The Relationship between Interpersonal Relationship and Current Self-concept with Self-esteem of the Elderly at Jong-Hua Foundation, Songkhla Province
Main Article Content
Abstract
This research aimed to study the interpersonal relationship and
current self-concept with self-esteem of the elderly at Jong-Hua
Foundation, Songkhla Province. The data were collected using a
questionnaire asking 24 elderly living at the foundation. The study found
that the elderly had a low level of self-esteem. The relationship between
friends, staff, community and the current self-concept of the elderly was
at a moderate level while the relationship with their relatives and
self-esteem was at a low level. Their relationship with friends and their
current self-concept was positive with self-esteem at a statistically
significant level of .001 and their relationship with the community was
positive with self-esteem at a statistically significant level of .05
Article Details
References
[2] สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2550). รายงานสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
[3] นาถยา ธรรมเพ็ชร มาธุรี อุไรรัตน์ ผู้สัมภาษณ์ ณ มูลนิธิสงเคราะห์คนชราอนาถาในจังหวัดสงขลา. 23 มกราคม 2560.
[4] มาธุรี อุไรรัตน์. (2552). การดูแลตนเอง การดูแลของครอบครัวและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ กรณีศึกษาในพื้นที่ชุมชนบ้านป่ากัน เทศบาลเมืองคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพัฒนามนุษย์และสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
[5] สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2551). สรุปผลที่สำคัญ การสำรวจสุขภาพจิตของ
คนไทย พ.ศ. 2551-2553. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560,
จาก http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/themes/files/
mentalHealthRep53.pdf.
[6] อรพรรณ ลือบุญชัย. (2545). การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช. กรุงเทพฯ :
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
[7] สุภาวดี พุฒิหน่อย. (2547). ความสัมพันธ์ระหว่างสัมพันธภาพกับผู้อื่นกับความ
พึงพอใจในชีวิตของผู้สูงอายุที่อาศัยในสถานสงเคราะห์. การค้นคว้าอิสระ
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
[8] พรพัจน์ กิ่งแก้ว. (2538). องค์ประกอบทางด้านครอบครัวที่มีผลต่อสุขภาพจิต
ของผู้สูงอายุ ตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตร์
มหาบัณฑิต. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
[9] มาลินี วงษ์สิทธิ์ และศิริวรรณ ศิริบุญ. (2541). ครอบครัวและผู้สูงอายุ: ศึกษากรณี
กรุงเทพมหานครและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. กรุงเทพฯ: วิทยาลัย
ประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
[10] นนทรี วงษ์วิจารณ์ และสุปาณี สนธิรัตน์. (2556). “ทัศนคติต่อการเป็นผู้สูงอายุ
การดูแลตนเอง ทักษะทางสังคม และความผาสุกในชีวิตของสมาชิกชมรมผู้สูง
อายุอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี”, วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
39(2), 66-79.
[11] สุกัญญา วชิรเพชรปราณี. (2553). “บทบาทผู้สูงอายุที่อยู่กับครอบครัวอย่างมีสุข
ในชุมชนกึ่งเมือง จังหวัด นครราชสีมา”, วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี.
นครราชสีมา. 16(1) มกราคม-มิถุนายน, 50-59.
[12] ปริญญา โตมานะ และระวิวรรณ ศรีสุชาติ. (2548). “ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง
ของผู้สูงอายุและปัจจัยเกื้อหนุนอื่น ๆ”, วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย.
13(1), 28-37.
[13] ชไมพร เจริญครบุรี. (2546). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการเห็นคุณค่าใน
ตนเองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533- 2543. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต.
ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
[14] มาลินี วงษ์สิทธิ์ และศิริวรรณ ศิริบุญ. (2537). “ศักยภาพของผู้สูงอายุในการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมต่าง ๆ : ข้อมูลจากงานวิจัย”, วารสารประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย. 10(1) มีนาคม, 46-49.
[15] ปรียาภรณ์ ตั้งเพียร. (2551). การสนับสนุนทางสังคม การเห็นคุณค่าในตนเอง
กับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
จังหวัดนนทบุรี. ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์.
[16] ฟานี สนิทนากุล. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างสัมพันธภาพกับความรู้สึก
มีคุณค่าในตนเองและการมองตนเองในปัจจุบันของผู้สูงอายุในศูนย์
พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา. ปริญญา
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. สงขลา : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
[17] Coopersmith. S. (1981). The Antecedents of Self-Esteem (2nd ed).
Palo Alto, CA : Consulting Psychologists Press.
[18] เกษตรชัย และหีม. (2554). การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเชิงปริมาณด้วยโปรแกรม
R แพ็คเกจ R commander สงขลา. สงขลา: คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์.
[19] Hinkle,D.E, William, W. and Stephen G.J. (1998). Applied Statistics
for the Behavior Sciences. 4th ed. New York : Houghton Mifflin.
[20] จารุวรรณ ต. สกุล และทัศนา บุญทอง. (2544). “เครื่องมือของพยาบาลจิตเวชใน
การบำบัดทางจิต. ในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช”. เอกสารการสอนชุด
วิชาการส่งเสริมสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช. หน่วยที่ 1-7. นนทบุรี :
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
[21] สุชาดา สมบุนย์สุข. (2552). การเห็นคุณค่าในตนเองของคนพิการทางกายใน
สมาคมคนพิการจังหวัดสมุทรปราการ. กรุงเทพฯ: ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาพัฒนาสังคม.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.