บทบาทขององค์กรสาธารณประโยชน์ในการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการล่อลวง การค้าประเวณี และการค้ามนุษย์

บทคัดย่อ

                 การค้าประเวณีเป็นประเภทหนึ่งของการค้ามนุษย์ ซึ่งมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคมที่มีการพลวัต จากการค้าประเวณีด้วยตัวเอง หรือช่องทางออฟไลน์ (Offline) โดยการเร่ค้าบริการไปยังแหล่งชุมนุมอันเป็นจุดนัดพบ เพื่อการค้าบริการ หรือในรูปแบบของการค้าบริการผ่านธุรกิจแอบแฝง จะเห็นได้จากธุรกิจที่เกี่ยวกับการให้บริการและ ความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ เช่น อาบ อบ นวด คลับ บาร์ ร้านคาราโอเกะ เป็นต้น ไปสู่การค้าประเวณีผ่านช่องทาง ออนไลน์ (Online) ด้วยแอพพลิเคชั่น (application) ต่างๆ เช่น line Facebook หรือ เว็บไซต์ (website) ค้าบริการ เป็นต้น กล่าวได้ว่าสื่อเทคโนโลยีที่มีความรวดเร็ว ทันสมัย จะเป็นช่องทางที่ใช่ในการใช้แสวงหาประโยชน์ทางเพศในการ ค้าประเวณีในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาจะพบว่ารูปแบบในการค้าประเวณีมีความหลากหลายและสลับซับซ้อนมากขึ้น แต่พบ ว่าผู้ค้าประเวณีไม่ได้มีจำนวนลดลง อีกทั้ง กฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายไม่ทันต่อสภาพการณ์ของปัญหา ซึ่งส่งผลก ระทบต่อการจัดการปัญหาการค้าประเวณีที่ยังไม่มีประสิทธิภาพมากนักในปัจจุบัน เป็นเหตุให้หน่วยงานองค์กร สาธารณประโยชน์ทำงานประเด็นเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี มีความตื่นตัวและตระหนักที่จะดำเนิน การด้านการค้ามนุษย์และการค้าประเวณีในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากกรณีข้างต้น และเป็นกลไกกลาง เชื่อมประสานการดำเนินงานทั้งในเชิงป้องกันปัญหา การติดตามช่วยเหลือด้านคดีความ การประสานงานกับองค์กรเอกชน ต่างประเทศเพื่อให้เกิดความร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น มูลนิธิเพื่อยุติการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ จากเด็ก (ECPAT Foundation Thailand) มูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง (FOW) หรือมูลนิธิ เพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) เป็นต้น ซึ่งงานวิจัยนี้จะศึกษาบทบาทขององค์กรในข้างต้น ว่าในแต่ละองค์กร จะมีเป้าหมาย บทบาทและหน้าที่ที่จะเข้าไปมีส่วนช่วยในการคดีที่เกี่ยวคดีการล่อลวง การค้าประเวณี และการค้ามนุษย์ ในประเทศไทยได้อย่างไร อีกทั้งมีแนวทางหรือกลไกในการดำเนินงานอย่างไรเพื่อแก้ไขหรือจัดการปัญหาการค้าประเวณี ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะดังนี้ควรมีการพัฒนาเครือข่ายระหว่างองค์กร สาธารณประโยชน์กับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และควรมีการจัดอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่ขององค์กรสาธารณประโยชน์ เกี่ยวกับการใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ในการดำเนินกระบวนยุติธรรม