การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเป็นฐานสำหรับการศึกษาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

Main Article Content

Warinee Weerasin
Somsak Akatimagool

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบและทดสอบประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบและทดสอบประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเป็นฐานตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 2) ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษาหลักสูตรอุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 19 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเป็นฐานที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย คู่มือครู ชุดสื่อการสอน และแบบทดสอบ การหาคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ความเที่ยงตรง สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าประสิทธิภาพ E1/E2  ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาคุณภาพอยู่ในระดับมาก (gif.latex?^{}=4.20,S.D=0.21) และประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเป็นฐานสำหรับการศึกษาด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้น มีค่าประสิทธิภาพ 74.90/75.06เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 และมีค่าความเที่ยงตรง 0.84  2) ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการใช้งานชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมาก (    =4.36,S.D=0.30) ดังนั้นชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาสำหรับการศึกษาด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้น สามารถนำไปประกอบการเรียนการสอนทางด้านวิศวกรรมโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

How to Cite
Weerasin, W., & Akatimagool, S. (2019). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเป็นฐานสำหรับการศึกษาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(2), 48–59. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pnuhuso/article/view/139118
บท
บทความวิจัย

References

ชญาภา ใจโปร่ง. (2554). กิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่เลือกใช้กลยุทธ์ในการแก้ปัญหาที่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างความสามรถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชัน สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 5(1), 7-20.

ทิศนา แขมมณี. (2560). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์. 2559. “การศึกษาไทย 4.0 ในบริบทการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”. สำนักนายกรัฐมนตรี. (28 สิงหาคม): 354.

เนตรฤทัย ขันอาษา. (2558). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตาม แนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ที่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 38(1), 159-166.

บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น

ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ. (2556). การพัฒนาการคิด พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.

วารินี วีระสินธุ์, สุรพันธ์ ตันศรีวงศ์ และสมศักดิ์ อรรคทิมากูล (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบ MIASCE สำหรับการศึกษาด้านคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า. การประชุมวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม ระดับชาติ ครั้งที่ 8. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ,164-169.

ศิลากาญจน์ รุ่งเรือง, วีระศักดิ์ ชมพูคำ และพิชญ์สินี ชมพูคำ (2559). การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ประยุกต์คณิตศาสตร์และทักษะการทำงานร่วมกันโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาร่วมกับการ จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารบัณฑิตวิจัย, 7(2), 107-121.

สุคนธ์ สินธพานนท์. (2558). การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.

สุราษฎร์ พรมจันทร์. (2554). รูปแบบการฝึกอบรมวิธีดำเนินการวิจัยและการจัดทำรายงานการวิจัยโดยใช้ กระบวนการสอนรูปแบบ MIAP สำหรับครูผู้สอนในสถานศึกษา, วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2(1), 29-34.

อลงกรณ์ พรมที และสมศักดิ์ อรรคทิมากูล. (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน เรื่องสมการแมกซ์เวลล์ คลื่นระนาบและกำลังไฟฟ้าของคลื่นโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ของ SATADE Model, วารสารครุศาสตร์ อุตสาหกรรมพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 6(1), 177-186.

อาคม ลักษณะสกุล, พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ และมงคล หวังสถิตย์วงษ์ (2556). การพัฒนารูปแบบการเรียนการ สอนทางวิศวกรรม กรณีศึกษาเรื่องระบบควบคุมแบบออโตจูน, วารสารวิจัย มข.(บศ.), 13(1), 14-27.

Kanyawit. K., Warinee, W., Pichit, U. & Somsak., A. (2016). “Development of REPEA Learning Model based on STEM-T Education.” Proceeding of the 1st international STEM education conference, 123-126. (in Thai)

Warinee, W., & Somsak, A. (2016). The Development of MIASCE learning model based on the creative problem solving process for electromagnetic wave education, Proceeding of IEEE international conference on Teaching, Assessment, and Learning for Engineering (TALE), 328-331. (in Thai)