การพัฒนาชุดการเรียนรู้และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

Main Article Content

ศตพล ใจสบาย

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดการเรียนรู้และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผ่านระบบออนไลน์ 2) ประเมินประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ตามเกณฑ์ 80/80 3) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนและหลังเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/12 โรงเรียนธาตุพนม จำนวน 36 คน ที่ได้จากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ ชุดการเรียนรู้ 5 ชุด แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการทดสอบค่าที


ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาชุดการเรียนรู้และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ พบว่า มีเนื้อหาครอบคลุมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณี ความเชื่อ และบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระธาตุพนม โดยออกแบบตามหลักการทางการศึกษาอย่างครบถ้วน ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้องมากกว่า 0.50 ทุกรายการ 2) ชุดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.59/81.57 สูงกว่าเกณฑ์ 3) ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 16.33 และ 16.47 และหลังเรียนเท่ากับ 22.97 และ 22.33 ตามลำดับ และ 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดการเรียนรู้ในระดับมาก (x̄ = 4.67, S.D. = 0.16) โดยด้านสื่อการเรียนรู้ Google Site ได้รับความพึงพอใจสูงสุด รองลงมาคือด้านประโยชน์ที่ได้รับและด้านผู้เรียน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้ผ่าน Google Site มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง

มลวรรณ ตั้งธนาคานนท์. (2563). การวัดและประเมินทักษะการปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กัลยา จันทร์พราหมณ์. (2562). การพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตามแนวการสอนแบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา (CLIL) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ใน ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา.

เกวลิน หวังมุทิตากุล. (2565). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้การสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (FLIPPED CLASSROOM) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 9(3), 470-478.

ณิชาภัทร ฤทธิ์ละคร. (2563). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้การสอนตามแนวคิดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา (CLIL) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยรังสิต.

ปุณณดา แจ้งพลอย. (2564). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต (หลักสูตรและการสอน). มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

มนสิช สิทธิสมบูรณ์. (2563). ระเบียบวิธีวิจัยทางหลักสูตร. (พิมพ์ครั้งที่ 2). พระนครศรีอยุธยา : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

วิจารณ์ พานิช. (2556). การสร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิสยามกัมมาจล.

สุชา อยู่อ่อน. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอน SQ4R ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

Torrance, E. P. (1962). Guiding creative talent. Englewood Cliffs. NJ: Prentice-Hall.

Ward, J. (1984). Techniques for Teaching Reading. English Teaching Forum, 22(3), 2-5.