โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหวางความคิดรวบยอดของการเรียนรูกับวิธีการเรียนรูของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6
Main Article Content
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพ ื่อพัฒนาและตรวจสอบความตรงเชิงโครงสรางของโมเดลความสัมพันธเชิง สาเหตระหว ุ างความคิดรวบยอดของการเรียนรูกับวิธการเร ี ยนร ี ูของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 ตามแนวคิดของ บิกสและมัวร (Biggs & Moore, 1993) กลุมตัวอยางเปนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 ในโรงเรียนสังกดสั านํ ักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปการศึกษา 2547 จํานวน 450 คน โมเดลประกอบดวยต ัวแปรแฝง 4 ตัว ไดแก ความคิดรวบยอดของการเรยนร ี ูเชิงปริมาณ ความคดรวบยอดของการเร ิ ยนร ี ูเชิงคุณภาพ และวิธีการเรียนรู 2 วิธีคือ วิธีการเรียนรูแบบผิวเผินและวิธีการเรียนรูแบบลึกเครองม ื่ ือที่ใชไดแกแบบสํารวจความคดรวบยอดของการเร ิ ียนรูและ แบบสอบถามวิธีการเรียนรูการวิเคราะหขอมูลใชโปรแกรม SPSS คํานวณคาสถิติพื้นฐานและใชโปรแกรม LISREL 8.50 ตรวจสอบความตรงเชิงโครงสรางของโมเดลความสัมพันธเชิงสาเหตุ ผลการวิจัยปรากฏวาโมเดลความสัมพันธเชิงสาเหตระหว ุ างความคิดรวบยอดของการเรียนรูกับวิธีการ เรียนรูมีความสอดคลองก ับขอม ูลเชิงประจักษอยในเกณฑ ู ดีโดยพิจารณาจากคาไค-สแควรเทากับ 1.01 ที่องศา อิสระเทากับ 9 คาความนาจะเปนเทาก ับ 1.00 ดัชนี GFI เทากับ 1.00 ดัชนี AGFI เทากับ 1.00 ดัชนี CFI เทากับ 1.00 คา SRMR เทากับ .00 และ คา RMSEA เทากับ .00 ความคิดรวบยอดของการเรียนรูมีอิทธิพลตอวิธีการ เรียนรูอยางมีนัยสําคัญ โดยความคิดรวบยอดของการเรียนรูเชิงปริมาณมีอิทธิพลทางตรงตอวิธีการเรียนรูแบบผิวเผิน แสดงวานักเรียนที่มีความคิดรวบยอดของการเรียนรูเชิงปริมาณจะใชวิธีการเรียนรูแบบผิวเผิน และความคิดรวบยอด ของการเรียนรูเชิงคุณภาพมีอิทธิพลทางตรงตอวิธีการเรียนรูแบบลึก แสดงวานักเรียนทมี่ ีความคิดรวบยอดของการ เรียนรูเชิงคุณภาพจะใชวิธีการเรียนรูแบบลึก นักเรียนมีแนวโนมจะใชวิธีการเรียนรูแบบใดแบบหนึ่งจะไมคอยใช วิธีการเรียนรทู ั้งสองแบบในการเรียนร
A CAUSAL RELATIONSHIP MODEL BETWEEN CONCEPTIONS OF LEARNING AND APPROACHES TO LEARNING FOR GRADE 12 STUDENTS
The purpose of this research was to develop and validate a causal relationship model between conceptions of learning and approaches to learning, based on the concepts of Biggs & Moore (1993). The sample consisted of 450 Grade 12 students in schools under the jurisdiction of the Office of Basic Education Commission, academic year 2004. The model consisted of four latent variables: quantitative conception of learning, qualitative conception of learning, and two approaches to learning: surface and deep. Research instruments included the Approaches to Learning Questionnaire, and the Conceptions of Learning Inventory. SPSS was employed for descriptive statistics; LISREL 8.50 was used to analyze the causal relationship model. Results indicated that the model was consistent with empirical data. Goodness of fit indicators included a chi-square value of 1.01 with 9 degrees of freedom; p = 1.00; GFI = 1.00; AGFI = 1.00; CFI = 1.00; SRMR = .00, and RMSEA = .00. The influence of conceptions of learning on approaches to learning was statistically significant. Students with a quantitative conception of learning used a surface learning approach, while students with a qualitative conception of learning used a deep learning approach. Students were found to use only one approach to learning, surface or deep, but not both