Satisfaction of Undergraduate Students on Services and Welfares ofThaksin University’s Dormitory atPhatthalung Campus

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความพึงพอใจ ของนิสิตปริญญาตรีต่อการบริการและสวัสดิการของหอพัก มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง จำแนกตามเพศ ระดับชั้นปี คณะ และหอพักที่อาศัยอยู่ โดยเก็บ รวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.894 จากตัวแทนซึ่งเป็นนิสิตที่พักอาศัยในหอพักของมหาวิทยาลัย ห้องพักละ 1 คน จำนวน 252 ห้อง ซึ่งตัวอย่างได้มาโดยวิธีการชักตัวอย่างแบบแบ่งชั้นอย่างมีระบบ วงกลม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น คือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับการทดสอบสมมติฐานความ แตกต่างของความพึงพอใจ ผู้วิจัยได้ใช้สถิติเชิงอนุมาน โดยจะใช้การทดสอบที เมื่อจำแนกความพึงพอใจของนิสิตตามเพศ และจะใช้การทดสอบเอฟของการ วิเคราะห์ความแปรปรวน เมื่อจำแนกความพึงพอใจของนิสิตตามระดับชั้นปี และ หอพักที่อาศัยอยู่ เนื่องจากข้อมูลความพึง พอใจจำแนกตามตัวแปรดังกล่าวมีการ แจกแจงปกติ และมีความแปรปรวนคงที่ ขณะที่จะใช้การทดสอบครัสกาล-วอลลิส เมื่อจำแนกความพึงพอใจของนิสิตตามคณะ เนื่องจากข้อมูลความพึงพอใจของ นิสิตจำแนกตามคณะไม่มีการแจกแจงปกติ ถ้าพบว่าความพึงพอใจมีความ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญแล้ว จะทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธีการ ทดสอบพหุพิสัยของดันแคน ผลการวิจัยพบว่า นิสิตมีความพึงพอใจต่อการบริการ และสวัสดิการของหอพัก มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง โดยเฉลี่ยอยู่ใน ระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ความพึงพอใจส่วนใหญ่อยู่ใน ระดับปานกลาง และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย จำนวน 3 ข้อ ได้แก่ การ บริการอินเทอร์เน็ตเครือข่ายไร้สาย โทรศัพท์ภายในหอพัก และโทรทัศน์ภายใน หอพัก นอกจากนี้ยังพบว่า นิสิตแต่ละชั้นปี และแต่ละหอพักมีความพึงพอใจ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ขณะที่นิสิตที่มีเพศแตกต่างกัน และ ศึกษาอยู่แต่ละคณะมีความพึงพอใจไม่แตกต่างกัน

Satisfaction of Undergraduate Students on Services and Welfares of Thaksin University’s Dormitory at Phatthalung Campus

Warangkhana Keerativibool and Laddawan Nanakhon

This research was aimed to study and compare the satisfaction of undergraduate students on services and welfares of Thaksin University’s dormitory at Phatthalung campus. For the methods of studying, the satisfaction was classified by sex, year of study, faculty, and name of dormitory. All data were collected by the satisfaction questionnaire with the reliability at 0.894 from the representative undergraduate students who stay in the sample rooms for a total of 252 rooms, which samples were derived by the method of Circular Stratified Systematic Sampling. Statistics were used to analyze the preliminary data was descriptive statistics including frequency, percentage, arithmetic mean, and standard deviation. For testing the hypothesis of the difference in satisfaction, we use inferential statistics. T-test used to test the difference in satisfaction when classified by sex, whereas F-test from Analysis of Variance used to test the difference in satisfaction when classified by year of study and name of dormitory because the satisfaction data by such variables are normally distributed and constant variance. While, Kruskal-Wallis test used to test the difference in satisfaction when classified by faculty because the satisfaction data by faculty is non-normal distribution. If the significant difference in satisfaction was found, we test the multiple comparison of mean by the method of Duncan’s multiple range test. The results of this research were as follows. On the average of satisfactions, undergraduate students were satisfied on services and welfares of Thaksin University’s dormitory at Phatthalung campus at the moderate level. When considering each item, the most student’s satisfactions were moderate, and the low satisfactions presented in three items: the wireless internet network, telephone in dormitory, and television in dormitory. There was significant difference at .05 level in satisfaction when classified by year of study and by name of dormitory but there was no significant difference in satisfaction when classified by sex and by faculty.