กลวิธีในการเล่นคำพรัดสิบสองบทของโนรา
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้นำเสนอการศึกษากลวิธีในการเล่นคำพรัดของ 3 คณะโนรา คือ คณะโนราณัฐพงศ์ หงส์ทอง คณะโนราศิษย์ขุนอุปถัมภ์นรากร (พุ่ม เทวา) และคณะโนราเกรียงเดช นวลระหงส์ ด้วยวิธีวิเคราะห์และถอดองค์ความรู้จากการลงพื้นที่เป็นการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วมในการเล่นคำพรัด ผลการวิจัยพบว่า กลวิธีในการเล่นคำพรัดประกอบด้วยโครงสร้างในการเล่น ลักษณะการร้องบท การจัดลำดับบทร้อง มีวิธีการเล่นที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ในแต่ละคณะ ซึ่งมีความแตกต่างกันตามบริบทพื้นที่ สายตระกูล และประสบการณ์ของศิลปิน โดยเฉพาะการจัดลำดับบทร้อง และวิธีการสื่อสารบทร้อง โดยมีนายโรง (หัวหน้าคณะ) เป็นผู้ควบคุมทิศทางในการเล่น อย่างไรก็ตามแม้ว่าการเล่นคำพรัดนั้นจะแตกต่างกันในหลายประเด็นในขณะเดียวกันก็มีโครงสร้างการเล่นที่เหมือนกันทั้ง 3 คณะ คือ การนำเข้าสู่บทร้อง การร้องบท การหยุดพัก และการร้องบทต่อ นอกจากนี้บทคำพรัดโนราเป็นคำสอนที่แฝงฝังอยู่ในบทร้องเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ คำสั่งสอน คติเตือนใจ แก่ผู้ชมโนราตามแนวทางการใช้ชีวิตของโนราที่มีเนื้อหาสาระและคุณค่าที่ปรากฏในบทร้องถูกถ่ายทอดผ่านศิลปะการแสดงโนราซึ่งประกอบด้วย การรำ การร้อง การเล่นเป็นเรื่อง ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแม้ว่าจะมีรูปแบบและวิธีการเล่น วิธีการสื่อสารความหมาย ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละคณะเพียงใด บทคำพรัดก็ยังสามารถคงสาระสำคัญที่แฝงฝังอยู่ในบทคำพรัดโนราและสื่อสารไปยังผู้ชมได้อยู่เสมอ
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Busararat, P. (1992). The Nora Rongkru in TA-KAE Village, Muang District, Patthalung Province. The Master of Arts degree in Thai Studies. Srinakharinwirot University. Department of Culture Promotion. http://research.culture.go.th/index.php/research/st/item/534-2012-09-17-17-29-43.html
Yammai, S. (2013). Gender Mystifications through Signifiers in the Nora Rong Kru Ritual. The degree of Master of Arts in Human and Social Development. Prince of Songkhla University. PSU Knowledge Bank. https://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2010/8912
Isaradej, T. (1999). Social implications of Nora Rongkru: A community study in Ban Bodaeng. The degree Master of Arts Department of Anthropology. Silapakorn University. Thesis online Silapakorn University library. http://www.thapra.lib.su.ac.th/thesis/showthesis_th.asp?id=0000000118
Sriporaya, K. (2016). A study of dance styles, dance ceremonies, and cosmology in Nora by comparing with Mayong and Barong. Doctor of Philosophy (Asian Studies) School of Liberal Arts. [Unpublished doctoral dissertation]. Walailak University.
Anuwat, J. (2023). The ritual dance ‘Nora Rong Kru’. Journal of Fine Arts Research and Applied Arts, 10(1), 68-89. https://so05.tcithaijo.org/index.php/arts/article/download/266481/178895/1075174. [in Thai]
Na Talhang, S. (2005). Folklore theory. Chulalongkorn University. [in Thai]
