee ‘S Jakhay Solo. Thai Music, Master of Fine and Applied Art Thesis, Faculty of Fine and Applied Arts, Chulalongkorn University.
Royal Academy. (1997). Encyclopedia of Thai Music Terms on Vocal Session Royal Academy edition. Bangkok. Mahachulalongkornrajavidyalaya Press.
Silapabanleng, C., Khun Ying & Jindawat., L. (1978). Study of Thai Music, Bangkok : Aksorncharoentat Printing
Sornyai, P. (2004). Mon‘s Accent Jakhay Solo, Bachelor of Arts Thesis, Srinakharinwirot University
Sripayak, R. (2005). Competency Limit: Human Resources Management. Journal of Dhamrongrajanupap. 5(15), 65-81
Suttajit, N. (1996). Musical Activity for Teacher, Bangkok: Chulalongkorn University Printing.
Tiewtakul, W. (2003). Preparation of Core Competency of Work, Administrative Court, Bangkok, Kasetsart University Printing.
Thamwiharn, S. (1997). Thai Music, Bangkok: Chulalongkorn University Printing.
Thassanakulwong, T. (2016). Research Report of the Strategies for Jakhay Sound Quality Improvement from the masters who inherited the technique of the performance from the ancient master, Bangkok Bansomdejchaopraya Rajabhat University.
Tramote, M. (1938). Lecture of Thai Music Bangkok: Chuanpim Printing.
Tramote, M. & Kulthan., W. (1980). Listening and Understanding Thai Music, Bangkok: Thai Khaseam Printing.
Tramote, M. (1984). Som Song Seang: Montree’s Life of Music, Bangkok: Ruenkaew Printing Publisher.
Tramote, M. (1995). Dontrithai, Bangkok: Thai Wattanapanich Printing.
Wanitchthanom, R. (2005). Adaption of Competency in Human Resources Management. Seminar documentaries in the topic of the competency of Thai government officer. Office of Civil Service Commission.